15 เคล็ดลับง่าย ๆ เลี้ยงลูกให้ฉลาดทั้งด้าน IQ และ EQ
เลี้ยงลูกอย่างไรดีให้มีความสุขและฉลาดทั้งทางด้านสติปัญญา (Intelligence Quotient, IQ) และทางด้านอารมณ์ (Emotional Intelligence, EQ) แถมยังมีความสุขและเติบโตขึ้นมามีเหตุผลและเป็นคนดีของสังคม? วันนี้ Starfish Labz มี 8 เคล็ดลับที่สำคัญและผ่านการศึกษามาแล้วว่าใช้ได้ผลดีกับเด็กทั่วโลกมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน จะมีเคล็ดลับใดกันบ้าง มาดูกันเลย
1. ให้ลูกกินนมแม่
ผลการวิจัยจาก American Academy of Pediatrics (AAP) และ American College of Obstetricians and Gynecologists เผยว่าการให้ลูกกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี นับเป็นหนึ่งในเคล็ดลับในการพัฒนา IQ และ EQ เด็กอย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ คุณค่าทางโภชนาการของน้ำนมแม่ช่วยพัฒนาระบบทางประสาทของเด็ก และการใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกขณะให้นมยังช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นและรับรู้ถึงความรักความเอาใจใส่จากแม่ ช่วยเสริมสร้างทักษะทางอารมณ์ให้แก่ลูก
2. ให้ความรักความอบอุ่นกับลูกเสมอ
เด็กที่เติบโตมาด้วยความรักและความใส่ใจจากพ่อแม่เสมอ จะมีมีพัฒนาการที่ดี ทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์
3. ถามตอบกับลูก
เด็กขี้สงสัย และถามพ่อแม่บ่อยๆ นั้นเป็นสัญญาณที่ดี เพราะแสดงว่าลูกเป็นคนช่างสังเกตและใฝ่รู้ หากลูกถามคำถามบ่อยๆ ขอให้คุณอย่าเบื่อหรือรำคาญ เพราะการถามตอบของเด็กจะช่วยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ที่สำคัญอย่าลืมถามลูกกลับ เช่น รู้ไหมสิ่งนี้คืออะไร ถ้าลูกเจอสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร เพื่อกระตุ้นให้ลูกได้คิดเพิ่มเติมค่ะ
4. พาลูกไปเล่นกีฬา
การเล่นกีฬานอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยฝึกความเร็วในการคิดวิเคราะห์ และกระบวนคิดอย่างมีเหตุผลของลูก
5. คาดหวังความพยายาม มิใช่ความสมบูรณ์แบบ
การคาดหวังความพยายามจะช่วยให้ลูกสนุกสนานกับการเรียน และกิจกรรมที่เขากำลังทำได้ดีกว่าการคาดหวังความสมบูรณ์แบบ งานวิจัยพบว่าพ่อแม่ที่มักคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูก มักทำให้ลูกเสี่ยงมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในตอนโตโดยมิรู้ตัว การเลี้ยงลูกอยู่บนฐานของความพยายามจึงช่วยให้ลูกเห็นถึงคุณค่าในตัวเอง และสิ่งเขาทำได้อย่างเป็นเหตุผลเป็นผล และมีความสุขมากกว่า
6. เสริมสร้างกิจกรรมทางความทรงจำ
กิจกรรมทางความทรงจำ (Memories activities) ช่วยพัฒนามิเพียงทักษะในการจำของลูก แต่ยังรวมทักษะในการใช้เหตุผลและภาษา ตลอดจนการปะติดปะต่อเหตุการณ์และความเข้าใจสถานการณ์เฉพาะหน้าต่าง ๆ การให้ลูกเล่นกิจกรรมทางความทรงจำ เช่น จิกซอว์ ครอสเวิร์ด ซูโดกุ จึงนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ให้ลูกได้อย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
7. อ่านหนังสือกับลูก
แทนที่จะเพียงแค่กระตุ้นให้ลูกอ่านหนังสือ หรืออ่านหนังสือให้ลูกฟัง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการอ่านพร้อมกันกับลูก และพยายามอธิบายจุดที่สำคัญ ที่น่าสนใจให้ลูกฟัง จะช่วยเพิ่มมิเพียงทั้งความเข้าใจ และการพัฒนาทางสติปัญญา แต่ยังช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น และความรักระหว่างกันและกัน ถือเป็นวิธีการเลี้ยงลูกให้มีเหตุผล ฉลาด ตลอดจนรู้สึกถึงความรักจากพ่อแม่ในขณะเดียวกัน
8. พ่อแม่เรียนรู้ที่จะมีความสุข
นอกเหนือจากการพัฒนาผ่านทางทักษะและกิจกรรมต่างๆ การเรียนรู้ที่จะมีความสุขในวัยเด็กยังขึ้นอยู่กับอารมณ์ และพฤติกรรมของพ่อแม่ด้วย การที่พ่อแม่อารมณ์เสียให้ลูกเห็นบ่อย ๆ ก็อาจบ่มเพาะความวิตกและปมในใจให้ลูกเช่นกัน ดังนั้น นอกเหนือจากการฝึกให้ลูกพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ต่าง ๆ การที่พ่อแม่มีความสุข และอารมณ์ดีก่อนและเผื่อแผ่รังสีแห่งความสุขดังกล่าวต่อให้ลูกยังนับเป็นอีกวิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุขเช่นกัน
9. ส่งเสริมให้ลูกเล่นดนตรี
