โพสต์ขายของในเฟซบุ๊กแบบนี้ ลูกค้ามาแน่

ชั่วโมงนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Facebook ถือเป็นเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย โดยสถิติจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกล่าสุดในปี 2021 นั้นสูงถึง 2,600 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับประชากรทั้งโลกและยิ่งมีผู้ใช้งานมากเท่าใด ก็ยิ่งมีจำนวนโพสต์ต่างๆ มากมายมหาศาล ที่ต้องคอยแย่งพื้นที่ เพื่อปรากฎกันอยู่บนหน้าฟีดเฟซบุ๊กของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งทางเฟซบุ๊กเองก็มีระบบ AI อันชาญฉลาด ที่จะคอยคัดเลือกคัดสรรโพสต์ใดๆ ก็ตาม ให้ปรากฎบนหน้าฟีดของผู้ใช้แต่ละคนอย่างเหมาะสม โดยระบบ AI ที่ว่านี้ จะเป็นเสมือนตัวคัดกรอง และคัดเลือกเนื้อหาของการโพสต์ให้ผ่านตาผู้ใช้แต่ละคน โดยดูจากพฤติกรรมในการใช้งานของผู้ใช้ หรือที่เรียกว่า User ตลอดจนความถี่และการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้คนอื่นๆ ที่เป็น Friends กันอยู่ 

นอกจากโพสต์ธรรมดาทั่วไป เช่น การอัพเดทStatus ที่ในแต่ละวันมีจำนวนมากมายมหาศาลแล้ว ปัจจุบันการโพสต์ขายของออนไลน์ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปบนแพลตฟอร์มนี้ ยิ่งโลกต้องตกอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อโควิด-19 การค้าขายออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กก็ยิ่งได้รับความนิยม และคึกคักมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าใครก็สามารถหารายได้เข้ากระเป๋าได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน  

แต่อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างมาก ระบบ AI ของเฟซบุ๊กเอง จึงจำเป็นต้องคัดกรองเนื้อหาต่างๆ อย่างหนัก เพื่อให้ผู้ใช้งานแต่ละคนมีประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี เหมาะสมและมีประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาฐานผู้ใช้งานเอาไว้ให้อยู่กับเฟซบุ๊ก ไม่นอกใจไปใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจ และแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเองเจตนารมณ์เดิมทีคือ สร้างมาเพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่างๆในชีวิต ครอบครัว และการแสดงความคิดเห็นต่างๆบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่เพื่อการขายของหรือจองสินค้า “ รับจองค่ะ F ค่ะ รับครับ! ” ด้วยการใช้ฟีเจอร์คอมเมนต์หรือตอบกลับ เพราะคงไม่ใช่เรื่องที่รื่นรมย์นัก ถ้าเราเข้า Facebook แต่ดันเลื่อนเจอแต่โพสต์ขายของเต็มไปหมด 

ซึ่งเฟซบุ๊กก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อรูปแบบพฤติกรรม และความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ ดังนั้นเฟซบุุ๊กเองจึงเปิดตลาดออนไลน์ เพื่อต้องการให้คนที่ค้าขายออนไลน์ไปรวมกันอยู่อย่างเฉพาะที่เฉพาะทางซึ่งก็คือ “Facebook Marketplace” นั่นเอง 

แต่จากประสบการณ์ของคนที่เคยขายของออนไลน์มาอย่างโชกโชน อาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ Facebook Marketplace เองอาจยังไม่ตอบสนองความต้องการในการค้าขายออนไลน์ได้เท่ากับการขายแบบโพสต์ขายของไปตรงๆเหมือนการโพสต์Update Status แล้วให้คนมาจองสินค้าที่ช่อง Comment หรือ Reply 

เมื่อเป็นเช่นนี้ การโพสต์ขายของจึงหนีไม่พ้นการต้องถูกคัดกรอง และคัดเลือกเนื้อหาก่อนจะปรากฎสู่สายตาสาธารณะชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเด็นนี้จึงนำไปสู่เรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊กน่าจะรู้จักและคุ้นเคยกันดี ก็คือ การถูก “ปิดกั้นการมองเห็น” ที่เหมือนจะหนักข้อขึ้นทุกวัน โพสต์อะไรไปในกรุ๊ปต่างๆ หรือหน้าไทม์ไลน์ส่วนตัวก็ดี แต่ไม่มีใครเห็น พอไม่มีคนเห็นหรือเห็นน้อย ของก็ขายไม่ออก 

ดังนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีดีๆ เพื่อป้องกันการถูกปิดกั้นการมองเห็นจากเฟซบุ๊กเวลาเพื่อนๆ โพสต์ขายของมาแบ่งปันกันค่ะ 

วิธี ป้องกัน Facebook ลดการมองเห็น โพสต์ขายของ ต้องลอง!

