13 Checklists การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
องค์กรที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้ คือ องค์กรที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถพัฒนาตนเองได้ หรือเป็นสถานที่ที่บุคลากรแสวงหา แบ่งปันและได้ใช้ความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้องค์กรเติบโตยิ่งขึ้น
หากผู้บริหารต้องการสร้างโรงเรียนให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ลองตรวจสอบตัวเองและโรงเรียนจากคุณสมบัติทั้ง 13 ข้อนี้ก่อน เพราะคำว่า “วัฒนธรรม” มักดูเป็นอะไรที่จับต้องไม่ได้ แต่ 13 Checklists ด้านล่างคือตัวช่วยที่ทำให้ผู้บริหารเห็นภาพที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
- ผู้บริหารสามารถเป็นต้นแบบการเป็นนักเรียนรู้ เช่น ผู้บริหารมักจะจัดอบรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่ครูและตัวเองอย่างสม่ำเสมอและสนับสนุนให้นำความรู้มาใช้จริงในโรงเรียน
- ผู้บริหารสามารถให้คำปรึกษาแก่คุณครูได้ เช่น ผู้บริหารมักมีช่วงเวลาในการให้คำปรึกษาแก่คุณครู พูดคุยกับคุณครูเกี่ยวกับความสำเร็จ ความท้าทาย ความต้องการต่างๆ ที่อยากให้ผู้บริหารช่วยเหลือ
- ผู้บริหารสามารถให้ฟีดแบ็กและรับฟีดแบ็กจากคุณครูได้ เพราะการที่ผู้บริหารให้ฟีดแบ็กคุณครู จะช่วยให้คุณครูรู้ว่าเขาต้องพัฒนาอะไร จุดไหนที่เขาสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ การสื่อสารสองทาง ไม่ใช่ผู้บริหารเป็นฝ่ายพูดอยู่ฝ่ายเดียว ควรให้คุณครูฟีดแบ็กการทำงานของผู้บริหารด้วยเช่นกัน
- เปิดรับการเรียนรู้ทั่วทั้งองค์กร เช่น ผู้บริหารควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าระบบการทำงานตั้งแต่โครงสร้างของโรงเรียนหรือความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานร่วมของคุณครูเป็นบรรยากาศที่เป็นมิตรเปิดรับการเรียนรู้ สามารถพูดคุยกันและปรับปรุงแก้ไขร่วมกันได้โดยที่ไม่ทำลายบรรยากาศการทำงานร่วมกัน
- การเรียนรู้คือความสำคัญสูงสุด เช่น การร่วมกันออกแบบเป้าหมายและค่านิยมของโรงเรียน ควรกำหนดความสำคัญของการเรียนรู้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้บุคลากรในโรงเรียนทั้งหน้าใหม่และเก่าสามารถจดจำและนำไปใช้ได้ หากเป็นในเชิงของกิจกรรม เช่น การสนับสนุนให้อ่านหนังสือที่ตนเองชอบบทความการศึกษาที่น่าสนใจแล้วนำมาแลกเปลี่ยนกันในวง PLC ทุกสัปดาห์ เป็นต้น
- การเรียนรู้เป็นหนึ่งในแรงจูงใจ เช่น การให้รางวัลบุคลากรในโรงเรียนที่ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาหรือการทำวิจัยในชั้นเรียนแล้วสามารถแก้ปัญหานักเรียนให้ประสบความสำเร็จได้เป็นต้น
- การเรียนรู้คือประสบการณ์การทำงานร่วมกัน เช่น การสร้างวง PLC ต่างช่วงชั้นและต่างวิชาเพื่อให้คุณครูสามารถทำงานร่วมกันและแลกเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ยิ่งกว่านั้นคือการสนับสนุนให้ครูสามารถเป็น “โค้ช” ให้แก่เพื่อนครูคนอื่นได้ เพื่อสร้างแกนนำรุ่นต่อๆ ไป
- การเรียนรู้ไม่มีวันจบ เช่น การจัดฝึกอบรมให้แก่บุคลากรในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เขียนความต้องการในการเรียนรู้เรื่องต่อๆ ไปเพื่อส่งเสริมให้เขาเป็นคนที่แสวงหาความรู้และนำความรู้มาใช้จริง
