รับกดบัตรคอนเสิร์ตรายได้เริ่ดที่มาพร้อมกับความลุ้น
สำหรับชาว FC ไอดอลต่างๆ หรือสมาชิกด้อมศิลปิน ดารา น่าจะคุ้นเคยกับการกดบัตรคอนเสิร์ตหรืองานแฟนมีตติ้งกันมาบ้าง และหลายคนคงรู้ว่ากว่าจะได้บัตรเข้าชมการแสดงของศิลปินในดวงใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องรีบล๊อคอินเข้าเว็บขายบัตรรอเวลา เพราะหากช้าเพียงเสี้ยววินาที อาจไม่ทันได้ตั๋วที่ต้องการ ยิ่งหากศิลปินหรือไอดอลมีแฟนคลับจำนวนมาก การแข่งขันก็ยิ่งสูง ศิลปินบางรายเปิดขายบัตรไม่ถึง 10 นาที บัตรก็หมดเสียแล้ว จนแฟนๆ ต้องคอยรีเฟรชหน้าจอรอตั๋วหลุดเพื่อให้ได้ตั๋วสักใบก็ยังดีด้วยความยากลำบากของการจองตั๋วนี่เอง จึงมีคนหัวใสปิ๊งไอเดียหารายได้เสริมจากการรับกดบัตรคอนเสิร์ตหรืองานแสดงต่างๆ ของศิลปินคนดัง ซึ่งสำหรับใครที่อยู่ในวงการแฟนด้อม หรือเป็นติ่งศิลปิน ก็คงดีไม่น้อยที่เราจะใช้ความชอบมาประกอบอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ ยิ่งในช่วงนี้มีศิลปินดังทั่วโลกทยอยมาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองไทยแบบรัวๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ใครที่สนใจหาอาชีพเสริมด้วยการรับกดบัตรแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้ StarfishLabz มีคำแนะนำมาฝาก
รับกดบัตรคอนฯ รายได้ดีแค่ไหน
ใครที่สนใจหารายได้เสริมด้วยวิธีนี้ ต้องบอกก่อนว่า รายได้ที่มาจากการกดบัตรคอนฯหรือบัตรงานแฟนมีตติ้งต่างๆ มักไม่ได้เป็นรายได้ประจำ เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าในช่วงนั้นๆ มีการจัดคอนเสิร์ตหรือไม่ โดยทั่วไปงานคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตใหญ่ๆ มักจะไม่จัดชนกันหรือไม่จัดติดต่อกันแบบกระชั้นชิดเกินไปนัก ในแต่ละเดือนอาจมีสัก 1-2 งาน หรือสูงสุดอาจมี 3-4 งาน
สำหรับโอกาสที่เราจะสร้างรายได้ ยังขึ้นอยู่กับขนาดของงานที่จัดว่าสเกลใหญ่แค่ไหน ยกตัวอย่าง คอนเสิร์ต Blackpink ที่สนามศุภฯ ที่ผ่านมา จัดได้ว่าเป็นงานใหญ่ คนให้ความสนใจมาก โอกาสที่จะสร้างรายได้จากงานนี้ก็มีเพิ่มขึ้นด้วย แต่หากเป็นงานแฟนมีตดาราศิลปินที่มีกลุ่มแฟนคลับเฉพาะ จำนวนที่นั่งไม่เกิน 1,000 ที่นั่ง โอกาสสร้างรายได้ก็อาจน้อยลงสำหรับการกำหนดราคาให้บริการรับกดตั๋วคอนเสิร์ตหรืองานแฟนมีตติ้งนั้น โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่างใบละ 200 - 500 บาท หรือคอนเสิร์ตที่ได้รับความนิยมสูง อาจมีค่าจ้างกดสูงถึงใบละ 1,000 บาทเลยทีเดียว
รับจ้างกดบัตรคอนเสิร์ตทำอย่างไรบ้าง
เอาล่ะ! เพื่อนๆ คนไหนที่พร้อมจะหารายได้จากการกดบัตรคอนฯ ลองมาดูวิธีการกันเลย
- สมัครสมาชิกเว็บไซต์ขายบัตรออนไลน์ต่างๆ เช่น Thaiticketmajor, Allticket. Event Pop ฯลฯ โดยอาจไม่ต้องสมัครทุกเว็บฯ ในคราวเดียว แต่รอติดตามว่าศิลปินหรือคอนเสิร์ตที่คุณจะรับจ้างกดบัตรนั้น เปิดจำหน่ายทางช่องทางไหน แล้วจึงสมัครไว้ล่วงหน้าก็ได้
