ชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสีย ทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษ

Starfish Academy
Starfish Academy 3313 views • 3 ปีที่แล้ว
ชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสีย ทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษ

โฮมสคูล คือ การศึกษาทางเลือก ที่เปิดโอกาสให้เด็กทุกคน เข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกัน บ่อยครั้งโฮมสคูล จึงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เพราะพ่อแม่สามารถจัดการศึกษาให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับความของเด็กๆ ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจมองหาทางเลือกด้านการศึกษาให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษ เราลองมาชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสียของการทำโฮมสคูล เพื่อประกอบการตัดสินใจกันค่ะ

ทำความเข้าใจเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

เด็กที่มีความต้องการพิเศษ หรือ Children with special needs คือ เด็กที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพิ่มเติมจากวิธีการตามปกติ ทั้งในด้าน การใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ และการเข้าสังคม เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ โดยออกแบบการดูแล ช่วยเหลือเด็ก ตามลักษณะความจำเป็น และความต้องการของเด็กแต่ละคน โดยอาจจำแนกเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้เป็น 3 กลุ่มคือ

  1. เด็กที่มีความสามารถพิเศษ เช่น เด็กปัญญาเลิศ (Gifted Child) หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน ซึ่งมักไม่ค่อยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้ใหญ่อาจเข้าใจว่าเด็กเก่งอยู่แล้ว หรือผู้ใหญ่อาจคาดหวังมากจนสร้างความกดดันให้เด็กๆ ซึ่งวิธีการเรียนรู้ในแบบปกติทั่วไป อาจไม่สอดคล้องกับความสามารถของเด็ก ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพที่มีได้อย่างที่ควรจะเป็น
  2. เด็กที่มีความบกพร่อง เช่น ความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน ทางสติปัญญา ฯ จำเป็นต้องได้รับการจัดการศึกษาพิเศษที่สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก
  3. เด็กด้อยโอกาส เด็กที่ขาดแคลนปัจจัยในการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม ส่งผลต่อพัฒนาการร่างกาย จิตใจและการเรียนรู้ เช่น เด็กยากจน เด็กเร่ร่อน เด็กถูกใช้แรงงาน เป็นต้น

การศึกษาสำหรับเด็กทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าว จึงจำเป็นต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสม ควรมีเนื้อหา วิธีการ และการประเมินผลที่สอดคล้องกับศักยภาพของเด็กแต่ละคน ซึ่งการศึกษาแบบโฮมสคูลอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้

ข้อดีของการทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษ

พ่อแม่อาจต้องวางแผน เตรียมจัดการศึกษา และทุ่มเทเวลามากขึ้น แต่คุณมั่นใจได้ว่าลูกได้เรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการและเหมาะสมกับเขาจริงๆ นอกจากนี้ยังมีข้อดีหลายประการ 