- การเรียนรู้เป็นเรื่องที่สนุก บุคลากรในโรงเรียนบางคนอาจไม่ชอบเรียนรู้เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหรือมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลาในการทำงาน วิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้การเรียนรู้สนุกขึ้น คือ การสร้างระบบคะแนนและการติดตามการเรียนรู้ของพนักงาน เช่น คะแนนที่บุคลากรได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมหนึ่งครั้งและเก็บสะสมคะแนนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มระดับการเรียนรู้ต่อไปและทุกๆ ปลายปีจะมีการจัดการให้รางวัลสำหรับคุณครูนักเรียนรู้
- มีแผนการเรียนรู้/แผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล เช่น การสร้างแผนการเรียนรู้ โดยให้พนักงานออกแบบการเรียนรู้หรือการพัฒนาตัวเองรายบุคคล โดยมีผู้บริหารและรองผู้บริหารช่วยกันออกแบบเส้นทางหรือสนับสนุนการเรียนรู้ของคุณครู
- ความรู้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ เช่น มีการสนับสนุนงบประมาณในการเข้าถึงสื่อและองค์ความรู้ต่างๆ เป็นรายปี หรือรายเดือน โดยการจับกลุ่มครูเป็นรายวิชาหรือรายช่วงชั้นเพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้ทั้งไทยและต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนให้ครูได้ออกจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone) คือการส่งเสริมให้คุณครูทำอะไรนอกเหนือจากบทบาทตนเองในห้องเรียน เช่น คุณครูต้องการเริ่มโปรเจกต์กับชุมชนโดยจะต้องพานักเรียนออกนอกโรงเรียน ถึงอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยต่างๆ แต่ขอให้ผู้บริหารยังคงสนับสนุนการทำงานของคุณครูและชวนคุณครูคิดออกแบบถึงวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะขึ้นล่วงหน้าอย่างครอบคลุม แต่ถึงแม้ว่าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาจริงๆ ผู้บริหารควรอยู่เคียงข้างและคอยสนับสนุนคุณครูอีกครั้งไม่ควรล้มเลิกการให้คุณครูรับผิดชอบทุกอย่างเพียงคนเดียว เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณครูไม่กล้าทำอะไรเพื่อนักเรียนอีกเลย
- ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เช่น จัดช่วงเวลาทุกสัปดาห์เพื่อให้คุณครูมาแลกเปลี่ยนวิธีการใหม่ๆ ที่ใช้ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน หรือแก้ไขปัญหาผู้เรียนรายบุคคลพร้อมทั้งให้กำลังใจคุณครูเสมอว่า “อย่าท้อแท้ ขอให้ทำต่อไป”
จะเห็นได้ว่าทั้ง 13 Checklists นี้เป็นเครื่องมือที่จะพาผู้บริหารสำรวจตัวเองและโรงเรียนว่า “เราอยู่ตรงไหนของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้” หากตรวจสอบแล้วพบว่ายังขาดส่วนไหนไป ขอให้ผู้บริหารเริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของครู และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนต่อไป
แปลและเรียบเรียง
Example of Learning Culture https://shorturl.at/gIRW2
Related Courses
ชุมชนการเรียนรู้ ชุมชนแห่งการพัฒนา
ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้บุคลากรทางการศึกษาได้เรียนรู้แ ...
แชร์ประสบการณ์ การสอบครูผู้ช่วย
การสอบแข่งขันสอบครูผู้ช่วย ถือเป็นอาชีพที่หลายๆ คนไฝ่ฝัน เมื่อเรามีความตั้งใจแล้วก็ต้องทำให้เต็มความสามารถ ความพยายามอยู่ที่ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
หากคุณเป็นคนชอบวาดรูป ชอบการขีดเขียน หรือการจดบันทึก อยากลองทำ Visual Note แต่ไม่รู้จะสื่อสารออกมาอย่างไรดี คอร์สเ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
ต้องใช้ 100 เหรียญ
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...