ความเข้าใจผิดของพ่อแม่ เกี่ยวกับอารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่น
หงุดหงิดง่าย พูดอะไรนิดหน่อย ก็อารมณ์เสีย โลกส่วนตัวสูง ไม่อยากสุงสิงกับพ่อแม่ - วัยรุ่นที่บ้านมีพฤติกรรมประมาณนี้หรือเปล่าคะ?
หากใช่ แสดงว่าลูกของเราเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัวแล้ว และอารมณ์ร้ายๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยน่ารักเท่าไรนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในชีวิตวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม StarfishLAbz เชื่อว่ายังมีพ่อแม่ส่วนใหญ่ ที่อาจมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอารมณ์ร้ายของลูก บ้างก็คิดว่าลูกทำไปเพราะจงใจจะท้าทาย บ้างอาจคิดการกระทำเช่นนี้จำเป็นต้องถูกลงโทษเพื่อให้ปรับพฤติกรรม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจอารมณ์ลูกวัยรุ่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อพ่อแม่เข้าใจอย่างถูกต้องก็จะสามารถให้คำแนะนำและช่วยลูกก้าวผ่านวัยรุ่นไปสู่วัยผู้ใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มาอารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่น
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เด็กทุกคนต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง พวกเขาจึงไม่ต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากพ่อแม่ คล้ายๆ ลูกวัยเตาะแตะที่ชอบพูดว่า “หนูทำเอง”
วัยรุ่นก็เช่นกัน พวกเขาต้องการทำสิ่งต่างๆ ให้ได้เองเหมือนกับผู้ใหญ่ นั่นหมายความว่าลูกวัยรุ่นอาจปฏิเสธคำแนะนำหรือการช่วยเหลือของพ่อแม่ ซึ่งบางครั้งก็อาจเผลอมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ตวาด หรือปิดประตูเสียงดัง ในทางกลับกัน แทนที่จะรับฟังคำแนะนำจากพ่อแม่ วัยรุ่นก็มักเลือกที่จะเชื่อเพื่อนมากกว่า ทั้งที่เพื่อนก็เป็นวัยรุ่นเหมือนกัน คำแนะนำจากเพื่อนบางครั้งจึงอาจไม่ได้ผลนัก
พฤติกรรมเหล่านี้ของวัยรุ่น จึงมักทำให้พ่อแม่หงุดหงิดใจ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่จำเป็นต้องเข้าใจว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสู่การเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพราะหากลูกยังพึ่งพาพ่อแม่เหมือนตอนที่ยังเป็นเด็ก พวกเขาก็คงไม่พร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์
ที่มาของพฤติกรรมข้างต้นส่วนหนึ่งจึงเกิดจากพัฒนาการตามวัย ที่วัยรุ่นต้องการสร้างตัวตน และพิสูจน์ความสามารถเพื่อให้คนอื่นยอมรับในตนเอง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเกิดจากฮอร์โมนของร่างกายที่ส่งผลกับอารมณ์ของวัยรุ่นโดยตรง
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดง่ายของวัยรุ่น เกิดจากฮอร์โมน เอสโตรเจน, โปรเจสเตอโรน และเทสโทสเตอโรน ขณะที่พ่อแม่รู้สึกว่าพฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ วัยรุ่นเอง บางครั้งก็รู้สึกว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเองนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจเช่นกัน ดังนั้น ในเวลาเช่นนี้ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ จึงไม่ใช่การดุว่า ทำโทษ หรือกราดเกรี้ยวใส่ลูกที่มีอารมณ์ร้าย แต่เป็นการรับมืออย่างเข้าใจต่างหาก
3 ความเข้าใจผิดเรื่องอารมณ์วัยรุ่น ที่พ่อแม่ต้องรู้ทัน
ก่อนที่พ่อแม่จะเข้าใจอารมณ์ของวัยรุ่นได้อย่างถูกต้องนั้น ก่อนอื่นอาจต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่ออารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่นกันก่อน ลองมาดูกันค่ะว่า 3 เรื่องที่พ่อแม่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับอารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่นมีอะไรบ้าง
1. พ่อแม่มักคิดว่า อารมณ์ร้ายของวัยรุ่นเป็นเรื่องที่ตั้งใจ
อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่จริงๆ แล้วอารมณ์ร้ายของวัยรุ่นหลายครั้งก็อยู่เหนือการควบคุม วัยรุ่นไม่ได้วางแผนหรือตั้งใจมาตั้งแต่แรกว่าวันนี้จะหงุดหงิดใส่แม่ จะอาละวาดกับพ่อ ในทางกลับกัน วัยรุ่นก็เป็นเหยื่อของอารมณ์ตนเองเช่นกัน
ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลายครั้งสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นโดยที่วัยรุ่นไม่อาจรู้เท่าทันและควบคุมได้ เปรียบเหมือนการนั่งรถไฟเหาะ สิ่งที่ทำได้ ก็เพียงแค่อดทนอยู่บนขบวนรถไฟนั้นจนกว่าจะหมดรอบ และคงดีไม่น้อยหากบนรถไฟเหาะมีพ่อแม่ให้กำลังอยู่เคียงข้างไม่ทิ้งให้ลูกอ้างว้างเพียงลำพัง