  • ไม่มีใครรู้จักลูกดีเท่าคุณ : แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ จะมีใบปริญญารับรองวุฒิ และมีประสบการณ์ แต่พวกเขาคงไม่รู้จักลูกได้ดีไปกว่าคุณ ซึ่งเป็นพ่อแม่แท้ๆ ที่ใกล้ชิดดูแลลูกตั้งแต่แรกคลอด ผนวกกับประสบการณ์ในชีวิตจริง ทำให้พ่อแม่สามารถประยุกต์ความรู้ที่มี มาจัดการเรียนการสอดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกได้ โดยเฉพาะ คุณย่อมรู้ดีว่าวิธีใดที่ทำให้ลูกมีสมาธิจดจ่อ ก็นำวิธีนั้นมาประกอบการเรียนการสอนได้ หรือลูกจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมด้านใด คุณก็เพิ่มเติมสิ่งนั้นในบทเรียนได้
  • ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ : ในโรงเรียนทั่วไปหรือกระทั่งโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ มักมีกฏเกณฑ์เบื้องต้นสำหรับดูแลเด็กทุกคน เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนมาก แต่บุคลากรมีจำกัด ทำให้บางครั้งการเรียนการสอนอาจไม่ทั่วถึง นอกจากนี้ เด็กบางกลุ่ม เช่น ออทิสติก การต้องอยู่ท่ามกลางสิ่งเร้ามากมายในห้องเรียน เสียงและกิจกรรมต่างๆ อาจมากเกินกว่าที่เด็กๆ จะรับมือไหว ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเชิงลบ ที่อาจนำมาสู่การถูกทำโทษ การเรียนโฮมสคูลที่พ่อแม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ กับลูกได้โดยตรง ช่วยให้ลูกมีความเข้าใจบทเรียนต่างๆ ได้ดีกว่า
  • มีความยืดหยุ่นมากกว่า : การเรียนการสอนสำหรับเด็กพิเศษ บางครั้งพ่อแม่เองก็จำเป็นต้องทดลอง ทดสอบไปพร้อมๆ กับลูก เพราะไม่รู้ว่าอะไรที่เหมาะสมกับลูกที่สุด การทำโฮมสคูลเป็นแนวทางที่มีความยืดหยุ่นสูง พ่อแม่สามารถปรับเปลี่ยนแนวการสอนได้ตลอดเวลา ต่างจากการส่งลูกไปโรงเรียน หากต้องการปรับเปลี่ยนกลางคัน ก็เท่ากับว่าต้องเสียค่าเรียนไปฟรีๆ ในการทำโฮมสคูลนั้น ครอบครัวสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนและเนื้อหาต่างๆ ให้สอดคล้องกับผู้เรียนได้มากที่สุด 
  • ความปลอดภัยของลูก : เด็กที่มีความต้องการพิเศษ มักมีแนวโน้มจะถูกบูลลี่มากกว่า และอาจไม่สามารถบอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ได้ว่าตนเองถูกรังแก หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเรื่องนี้ การทำโฮมสคูลให้ลูก อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี 
  • ดูแลเรื่องโภชนาการได้ : บ่อยครั้งเด็กที่มีความต้องการพิเศษ มักมีพฤติกรรมกินยาก ทำให้พ่อแม่ต้องกังวลเรื่องโภชนาการอยู่เสมอๆ หรือบางกรณี ลูกอาจมีอาการแพ้อาหารบางชนิดรุนแรง การส่งลูกไปโรงเรียน อาจทำให้พ่อแม่กังวลว่าลูกจะได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนไหม ลูกจะเผลอกินอาหารที่ตนเองแพ้หรือเปล่า แต่หากทำโฮมสคูล ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะพ่อแม่สามารถจัดมื้ออาหารให้กับลูกได้เอง

ข้อเสียของการทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษ

เหรียญมีสองด้าน การทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษก็เช่นกันค่ะ หลังจากทราบข้อดีแล้ว ลองมาพิจารณาข้อเสียสำหรับการทำบ้านเรียนให้เด็กพิเศษดูบ้าง

  • ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น : การเป็นพ่อแม่ก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้ว หากเป็นพ่อแม่ที่ทำบ้านเรียนให้ลูกความรับผิดชอบก็ย่อมเพิ่มขึ้น และยิ่งหากว่าเป็นพ่อแม่ทำบ้านเรียนสำหรับเด็กพิเศษ คุณก็ต้องเตรียมพร้อมเป็นสองเท่า เพราะมีสิ่งต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ไหนจะหลักสูตรการเรียนการสอนของลูก การดูแลร่างกายจิตใจและพัฒนาการ ไหนจะงานบ้านต่างๆ หากไม่พร้อม หรือไม่มีทีมสนับสนุนคอยช่วยเหลือ การทำบ้านเรียนสำหรับเด็กพิเศษก็อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ
  • ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง : เมื่อความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เวลาดูแลตัวเองก็ย่อมน้อยลง เด็กๆ ที่ไปโรงเรียน มีโอกาสได้พบเจอกับผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน ครู ผู้ช่วยครู ที่ปรึกษา นักกิจกรรมบำบัด ฯ แต่สำหรับการทำบ้านเรียน พ่อและแม่ ต้องเป็นทุกอย่างสำหรับเด็กๆ จริงอยู่ว่าคุณอาจเลือกให้ลูกไปทำกิจกรรมกลุ่มได้ในบางวัน แต่เวลาส่วนใหญ่ลูกจะเรียนรู้อยู่ที่บ้าน ดังนั้น หน้าที่ของพ่อแม่นอกจากจัดการเรียนการสอน ก็ยังต้องสวมหมวกหลายใบ จนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง 
  • โอกาสกระทบกระทั่งมากขึ้น : ยิ่งใช้เวลาด้วยกันมาก ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะกระทบกระทั่ง ผิดใจกันได้มากขึ้น ยิ่งพ่อแม่เหน็ดเหนื่อยจากสารพัดสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ก็มีโอกาสที่จะน๊อตหลุด ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกได้ การทำโฮมสคูลสำหรับเด็กพิเศษ พ่อแม่จึงจำเป็นต้องฝึกจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รู้เท่าทันอารมณ์ หากเหนื่อยหรือไม่ไหวจริงๆ ควรหาเวลาให้ตัวเองได้พัก และควรมีผู้ช่วยทำสิ่งต่างๆ แทนได้ในบางเวลา

