ยกพวกตีกัน เพราะเพื่อน เกมหรือการเลี้ยงดู
“วัยรุ่นยกพวกตีกันกลางโรงพยาบาล”
“แก๊งค์วัยรุ่นตีกันกลางงานวัด”
“วัยรุ่นไม่พอใจขับรถสวนเลน ตีกันกลางถนน”
พาดหัวข่าวเหล่านี้ น่าจะเคยผ่านตากันมาบ้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ปัญหาวัยรุ่นยกพวกตีกันนั้น ถือเป็นปัญหาคลาสสิกที่มีมาหลายยุคหลายสมัยแต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้สักที ล่าสุดการที่กลุ่มวัยรุ่นยกพวกเข้าไปต่อสู้กันกลางโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า พฤติกรรมเช่นนี้ มีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ มาจากความคึกคะนองตามเพื่อน จากการเลี้ยงดู จากเกม หรือเป็นเพราะโครงสร้างการศึกษาของประเทศ ว่าแล้วเรามาหาคำตอบเพื่อป้องกันปัญหายกพวกตีกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำๆ อีกค่ะ
ตีกันทำไม? ค้นหาต้นตอความรุนแรงในวัยรุ่น
การยกพวกตีกันในวัยรุ่น ถือเป็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงที่ทำให้เกิดผลเสียหลายด้าน ทั้งต่อตัวผู้กระทำเองและคนใกล้ชิด และสังคมโดยรวม อย่างไรก็ตาม อารมณ์โกรธ หรืออารมณ์เชิงลบต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ เราทุกคนมีความโกรธ โมโห ไม่พอใจ แต่เมื่อเกิดอารมณ์เชิงลบเหล่านี้ ต้องเรียนรู้ที่จะรับมือและจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ได้ ไม่เช่นนั้น อารมณ์เหล่านี้ก็จะเปลี่ยนไปเป็นความรุนแรงที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียตามมาได้
หากจะสาวไปถึงต้นตอของความรุนแรง เราคงไม่สามารถชี้ชัดไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียวค่ะ เพราะปัญหายกพวกตีกันของวัยรุ่น ไม่ได้เป็นปัญหาครอบครัวเท่านั้น แต่ยังอาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาสังคมที่สะสมมาอย่างยาวนาน การจะชี้ไปการเลี้ยงดู เพื่อน หรือกระทั่งเกม เป็นสาเหตุของความรุนแรงเพียงอย่างเดียวจึงอาจไม่ถูกต้องนัก ว่าแล้วเราลองมาศึกษาดูค่ะว่า สาเหตุของความรุนแรงเหล่านี้มาจากอะไรได้บ้าง
- ปัญหาส่วนบุคคล : วัยรุ่นบางคนถูกทำร้ายในวัยเด็ก หรือเผชิญกับความรุนแรงในครัวเรือน เช่น เห็นพ่อแม่ทำร้ายร่างกายกัน ก็อาจส่งผลให้เด็กเติบโตมาใช้ความรุนแรงได้ ในขณะเดียวกัน เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ระดับไอคิวต่ำ หรือมีภาวะทางจิตใจ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมก็อาจเป็นที่มาของพฤติกรรมใช้ความรุนแรงได้เช่นกัน
- ปัญหาโครงสร้างการศึกษา : ในสถานศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนหนาแน่น และนักเรียนส่วนใหญ่มาจากสภาพครอบครัวที่มีปัญหาทางการเงิน มักพบว่ามีปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนมากกว่า นอกจากนี้ การเข้าไม่ถึงการศึกษาของเด็กส่วนใหญ่หรือระบบการศึกษาที่ยังไม่เท่าเทียมกันนักของบ้านเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะจากนักเรียนต่อนักเรียนด้วยกัน หรือกระทั่งครู เป็นผู้กระทำความรุนแรงต่อนักเรียนเสียเอง ซึ่งความรุนแรงนั้น ไม่จำได้จำกัดอยู่แค่การทำร้ายร่างกาย แต่การใช้การทำโทษ ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ หรือทำให้รู้สึกอับอาย ก็ถือเป็นความรุนแรงเช่นกัน
- ปัญหาจากสภาพสังคม : โครงสร้างสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ไม่มีรัฐสวัสดิการพื้นฐานช่วยเหลือพ่อแม่ที่ต้องทำงานเต็มเวลา เช่น มีสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ ราคาย่อมเยา ทุกคนเข้าถึงได้ มีสวัสดิการให้พ่อแม่ลาหยุดหลังคลอดโดยได้รับเงินเดือน เพื่อให้มีเวลาคุณภาพอยู่กับลูก ไม่ต้องเครียดเรื่องการเดินทาง หรือมีศูนย์ดูแลให้คำแนะนำเรื่องการเลี้ยงดูลูก ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันปัญหาความรุนแรงได้ ในทางกลับกันประเทศที่ไม่มีรัฐสวัสดิการที่ดี ทำให้การเลี้ยงดูชีวิตหนึ่งๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่ต้องหาเช้ากินค่ำ ทำให้ไม่มีเวลาใกล้ชิดลูก มีความเครียดเรื่องปากท้อง นำไปสู่การใช้ความรุนแรงในครอบครัว ส่งผลให้เด็กๆ ไม่เพียงเป็นเหยื่อความรุนแรง แต่ยังเติบโตมาสร้างความรุนแรงในสังคมต่อไปด้วย