* ไม่รับประกันว่าจะได้ผลเสมอไป  เนื่องจากเฟซบุ๊กมีการปรับอัลกอริทึม  ในการแสดงผลเนื้อหาเป็นประจำ

• ปรับรูปแบบในการโพสต์ เช่น  พิมพ์คำว่า“VาE หรือ vาย แทน คำว่า ขาย” โดยพยายามใช้คำ และรูปแบบประโยคที่ดูแล้วไม่เป็นประโยคที่ดูเหมือนกับการขายของให้มากที่สุด
• หากจะลงตัวเลขราคาพร้อมรายละเอียดการส่งของ อาจใช้ตัวอักษรหรือการย่อคำแทนตัวเลข เช่น  “สาม แปด ศูนย์ รส อี เอ็ม เอส”  หรือ ที่แปลว่า 380 บาท รวมส่ง EMS แทน เป็นต้น 
• ลดความถี่ในการโพสต์ขายของลงบ้าง อาจจะเป็นวันเว้นวันก็ได้เพื่อไม่ให้เฟซบุ๊ก หมายหัวเราในการปิดกั้น หรือบล็อคเรา
• ในกรณีที่มีสินค้าหลายชิ้นแล้วผู้ขายใช้วิธีลงภาพทีละชิ้นใน Comment ใต้โพสต์ อาจต้องจำกัดจำนวนสินค้าที่ลงให้จองใน Comment ไม่ให้มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เฟซบุุ๊กบล็อคฟีเจอร์คอมเมนต์ หรือปิดกั้นการมองเห็น
• ไม่ copy ข้อความต่างๆ ของคนอื่น ที่ใช้ในการขายของมาใช้กับโพสต์ หรือคอมเมนต์ของเรา แบบซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ เพราะเฟซบุ๊กจะมองว่าเป็นข้อความ SPAM หรือข้อความขยะ ข้อความซ้ำ ที่ไม่ใช่ลักษณะของการพูดคุย หรือมีปฏิสัมพันธ์แบบปกติ 
• ไม่ควรใช้ภาพเดิมๆในการโพสต์ขายของนานเกินไป เพราะเฟซบุ๊กอาจมองว่าโพสต์ของคุณเป็น SPAM และอาจถูกปิดกั้นการมองเห็นได้เช่นเดียวกัน นอกจากคุณจะลงทุนเสียตังค์ซื้อ AD หรือ บูสต์โพสต์ ปัญหานี้อาจไม่เกิด
• ไม่แปะลิ้งค์ขายของในช่องคอมเมนต์บ่อยเกินไป ทางที่ดีแปะไว้ลิงก์เดียวใต้ข้อความที่โพสต์ตอนแรกก็เพียงพอแล้ว
• สร้างโพสต์ที่มีคุณภาพดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ และมีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย หาก Facebook มองว่าโพสต์ของคุณ มีประโยชน์ก็จะเปิดการมองเห็นมากขึ้นให้โดยอัตโนมัติเอง ซึ่งการสร้างโพสต์ที่มีคุณภาพในที่นี้ ก็คือการแนะนำประโยชน์สินค้า เช่น หากคุณขายเครื่องฟอกอากาศอาจจะทำเป็นรูป อินโฟกราฟิกแบบง่ายๆ ที่บอกประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศส่วนในคอนเทนต์ก็อธิบายแคปชั่นแบบสั้นๆ ได้ใจความ และปิดท้ายด้วยการขายสัก 1 – 2 บรรทัดก็เพียงพอ เป็นต้น

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีเอาชนะ AI ของเฟซบุ๊กเพื่อเปิดการมองเห็น ให้คนเห็นโพสต์ขายของของเรามากขึ้น และป้องกันการถูกปิดกั้นการบล็อกต่างๆ หากลองนำไปใช้แล้วได้ผลยังไง หรือ มีวิธีใหม่ๆ อยากนำเสนอ สามารถส่งข้อความมาแบ่งปันความรู้และเทคนิควิธีดีๆ กันได้นะคะ