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะตัดสินใจแบบใด เราเชื่อว่าคุณได้เลือกสิ่งที่ดี และเหมาะสมที่สุดสำหรับครอบครัวแล้ว การศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่พ่อแม่จำเป็นต้องค่อยๆ ศึกษาหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาทางเลือกการศึกษาให้กับลูกๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

การเลี้ยงลูกที่มีความต้องการพิเศษ
ด้านความสัมพันธ์ การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง การรู้จักสังคม
basic
2:00 ชั่วโมง

ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก

ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...

Starfish Academy
Starfish Academy
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
Starfish Academy

ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก

Starfish Academy
3088 ผู้เรียน
Technology Skills
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง การรู้จักสังคม
basic
2:00 ชั่วโมง

How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์

ทุกวันนี้การใช้งานบนโลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับดาบสองคม ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าจะเลือกข้อมูลด้านไหน ...

Starfish Academy
Starfish Academy
How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์
Starfish Academy

How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์

Starfish Academy
1877 ผู้เรียน
การดูแลสุขภาพกายและจิตใจ
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
2:00 ชั่วโมง

ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19

โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
Starfish Academy

ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19

Starfish Academy
7765 ผู้เรียน
Technology Skills
ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง
basic
2:00 ชั่วโมง

ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)

การตัดสินใจที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ถ้าหากได้รับการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจตั้งแต่วัยรุ่น ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)
Starfish Academy

ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)

Starfish Academy
1841 ผู้เรียน

Related Videos

สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต
05:59
Starfish Academy

สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต

Starfish Academy
205 views • 3 ปีที่แล้ว
สิทธิในร่างกายแบบไหนที่เรียกว่าอยู่ในขอบเขต
ออนไลน์ ไม่อ่อนใจ พ่อแม่ลูกต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน
23:01
Starfish Academy

ออนไลน์ ไม่อ่อนใจ พ่อแม่ลูกต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน

Starfish Academy
104 views • 2 ปีที่แล้ว
ออนไลน์ ไม่อ่อนใจ พ่อแม่ลูกต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน
Starfish Trend Talk | EP.1 | :  ครู VS พ่อแม่ แท็กทีมสื่อสารอย่างไร ? ดีต่อใจเด็ก
38:27
Starfish Academy

Starfish Trend Talk | EP.1 | : ครู VS พ่อแม่ แท็กทีมสื่อสารอย่างไร ? ดีต่อใจเด็ก

Starfish Academy
675 views • 2 ปีที่แล้ว
Starfish Trend Talk | EP.1 | : ครู VS พ่อแม่ แท็กทีมสื่อสารอย่างไร ? ดีต่อใจเด็ก
Starfish Trend Talk | EP.2 | : คำพูดกดทับที่ครูและผู้ปกครองไม่ควรใช้กับเด็ก
41:00
Starfish Academy

Starfish Trend Talk | EP.2 | : คำพูดกดทับที่ครูและผู้ปกครองไม่ควรใช้กับเด็ก

Starfish Academy
177 views • 2 ปีที่แล้ว
Starfish Trend Talk | EP.2 | : คำพูดกดทับที่ครูและผู้ปกครองไม่ควรใช้กับเด็ก