งานวิจัยหลายแห่งพบว่าการฝึกให้ลูกเล่นดนตรี หรือแม้แค่เพียงหลงรักในเสียงดนตรีสามารถช่วยพัฒนาทักษะทาง IQ ของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยเสริมสร้างทักษะการแสดงออกทางอารมณ์ และปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าและสุขสมในจิตใจอย่างสร้างสรรค์
10. ดูแลอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ
อาหารแต่ละมื้อของลูกควรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีสารอาหารเหมาะสมกับเด็กวัยเจริญเติบโตเช่น เมนูปลาทะเลต่างๆ ที่มี DHA ช่วยบำรุงสมอง
11. กินมื้อค่ำด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
มิเชื่อก็ต้องเชื่อว่ากิจกรรมง่ายๆ อย่างการกินมื้อค่ำด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ระหว่างพ่อแม่ลูกหรือภายในครอบครัว คืออีกหนึ่งกิจกรรมที่งานวิจัยพบว่าเด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบ และสามารถช่วยบ่มเพาะความสุข และการเติบโตทางอารมณ์ของลูกได้อย่างอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการกินมื้อค่ำที่ครอบครัวสนใจที่จะแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ประจำวันของกันและกัน ถามสารทุกข์สุกดิบ และแสดงความรักความห่วงใยต่อกันและกัน
12. ปล่อยให้ลูกเล่นกับเพื่อนๆ
ปล่อยให้ลูกได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่คอยดูแล จะช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ในการเข้าสังคม แม้ว่าบางทีอาจะมีการทะเลาะ หรือโดนเพื่องแกล้งบ้าง แต่นี่คือวิธีการที่ดีที่ลูกจะได้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
13. ให้กำลังใจลูก
การกระตุ้นลูกฉลาดไม่ใช่การให้เขาลงมือทำเพียงครั้งเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่เกิดจากการทำซ้ำบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นทักษะ กระบวนการคิดเกิดเป็นการเรียนรู้ และความฉลาด ดังนั้น เราควรพูดให้กำลังใจลูกเพื่อให้ลูกมีกำลังใจและรู้สึกดีที่จะเรียนรู้สิ่งนั่นต่อไป
14. ฝึกให้ลูกรู้สึกขอบคุณ (Gratitude)
ความรู้สึกสำนึกขอบคุณ (Gratitude) หมายถึง ความรู้สึกขอบคุณและสุขใจเมื่อได้รับสิ่งต่าง ๆ หรือการมองเห็นและซาบซึ้งกับแง่มุมบางอย่างในชีวิต มิว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ หรือสิ่งใหญ่ๆ งานวิจัยพบว่าการหมั่นให้ลูกรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอสามารถช่วยให้ลูกมองโลกในแง่บวกมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และรู้สึกมีความสุข โดยการฝึกความรู้สึกขอบคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เช่น ให้ลูกลองเขียนลงในสมุดบันทึก ให้ลูกลองเอ่ยออกมาสักสองหรือสามสิ่งที่เขารู้สึกขอบคุณประจำวัน ก่อนนอนหรือก่อนกินมื้อเย็น เป็นต้น
15. เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก
สิ่งที่สำคัญที่สุด และง่ายๆที่สุด ก็คือ คุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกค่ะ
เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้อย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องสอนเลย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใดๆ ถ้าแม่ชอบอ่านหนังสือ ให้ลูกบ่อยๆ ลูกก็จะซึมซับนิสัยรักการอ่านไปโดยปริยาย
วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาดหรือวิธีเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีอาจไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ถ้าลองใช้เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ Starfish Labz แนะนำแล้วละก็ เชื่อว่าเด็ก ๆ ต้องเติบโตมาอย่างมีความสุขและมีคุณภาพแน่นอน
ที่มา
Related Courses
เรียนรู้และเข้าใจเด็กแอลดี
เด็ก LD คือ เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม อาจช่วยให้ผู้ป่วยพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ได้อย่างเต็ม ...
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...
พัฒนาการด้านร่างกายสำคัญอย่างไร
เรียนรู้ความสำคัญ ตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย แนวทางการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการด้านร่า ...
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...