- กำหนดรายละเอียด หลังจากผู้จัดงานประกาศรายละเอียดงานคอนเสิร์ตเป็นที่แน่นอนแล้ว เราก็เริ่มวางแผนการทำงานโดยการกำหนดรายละเอียดค่าจ้างกดและเงื่อนไขต่างๆ ได้เลย ทั้งนี้กฎเกณฑ์ควรชัดเจนและเป็นธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย เช่น กำหนดค่ากดบัตรใบละ 300 บาท หากกดไม่ได้ อาจโอนเงินคืนให้ลูกค้าเต็มจำนวนหรือครึ่งนึง แล้วแต่ตกลงกัน นอกจากนี้ควรกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินโดยชำระค่ากดบัตรก่อน ส่วนค่าบัตรเมื่อกดได้ เราจะแจ้งรหัสหรือส่งคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าไปชำระจำนวนเต็มเองที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสภายในระยะเวลาที่กำหนด หากลูกค้าไม่ไปชำระเงิน ทำให้บัตรหลุดจอง ผู้กดจะไม่คืนเงินค่ากดบัตร เป็นต้น
- สร้างเพจ สร้างบัญชีผู้ใช้เพื่อโฆษณา เมื่อมีรายละเอียดชัดเจน ก็เริ่มประกาศรับจ้างกดบัตรได้เลย อาจสร้างเพจเฟซบุ๊กหรือเข้าร่วมกลุ่มศิลปินต่างๆ และโพสต์์์รับจ้างกดบัตร สำหรับในทวิตเตอร์หรืออินสตราแกรม อาจใช้วิธีตั้งค่าโพสเป็นสาธารณะแล้วติดแฮชแท็กศิลปินที่เราจะรับจ้างกดบัตร เช่น #BlackpinkinBKK คอยติดตามเทรนด์ในทวิตเตอร์หากศิลปินที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตกำลังขึ้นเทรนด์ อันดับต้นๆ แล้วเราทวีตข้อความในขณะนั้นก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนเห็นทวีตของเราเยอะขึ้น
- ศึกษาโครงสร้างเว็บไซต์จองตั๋วและผังที่นั่ง หากเป็นไปได้ควรตั้งค่าล็อกอินเว็บไซต์จองตั๋วให้เป็นอัตโนมัติไปเลย เมื่อถึงวันเวลาจริงๆ จะได้ไม่เสียเวลา ศึกษาวิธีการจองของแต่ละเว็บไซต์และผังที่นั่งในงานว่ามีกี่โซน อยู่ตรงไหนบ้าง มีวิธีการเรียงลำดับที่นั่งอย่างไร เมื่อถึงเวลาจองจะได้ไม่ต้องกวาดสายตาหา เพราะอาจทำให้พลาดที่นั่งที่ต้องการได้
- ปรับความเร็วอินเตอร์เนต สิ่งที่นักรับจ้างกดตั๋วควรลงทุนก็คือความเร็วของอินเตอร์เนต หากการซื้อตั๋วเป็นระบบเข้าคิวควรล็อกอินเข้าไปก่อนเวลา 2-3 ชั่วโมง ซึ่งอินเตอร์เนตที่สัญญาณแรงๆ และความเร็วสูง ย่อมทำให้มีโอกาสได้บัตรเร็วกว่า
- ทำงานเป็นทีม การทำงานเป็นทีมจะช่วยให้การกดตั๋วมีโอกาสประสบความสำเร็จง่ายกว่า โดยอาจชวนเพื่อนสัก 2-3 คนมาช่วยกัน หรืออาจใช้อุปกรณ์มากกว่า 1 ในการกด เช่น ใช้คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง กับโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง เพราะเมื่อถึงเวลาอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างคอมพิวเตอร์แฮงค์ ซึ่งถ้าเรามีเครื่องสำรองก็จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้