ดังนั้นอารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่นอาจเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด ตราบเท่าที่ลูกไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ทำร้ายคนอื่นและไม่ทำร้ายข้าวของ ก็ถือว่ายังพอรับได้ พ่อแม่ควรเข้าใจคำพูดหรือแนะนำของพ่อแม่ในขณะที่ลูกมีอารมณ์เชิงลบ อาจไม่ได้ทำให้ลูกหยุดอารมณ์ได้ในทันที การให้เวลาลูกสงบจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ
2. พ่อแม่มักคิดว่า สอนลูกด้วยเหตุผลทำให้วัยรุ่นอารมณ์เย็นลงได้
การใช้เหตุผลกับลูกเป็นเรื่องดีที่ควรทำ กระนั้น หลายครั้งแม้กระทั่งกับผู้ใหญ่เองการใช้เหตุผลบางสถานการณ์ก็ไม่ได้ผล หากลูกกำลังมีอารมณ์เชิงลบ แทนการพูดด้วยเหตุผลในทันที ลองเปลี่ยนเป็นเข้าไปกอดและตบหลังลูกเบาๆ อาจบอกลูกว่า พ่อแม่อยู่ตรงนี้นะหากลูกต้องการ เพราะสิ่งสำคัญไม่น้อยกว่าเหตุผลก็คือ การที่วัยรุ่นรับรู้ว่ามีคนอยู่เคียงข้างและยอมรับไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร
การใช้เหตุผลจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อ ทุกคนอยู่ในสภาวะอารมณ์ปกติ เมื่อมีโอกาสจึงค่อยพูดคุยเรื่องเหตุผลกับลูกภายหลัง ลูกจะรับฟังมากกว่าการสอนขณะที่ลูกกำลังอารมณ์พลุ่งพล่าน
3. พ่อแม่มักคิดว่าการทำโทษจะเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติไม่ดีของวัยรุ่นได้
เมื่อวัยรุ่นแสดงพฤติกรรมเชิงลบ สัญชาตญาณของพ่อแม่มักรู้สึกว่าต้องทำให้ลูกรู้ว่าพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้น มีผลตามมาและลูกควรได้รับบทเรียน บ่อยครั้งพ่อแม่จึงใช้วิธีการลงโทษ เพื่อปรับพฤติกรรมของลูก
ความจริงแล้วการลงโทษ ไม่ว่าจะสถานเบา เช่น หักค่าขนม งดเล่นเกม ไปจนถึงสถานหนัก อย่างกักตัวในห้อง มักไม่ช่วยแก้ปัญหาอย่างที่พ่อแม่คิด ในทางกลับกัน การลงโทษอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง วัยรุ่นอาจเก็บตัว ออกห่างจากพ่อแม่ ไม่ใช้เวลากับครอบครัวเหมือนเคย ซึ่งจะยิ่งทำให้ยากที่พ่อแม่จะให้คำแนะนำถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม
พ่อแม่ช่วยได้ปรับอารมณ์ร้ายของวัยรุ่น
- ให้แรงเสริมทางบวก : ในแต่ละวันย่อมมีช่วงเวลาที่ลูกทำตัวน่ารัก เหมาะสม พ่อแม่ควรสนใจเวลาเหล่านั้นมากกว่าเวลาที่ลูกมีอารมณ์ร้ายๆ หากจู่ๆ ลูกชวนคุยเรื่องทั่วๆ ไป พ่อแม่ควรให้ความสนใจและตั้งใจฟัง อย่าลืมบอกลูกว่า “ดีจังที่ได้คุยกับลูกแบบนี้” หรือ “ขอบคุณที่เล่าให้แม่ฟังนะ” สิ่งเล็กน้อยที่ดูเหมือนไม่สำคัญนี้ คือ แรงเสริมทางบวกที่ทำให้วัยรุ่นเรียนรู้ว่าพฤติกรรมใดเป็นที่ยอมรับในสังคม
- พบกันครึ่งทาง : วัยรุ่นมักรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับอิสระภาพเท่าที่ควร และพ่อแม่ก็คอยควบคุมไปทุกอย่าง แทนการโต้เถียงหรืออธิบายเหตุผล ลองคิดหาวิธีที่จะพบกันครึ่งทาง เช่น หากลูกอยากทำสีผม อาจอนุญาตให้ทำได้ช่วงปิดเทอม หรือ หากลูกต้องการไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน อาจอนุญาตให้ไปได้โดยพ่อแม่ขับรถไปส่ง เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าพวกเขามีทางเลือกบ้าง ไม่ใช่ได้รับแต่คำปฏิเสธจากพ่อแม่เท่านั้น
- หากจำเป็นควรทำโทษสถานเบา : บางครั้งเมื่อลองทุกหนทางแล้วลูกยังคงมีพฤติกรรมเชิงลบ พ่อแม่อาจใช้การทำโทษสถานเบาได้ เช่น การงดสิทธิพิเศษต่างๆ (ดูทีวี, เล่นเกม, ไปเที่ยว) แต่ควรใช้ระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 วัน สิ่งที่ควรทำควบคู่กับการลงโทษคือ การให้แรงเสริมทางบวก อย่างการชมพฤติกรรมที่ดี สังเกตเห็นสิ่งดีเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกทำ เพื่อสร้างกำลังใจให้ลูกด้วย
สุดท้ายแล้วอารมณ์ร้ายๆ ของวัยรุ่น ก็เป็นเพียงพัฒนาการขั้นหนึ่งเท่านั้น หากพ่อแม่เข้าใจแบบนี้ ก็จะสามารถช่วยให้ลูกก้าวผ่านและเติบโตอย่างสง่างามได้ในที่สุด
แหล่งอ้างอิง (Sources):
Related Courses
ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)
การตัดสินใจที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ถ้าหากได้รับการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจตั้งแต่วัยรุ่น ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิ ...
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...
ฝึกเด็กเล็กเอาตัวรอดจากภัยในชีวิตประจำวัน
ภัยในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กๆ ของเรา ดังนั้นผู้ปกครองหรือคุณครูควรสอนตั้งแต่เด็กเล็กๆ เพื่อให้เด็กมี ...
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...