- ปัญหาจากครอบครัว : ความไม่สม่ำเสมอของพ่อแม่ผู้ปกครอง การตั้งกฎที่ตึงหรือหย่อนเกินไป การละเลยทอดทิ้งเด็กๆ อาจเป็นสาเหตุของพฤติกรรมความรุนแรงในวัยรุ่นได้ นอกจากนี้ การที่เด็กๆ ขาดความผูกพันทางอารมณ์ (Attachment) กับผู้เลี้ยงดู โดยเฉพาะแม่ หรือเปลี่ยนคนเลี้ยงบ่อยๆ ไม่มีผู้เลี้ยงดูหลักที่เด็กจะยึดถือเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางจิตใจได้ ก็อาจทำให้เติบโตมามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ยังพบว่าครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ พ่อแม่ต้องทำงานหนัก ไม่มีเวลาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด หรือครอบครัวที่มีความเครียดสูง มีความขัดแย้งภายในครอบครัว ก็อาจเป็นสาเหตุของความรุนแรงในวัยรุ่นได้เช่นกัน
ทำอย่างไรเมื่อลูกใช้ความรุนแรง
หากพ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตเห็นว่าลูกเริ่มมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง แม้จะเป็นความรุนแรงเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตีหรือทำร้ายร่างกายน้อง ทำร้ายข้าวของ ชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรนิ่งเฉย เพราะความรุนแรงเพียงเล็กน้อย หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมก็จะทำให้มีพฤติกรรมรุนแรงที่มากขึ้นได้ อาจขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือโทรปรึกษาสายด่วนต่างๆ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1667 เป็นบริการให้ความรู้สุขภาพจิตทางโทรศัพท์ด้วยระบบการตอบรับแบบอัตโนมัติ หรือ มูลนิธิสายเด็ก 1387 ซึ่งทั้งสองเบอร์นี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.ค่ะ
จะเห็นได้ว่าต้นตอของความรุนแรงนั้น คงไม่ได้มาจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเท่านั้น แต่น่าจะมาจากหลายๆ ปัจจัยประกอบกัน ความรุนแรงในวัยรุ่นหรือปัญหายกพวกตีกัน จึงไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง พ่อแม่ส่วนใหญ่ย่อมอยากใช้เวลาอยู่กับลูก ได้ใกล้ชิดดูแล บางทีอาจไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ใส่ใจ แต่เป็นเพราะพวกเขาต้องหาเลี้ยงปากท้อง หากท้องไม่อิ่ม ก็คงไม่อาจคิดเรื่องอื่นได้ หรือเด็กที่รังแกเพื่อน พวกเขาอาจไม่ได้ต้องการทำเช่นนั้น แต่นั่นอาจเป็นวิธีเดียวที่พวกเขารู้ว่าจะเรียกร้องความสนใจของผู้ใหญ่ได้ ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันค่ะ
เราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ก็น่าจะช่วยกันลดความรุนแรงเหล่านี้ในสิ่งที่เราพอทำได้ เริ่มจากความเข้าใจ ไม่ตีตรา ชี้หน้าไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ หรือพ่อแม่ของพวกเขา เพราะความตั้งใจแรกของคนเป็นพ่อแม่นั้น คงไม่มีใครอยากเลี้ยงลูกให้เป็นอาชญากร แต่เพราะชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อแม่หลายคนจึงอาจพลาดพลั้ง เด็กๆจึงอาจทำผิดพลาด ว่าแล้วเริ่มจากตัวเราเอง ช่วยกันเปลี่ยนสังคมเริ่มจากสิ่งเล็กน้อยที่พอจะทำได้ และหวังว่าความรุนแรงจะค่อยๆหายไปจากความเข้าใจที่เรามีให้กันนะคะ
Related Courses
สอนคุณธรรมให้ลูก พ่อแม่ก็ทำได้
คุณธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจ นำไปสู่การกระทำที่ดีและถูกต้อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างให้เด็กพร้อมที่จะเผชิญโลก และสังคมปัจจุ ...
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...
การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...