การสอนลูกให้รู้จักการจัดการเวลา
คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าการจัดการเวลาเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เท่านั้นถึงจะเกี่ยวข้อง แต่จริงๆ แล้วหากคุณพ่อคุณแม่สอนลูกตั้งแต่เด็กก็จะเป็นผลดีกับลูกมากๆ เลยนะคะเพราะมันจะทำให้เขากลายเป็นเด็กที่มีวินัยสูงคนนึง มีความรับผิดชอบ และสามารถเรียงลำดับว่าควรทำอะไรก่อนและหลัง และจะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานต่อมานั่นเอง
เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับวิธีการสอนลูกให้รู้จักกับการจัดการเวลากันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เด็กวัย 0-3 ปี
วัยนี้เรียกได้ว่าเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเด็กๆ เอามากๆ เลยนะคะ เพราะเขาไม่เข้าใจในเรื่องเวลาได้ดีพอ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถสร้างพื้นฐานที่ดีไว้ได้ โดยการฝึกลูกผ่านกิจวัตรประจำวัน เช่น เวลากินข้าว ก็ควรฝึกเขาให้กินเป็นเวลา ตอนนอนก็เช่นกัน ต้องฝึกนอนแต่หัวค่ำ และเป็นเวลาด้วย เป็นต้น
เด็กวัย 3 ปีขึ้นไป
วัยนี้เด็กไปสามารถเริ่มรู้ภาษาได้บ้างแล้ว ทั้งการเขียนและการพูด คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกเขาได้โดยการอธิบายให้ลูกเข้าใจก่อนว่าเวลาคืออะไร และเวลาไม่สามารถหยุดรอใครได้ และมันเป็นสิ่งที่มีจำกัด ไม่สามารถหาซื้อเพิ่มที่ไหนได้ และเมื่อเวลาผ่านไปเราไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขการกระทำอะไรได้ เพราะฉะนั้นควรทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อธิบายเช่นนี้ เพื่อให้เขาเข้าใจเสียก่อน
จากนั้นหากลูกเข้าใจแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะสอนให้เขา จัดตารางเวลาของกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนลูกเข้านอน ให้เขาทำตารางว่าเวลาไหนเขาควรทำอะไร ต้องทำให้ตารางเวลาเป็นเรื่องสนุก โดยการแต่งเพิ่มเติมสีให้กับตารางของลูก ตกแต่งให้สวยงามตามแบบเด็กแต่ละคน จากนั้นก็ให้ลูกนำกิจกรรมที่ต้องทำใส่ลงไปในตาราง จากนั้นก็ต้องควบคุมการใช้ตารางเวลา โดยการย้อนกลับมาดูว่ากิจกรรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ทำสำเร็จหรือไม่ หากทำสำเร็จก็อาจจะให้กำลังใจลูก หรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ หรือจะเป็นการสะสมแต้มความสำเร็จเพื่อแลกรางวัล ก็ยิ่งทำให้ลูกอยากทำสิ่งนั้นต่อไปนั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายวิธีเลยในการฝึกลูก ไม่ว่าจะเป็น ฝึกให้ลูกรับผิดชอบต่องานบ้าน ต่อหน้าที่ในฐานะนักเรียน ก็ทำได้เช่นกันนะคะ
เห็นไหมว่าการสอนให้ลูกรู้จักกับการจัดเวลา นอกจากจะทำให้เขามีระเบียบวินัยแล้ว เมื่อโตไปในอนาคตเขาก็จะจัดการกับอะไรหลายๆ อย่างชีวิตได้อย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นฝึกไว้แต่เด็กก็ไม่เสียหายจริงไหมคะ เพื่อประสิทธิภาพทั้งการงาน ชีวิต และครอบครัวของลูกในอนาคต
Related Courses
Collaborative classroom design
เรียนรู้ทักษะความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) หลักการออกแบบกิ ...
แนวทางลดการบูลลี่ในสถานศึกษา
การถูกรังแก ล้อเลียน ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่นส่งผลให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวลทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน ปัญหาเหล่านี้จ ...
การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้
พัฒนาการด้านร่างกายสำคัญอย่างไร
เรียนรู้ความสำคัญ ตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย แนวทางการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการด้านร่า ...