แนวโน้มอาชีพเด็กไทยในอนาคต

อาชีพ Youtuber นักแคสเกม หรือ อาชีพใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนผันตามสถานการณ์ ลูกจะทำได้จริงหรอ? เป็นห่วงสุดหัวใจ เพราะยุคคุณพ่อคุณแม่ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

Starfish Labz ชวนเหล่าคุณพ่อคุณแม่ คลายความกังวลใจ ผ่านคำชี้แนะ จากคุณพ่อเอ็ม ผู้ก่อตั้ง Parents One และเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี 

มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน พร้อมอัปเดตเทรนด์อาชีพแห่งอนาคต เพื่อเตรียมพร้อมลูก ๆ ในยุคที่เราทุกคนไม่เคยพบเจอมาก่อน   

เทคโนโลยีสอนให้ทุกคนปรับตัว

การเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องปกติของโลก สมัยผมวัยรุ่น อาชีพเซลส์ ฮอตมาก ๆ ไปขายของตามบ้าน ตามสถานที่ต่าง ๆ เพราะยุคนั้นข้อมูลไม่สามารถส่งออนไลน์หาลูกค้าได้ 

แต่ปัจจุบัน ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เซลส์ส่งโปรโมชัน ส่งข้อมูล เสนอขาย ยิงตรงถึงลูกค้าได้ทันที ผ่านโซเชียลมีเดีย และอีเมล  

สำหรับคนที่อาชีพเดิม แล้วเปลี่ยนไปอาชีพใหม่ ให้เข้ากับยุค ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว 

ส่วนเด็กที่กำลังจะโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ ควรเปิดโอกาส ให้เขารู้จักอาชีพที่หลากหลาย ถ้าเรายังปูทางให้เขา ไปในอาชีพสายเดิม ๆ เขาจะอาจตกขบวน และเปลี่ยนหัวเรือไม่ทันเวลา 

อาชีพที่คุ้นชิน อาจหายไป 

คุณพ่อคุณแม่สังเกตไหมครับ ตามห้าง หรือ ร้านอาหารช่วงนี้ เริ่มมีหุ่นยนต์มาเสิร์ฟอาหาร แทนพนักงานเสิร์ฟตัวเป็น ๆ และตามซูเปอร์มาร์เก็ตเอง

ก็มี Self-check out ซึ่งเรากดจ่ายเงินเองได้เลย ทำให้อาชีพแคชเชียร์ และพนักงานเสิร์ฟ อาจหายไปได้ครับ 

อาชีพคนกลาง เหล่าตัวแทนทั้งหลาย ขายตั๋วเครื่องบิน ขายห้องในโรงแรม ก็เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ค่อย ๆ เลือนหายไป เพราะเทคโนโลยี ช่วยให้เราจองผ่านแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ได้ 

อีกอาชีพคือค้าขาย การสต๊อกของ แล้วขายต่อ เพื่อทำไร บทบาทจะน้อยลง เพราะต้องแข่งขันกับ Online E-commerce หรือพวกดิลิเวอร์รีต่าง ๆ ประกอบกับปัจจุบัน ผู้ซื้อสั่งสินค้าผ่านโรงงาน ผ่านผู้ผลิตโดยตรงได้แล้ว 

สายงานเทคมาแรง ผู้กุมบังเหียน AI 

ในอนาคต สายเทคโนโลยีต้องไปควบคุม AI หรือปรับใช้ AI ให้เหมาะสม 

เพราะหุ่นยนต์เขาสั่งการตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนโปรแกรมลงไป เช่น ฟิลเตอร์ในไอจี 

พอกดใช้ จะมีรูปกรอบหน้าขึ้นมา อันนี้เป็น AI ประเภทหนึ่ง ซึ่ง มนุษย์เป็นคนป้อนข้อมูลลงไป 

อีกกลุ่มหนึ่ง Data Science ต้องคอยจัดการเดต้าต่าง ๆ ที่มีมหาศาล 

 และประยุกต์ใช้ให้ถูกทาง หรืออาชีพที่ต้องใช้มนุษย์สัมพันธ์ เช่น นักจิตวิทยา หรือกลุ่มสื่อสารมวลชน ในแบบคนด้วยกันเอง แม้แต่อาชีพ ยูทูบเบอร์ นักแคสเกม 

