เช็คสถานะอาการของหัวใจ หาคำตอบว่าใครคือคุณความรัก
“แค่เพียงได้เห็นคุณยิ้มทีไร ก็หวั่นไหวทุกที
ใจไม่ค่อยดี ก็คุณน่ารักไป
แค่คุณยิ้มทีไร ก็หวั่นไหวทุกที
ใจไม่ค่อยดี หยุดน่ารักสักวันจะได้ไหม”
พี่นีทนั่งเปิดเพลงวนไปวนมาได้ฟังเพลง คลั่งรัก ของเฟิร์ส รู้สึกว่าน่ารักดี และเป็นเพลงที่บอกเราว่า หัวใจเรากลายไปเป็นสีชมพูไปแล้ว เพราะ “ฉันกำลังตกหลุมรัก”พี่นีทก็เลยคิดถึงน้องๆ วัยรุ่นว่า นี่ก็เข้าใกล้ช่วงวันวาเลนไทน์กันแล้วนะ น้องๆ ได้มีตัวเช็คสถานะหัวใจกันหรือยัง ซึ่งงานนี้ก็ต้องบอกเลยค่ะว่า พี่นีท มีคำถามเช็คสถานะหัวใจเบื้องต้นแบบง่ายๆ ที่จะพาน้องๆ มาสำรวจหัวใจด้วยกันอยู่ 5 ข้อ โดยพี่อยากให้น้องๆ ลองมาตอบกันว่า หลังจากที่อ่านข้อความไปเสร็จแล้ว น้องคิดว่ามัน “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ค่ะ
- ฉันมักจะคิดถึงใครคนนั้น อยู่บ่อยๆ
- เวลาที่ฉันเจอใครคนนั้น ฉันมักจะใจเต้นอยู่บ่อยๆ
- ฉันมักจะเป็นห่วงใครคนนั้นว่าจะสบายดีไหมนะ
- ฉันอยากจะอยู่ใกล้ๆ กับใครคนนั้น
- ใครคนนั้นมักจะใจดี และดูเป็นคนที่อบอุ่นกับฉันเสมอ
หมายเหตุ : เลือกข้อคำถามบางส่วนมาจากข้อคำถาม Triangular Theory of Love ของ Sternberg และปรับให้มาเป็นตัว checklist ง่ายๆเป็นอย่างไรกันบ้างคะ น้องๆ ตอบว่า “ใช่” กันกี่ข้อคะ พี่นีทคิดว่า ถ้าหากน้องๆ มีการตอบว่า”ใช่” อยู่บ้าง ก็คงพอจะบอกได้ว่า น้องๆ อาจจะเริ่มมีอาการตกหลุมรักกันบ้างแล้วนะคะ คราวนี้ พี่นีทก็อยากจะชวนน้องๆ มาเข้าใจว่า แล้วความรักในใจคนเรานั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไรค่ะ (ความรักก่อตัวได้อย่างไร พี่นีทขอเล่าง่ายๆ ตามมุมมอง Triangular theory of love ของ Sternbern นะคะ) จริงๆ แล้วความรักมันก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวค่ะ บางครั้งความรักของเราอาจจะเกิดมาจาก การที่เราเดินผ่านใครคนหนึ่ง แล้วก็ตกหลุมรักเลยก็ได้ ก็แบบว่าใครคนนั้น ตรงสเปคเราเลย (อารมณ์นำมาก่อนเลยจ้า) แล้วจากจุดนั้นก็ทำให้เราค่อยๆ อยากรู้จักเขามากขึ้นว่า เขาชอบทำอะไร อาหารจานโปรดเหมือนเราหรือเปล่านะ (ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ พี่นีทเรียกว่า “ความเสน่หา” นำ) หรือบางที ความรักอาจจะเริ่มจากการเป็นเพื่อนกัน นั่งก็นั่งใกล้กัน ทำงานด้วยกัน ชอบอะไรบางอย่างคล้ายกันอีก แต่หลังจากนั้น พอเรารู้จักกับเพื่อนคนนี้ไปนานๆ มันก็เกิดอาการแบบว่า อยากเป็นมากกว่าเพื่อนเธอ ก็เป็นไปได้ (ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ พี่นีทเรียกว่า “ความใกล้ชิด” นำ)หรือบางที ความรักอาจจะมาไม่รู้ตัว แบบว่า ฉันกับเธอมีหน้าที่ที่ต้องทำร่วมกัน เช่น เป็นคณะกรรมการงานบางอย่างด้วยกัน ก็ทำงานกันไปทำงานกันมา หรือเป็นนักกีฬาด้วยกัน ที่ซ้อมกันไปซ้อมกันมา แล้วอยู่ๆ ก็อาจจะอยากรู้จักเธอมากกว่าแค่เรื่องงาน หรือภาพของนักกีฬา (ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ พี่นีทเรียกว่า “ความผูกมัด” นำ)
โดยพี่นีทเชื่อว่า ความรักของน้องๆ แต่ละคนก็มีรูปแบบที่ต่างกันไป เราอาจจะมีจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่า อะไรนำ ความเสน่หา ความใกล้ชิด หรือความผูกมัดแต่ไม่ว่าอะไรจะเป็นตัวนำ ตัวอื่นๆจะค่อยๆ เข้ามาในเรื่องราวความรักของน้องๆ ค่ะ โดยเราอาจจะมีความคิด/ความรู้สึก เช่น ฉันไม่เคยรู้สึกพิเศษแบบนี้กับใคร, แค่เขาเข้ามาใกล้ฉันก็สั่นแล้ว, อยากหอมแก้มเขาจังเลย (ความเสน่หา)ฉันอยู่ใกล้ๆ เขา, ฉันอยากไปทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ ,พยายามหากิจกรรมที่ชอบเหมือนกัน (ความใกล้ชิด)ฉันรู้สึกว่าคนๆ นี้ คือคนที่ใช่ และมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ (ความผูกมัด)พอมันเกิดปรากฎการณ์แบบนี้แล้ว เรื่องราวความรักของเราก็ดูไปได้ดีนะคะ แต่ว่าน้องบางคนอาจจะถามว่า แล้วทำไม สุดท้ายน้องนกล่ะ หรือไม่สมหวังในความรักกัน มันมีความจริงที่เราต้องเข้าใจค่ะ นั่นคือ การก่อตัวของความรัก อาจจะไม่ได้นำพามาถึง ความสมหวังในความรัก พี่ต้องขอบอกอย่างนี้ค่ะว่า ที่พูดมาก่อนหน้านี้นั้น คือสถานะหัวใจของฝั่งเรา ภาพความรักที่ฉันคนนี้รู้สึก สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเรา แต่ว่า! แล้วเขาคิดเหมือนเราไหมนะ ภาพความรักของเขามันคล้ายๆ กับเราไหมนะ
หากมันคล้ายกัน ก็มีแนวโน้มที่รักของเรา และเขาจะสมหวังค่ะ หากน้องๆ อยากจะรู้ว่า ตนเองพอจะสมหวังในรักไหมนะ เราก็ต้องสำรวจฝั่งเขาด้วยค่ะว่า เจ้าเหล่าความเสน่หา ความใกล้ชิด หรือความผูกมัด ของทางฝั่งโน้นเขาเป็นอย่างไรคะ อย่างน้อยๆ พี่คิดว่า ความรักของเรามันพอจะสมหวังได้ แปลว่า ความเสน่หา หรือความรู้สึกถึงตัวตนของคนพิเศษ จากฝั่งโน้นเขาต้องมีนะ ไม่มากก็น้อยค่ะ เพราะสิ่งนี้ทำให้ภาพของตัวเราที่เขามองมันพิเศษกว่าคนอื่น เขารู้สึกสนใจเราเป็นพิเศษ หรือรู้สึกดีกับเราเป็นพิเศษ คือพี่คิดว่า หากเขามีความเสน่หามาก แปลว่าเราค่อนข้างน่าจะสมหวัง เพราะดูเราทั้งคู่น่าจะรู้สึกเหมือนกัน หรือหากเขามีความเสน่หาอยู่บ้าง มันก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องตัดใจ พี่ว่ามันยังพอไปต่อได้ ที่จะสานความสัมพันธ์ ปลูกต้นรักไปเรื่อยๆ มันยังมีโอกาสอยู่นะแต่ถ้าหากเขา มีเพียงแค่ความใกล้ชิดอย่างเดียว เขาอาจจะรู้สึกกับเราแค่เพื่อนกัน หรือหากเขามีแต่ความผูกมัดอย่างเดียว มันก็อาจจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน เท่านั้นก็ได้ค่ะ เราจึงต้องดูดีๆ เช็คดีๆ นะคะ ว่า ต้นรัก มันมีโอกาสเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่าพี่นีทว่า เรื่องราวของความรัก มันเป็นสิ่งสวยงาม ที่เราได้ลองทุ่มเทหัวใจให้ใครสักคน หรือมีใครสักคนมาเปลี่ยนแปลงโลกที่มีแต่สีขาวดำ กลายมาเป็นโลกที่สดใสเต็มไปด้วยสีชมพู อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถมีเพียงแค่ความรู้สึกรักอย่างเดียวได้ แต่เราต้องใช้ความคิดเพื่อจัดสรรเรื่องราวของความรักให้ลงตัวด้วยเช่นกันค่ะ ว่ารักครั้งนี้ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร จะเดินได้ไปถึงขั้นไหน ขอให้ทุกคนมีความรักที่มีความสุขกันนะคะ
อ้างอิง
https://psychologia.co/triangular-theory-of-love/
https://revelpreview.pearson.com/epubs/pearson_hock/OPS/xhtml/ch04_sec_09.xhtml
https://www.siamzone.com/music/thailyric/20133
Related Courses
ถึงเวลา Self- Retreat แล้วหรือยัง?
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการมีกำลังใจ กำลังกาย และสภาพจิตใจโดยรวมดีขึ้น และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะคิดบวกได้เสมอ มีความเครี ...
เติบโตได้ไม่รู้จบ ด้วย Growth Mindset
ฝึกฝนและพัฒนา เป็นกุญแจสำคัญมากกว่าพรสวรรค์ใดๆ เมื่อรู้สึกว่าน้ำในแก้วเริ่มเต็ม ควรเปลี่ยนแก้วใบใหม่ เพื่อรับน้ำที่มากขึ้นและจงเป็ ...
ผัก-ผลไม้เพื่อสุขภาพ
“ทำไมต้องกินผักผลไม้” เป็นคำถามง่ายๆ ที่ใครๆ หลายคนชอบถาม เพราะต้องการเหตุผลมาสนับสนุนในเรื่องที่จะพยายามให้กินผักผลไ ...
ความสุขของคุณเป็นแบบไหน ?
ในแต่ละวันของเรามีบางวันที่สัมผัสได้ว่าเรามีความสุขมาก และบางวันก็สัมผัสได้ว่าเป็นวันธรรมดาทั่วไปที่ไม่ทุกข์และไม่สุข และบางวั ...