จรรยาบรรณของการรับจองตั๋ว
สำหรับคนที่อยากทำอาชีพรับจองตั๋ว สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรวดเร็ว ชำนาญ หาลูกค้าเก่ง ก็คือจรรยาบรรณในการทำงาน แม้จะดูเหมือนว่าเป็นงานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคอนเสิร์ตหรืองานแฟนมีตติ้งแต่ละครั้งนั้น ไม่ได้มีบ่อยๆ ผู้ที่เป็นแฟนคลับของศิลปินจริงๆ ส่วนใหญ่ย่อมอยากเข้าร่วมงานเพื่อให้ได้มรประสบการณ์ร่วมกับศิลปินที่ตนเองรักการกวาดจองตั๋วจำนวนมากๆ แล้วมาปล่อยทีหลัง หรือจองแบบกักที่ไว้ก่อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ แม้จะปล่อยให้บัตรหลุดในภายหลัง แต่การกระทำเช่นนี้อาจทำให้ผู้ที่ต้องการที่นั่งดีๆ เสียโอกาสเพราะไปจองที่นั่งอื่นๆ ไปแล้ว เมื่อที่นั่งที่ตนเองอยากได้เป็นบัตรหลุดมาภายหลังจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเราเชื่อว่าผู้ที่รับจ้างกดบัตรส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในวงการติ่งไอดอลและเป็นแฟนคลับศิลปินคนใดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ควรเอาใจเขาใส่ใจเรา จองเฉพาะที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้คนอื่นๆ มีโอกาสใกล้ชิดศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบได้เหมือนกันเพราะสุดท้ายแล้วความสำเร็จของการทำงานอาจไม่ได้วัดด้วยเงิน แต่วัดกันด้วยคำชื่นชมและความเชื่อใจจากลูกค้า ที่จะบอกกันปากต่อปากทำให้เราสามารถต่อยอดการหารายได้ได้อย่างยั่งยืนต่างหาก
แหล่งอ้างอิง (Sources) :
Related Courses
ก้าวแรกก่อนเป็นผู้ประกอบการ
ก้าวแรกก่อนเป็นผู้ประกอบการ สร้างอาชีพเสริมจากสิ่งจากที่ชอบ วิธีการสร้าง concept ของแบรนด์ให้น่าสนใจ รวมไปถึงช่องทาง ...
ไอเดียออกแบบ และจัดงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ
สร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ ด้วยการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงทั้งในชีวิตการทำงานแล ...
ไอเดียออกแบบ และจัดงานเลี้ยงอย่างมืออาชีพ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
5 เมนูเพื่อสุขภาพสร้างอาชีพ ลงทุนน้อยกำไรเยอะ
สำหรับผู้ที่สนใจรักสุขภาพและกำลังมองหาอาชีพเสริมทำหลังเลิกงานหรือหารายได้เสริมในวันหยุดก็สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองวันนี้ ...
5 เมนูเพื่อสุขภาพสร้างอาชีพ ลงทุนน้อยกำไรเยอะ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
อาหารกล่องทำขายง่ายๆ สไตล์มนุษย์หอพัก คอนโด
มีพื้นที่จำกัด แต่ไม่ใช่ข้อจำกัดในการสร้างรายได้ แถมใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนไม่ยุ่งยากก็สามารถทำหารกล่องอร่อยๆได้แล้วตามสไตล์มนุษ ...
อาหารกล่องทำขายง่ายๆ สไตล์มนุษย์หอพัก คอนโด
ต้องใช้ 100 เหรียญ