คนเหล่านี้ ก็เป็นนักประชาสัมพันธ์ประเภทหนึ่ง 

ทักษะที่ทำให้มนุษย์ อยู่เหนือปัญญาประดิษฐ์ 

หลายท่านบอกว่าเด็กยุคหน้ามี AI เป็นคู่แข่ง ต้องแย่งอาชีพกับ AI หรือเปล่า ขอแบ่งออกเป็นแบบนี้นะคะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เห็นภาพยิ่งขึ้น 

1.งานรูทีน เช่น งานในโรงงาน ใส่น๊อต ปิดกล่อง ลักษะแบบนี้ จะถูกแทนที่ด้วย AI และเราแข่งกับเขาไม่ได้แน่นอน ความเร็วและความสม่ำเสมอ เราทำไม่ได้ เท่ากับ AI นะคะ 

2. งานที่ใช้ความเข้าใจผู้อื่น เรื่อง Social กับ Emotional Skill งานแบบนี้ AI เขาพัฒนาได้ช้ากว่าเรา 

ซึ่งถ้าเด็ก ๆ มี ทักษะพวกนี้ จะทำให้เขาไม่ต้องแข่งกับ AI เตรียมพร้อมในอนาคต และอาจได้ทำงานร่วมกับ AI ด้วยซ้ำ

2 สกิลเด็ด ช่วยให้เด็ก ๆ ไม่ตกขบวน โลกแห่งอนาคต

1. Critical Thinking คิดแก้ปัญหา เอาเหตุและผลมาอธิบาย สอนลูก โดยใช้สิ่งรอบตัว เช่น ระหว่างทางไปโรงเรียน ลูกพูดขึ้นมาว่า บนนถนนมีรถเยอะจัง คุณพ่อคุณแม่ลองสร้างคำถาม ให้เขารู้จักคิดตาม สีอะไรเยอะสุดลูก? แล้วทำไมสีนั้นถึงมีมากกว่าสีอื่น ๆ

2. Creativity ความคิดสร้างสรรค์ เช่น เอาความคิดสร้างสรรค์ มาผสมกับ เทคโนโลยี เหมือนกับ Youtuber ที่เขาใส่ Creativity เข้าไปในเทคโนโลยี สร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ส่วนแคสเกม ก็เอาเรื่องเกมผสมกับ Creativity เหมือนกัน 

คอร์สเรียนห้ามพลาด เตรียมพร้อมทักษะอนาคตให้ลูก

Starfish Labz เรามีคอร์สและบทความที่ช่วยเหลือเด็ก ๆ ในโลกยุคหน้า ทั้ง Coding, CS, Unplugged และสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาทักษะหรือสมรรถนะ 

คู่มือคุณพ่อคุณแม่ เราก็มีให้บริการ ช่วยคุณพ่อคุณแม่เข้าใจ การปฏิบัติตัวกับลูกได้อย่างเหมาะสม 

เลี้ยงลูกยุคนี้ เน้นคล่องแคล่ว ปรับตัวตามสถานการณ์ 

การสอนลูกในยุคดิจิทัล ต้องสอนให้เขา เรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัวให้ทันโลก และตัวคุณพ่อคุณแม่ ต้องพยายามทำความเข้าใจ เนื่องจากทุกอย่าง มาในเวลารวดเร็ว ไม่เหมือนกับยุคก่อนหน้า ที่การเปลี่ยนแปลง มันค่อย ๆ พัฒนา เห็นเป็นรูปร่างได้ 

ในสายงานที่ลูกเลือก วันหนึ่งมันอาจไม่เวิร์ค ต้องสอนให้เขายึดหยุ่น และพร้อมย้ายไปทำอีกอย่าง ที่ลักษณะคล้ายกัน 

พี่โยเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ 

คุณพ่อคุณแม่อาจรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลง และหลากหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมาย แล้วเราจะปรับตัวอย่างไร อยากบอกว่าค่อย ๆ เรียนรู้ ลงมือทำทีละอย่าง 

ใช้ชีวิตแบบมีความสุขกับลูกค่ะ

โกรธให้น้อย ฟังลูกให้มากขึ้น ใช้เวลากับลูกฝึกทักษะให้เขา การคิดแก้ปัญหา หรือเวลาลูกเจอปัญหา ลองให้เขาเผชิญ อย่าไปช่วยเหลือทุกอย่าง แล้วเราคอยเป็นกำลังใจ ให้เขาพร้อมลุยต่อ

และตั้งคำถามให้เขาสะท้อนออกมา อย่าพึ่งบอกทางออกของปัญหาให้เขา อย่าใช้การเปลี่ยนแปลง เป็นความเครียดค่ะ แต่ใช้การเปลี่ยนแปลง สอนให้ลูกได้เผชิญ จัดการปัญหาของตนเอง และเข้าใจชีวิตของเขาอย่างแท้จริง ส่วนเรา คอยเป็นไลฟ์โค้ชอยู่ข้างลูก ๆ 

สิ่งที่พ่อเอ็มอยากบอกคุณพ่อคุณแม่ทางบ้าน

เด็กทุกยุค ทุกสมัยเปลี่ยนไป เหมือนเราเห็นลูกตอนนี้ เอ๊ะทำไมไม่เหมือน สมัยตัวเองเลย จำได้ไหมครับ ตอนที่เราเป็นเด็ก พ่อแม่ก็บอกแบบนี้กับเรา เอ๊ะเราไม่เห็นเหมือนสมัย พ่อแม่เลย

ยุคมันเปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับเรามากกว่า ว่าเรายอมรับได้มากน้อยแค่ไหน

เข้าใจลูก ๆ ไหม เลี้ยงลูกยุคนี้ เหนื่อยมากเลย ผมก็เหนื่อย แต่ว่ามันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง และได้ท้าทายตัวเอง พยายามรู้จักลูก สอนเขา พอเราเห็นผลลัพธ์จากสิ่งที่สอน มันออกมาดี เราก็มีกำลังใจเหมือนกัน 

โน้ตถึงเหล่าคุณแม่โดยเฉพาะ

 เห็นคุณแม่หลายคนเลี้ยงลูก เหนื่อยมากเลย ในมุมคุณพ่อ ผมคิดว่าเลี้ยงลูก เหนื่อยกว่าทำงาน จริง ๆ นะ ผมเคยเลี้ยงลูกวันหนึ่ง เหนื่อยมาก ฝากเหล่าคุณพ่อทั้งหลาย ช่วยคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนะครับ 

ส่วนคุณแม่เอง ก็พยายามเป็น Angry Mom ให้น้อยลง ช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันในครอบครัว รับกันฟังให้มากขึ้นนะครับ สอนลูก ๆ ให้น้อยลง หยุดฟังสิ่งที่เขาบอกเราบ้าง  

📍 ดูเนื้อหาแนวโน้มอาชีพในอนาคต เพิ่มเติมได้จาก

✅ เทรนด์โลกอนาคตและอาชีพที่จะเปลี่ยนไป : bit.ly/3MILbO1

✅ 5 ทักษะแห่งปี 2030 สร้างข้อได้เปรียบให้ลูก ก้าวสู่อาชีพใหม่ในอนาคต : bit.ly/3OseXrb

📍รู้จักกับเราเพิ่มเติม 📍

✅สมัครเรียนออนไลน์ฟรี พร้อมรับเกียรติบัตรกับ Starfish Labz: www.starfishlabz.com

✅ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นประเมินทักษะและสมรรถนะด้วย Starfish Class: www.starfishclass.com

✅ ติดต่อรับบริการด้านการศึกษา Starfish Education Social Enterprise: www.starfishedu.org/

✅ กดติดตามข่าวสารอื่นๆ ของ STARFISH EDUCATION ได้ที่

• FACEBOOK: www.facebook.com/starfishlabz

• FACEBOOK: www.facebook.com/StarfishAcademy2019

• YOUTUBE : Starfish Labz Channel

• INSTAGRAM : www.instagram.com/starfishlabz/