สร้างความมั่นใจให้ลูกผ่าน “การฝึกพูดกับตัวเอง”
เมื่อเด็ก ๆ ต้องพูดหน้าชั้นเรียน เตรียมตัวเข้าห้องสอบ หรือลองทำอะไรใหม่ ๆ อาจจะเกิดอาการตื่นเต้นหรือไม่มั่นใจขึ้นมาได้ ซึ่งนอกจากการให้กำลังใจเด็ก ๆ แล้ว อีกวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกได้ คือการฝึกให้เขารู้จักพูดกับตัวเอง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า self-talk นั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก @pch.vector
การพูดกับตัวเอง หรือ self-talk คือ การสื่อสารภายในตนเองที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนแทบจะตลอดเวลา โดยอาจจะพูดหรือไม่พูดออกมาก็ได้ ซึ่งถ้าฝึกคุยกับตัวเองให้เป็นตั้งแต่วัยเด็ก ก็จะช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เฮลตี้ทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะสิ่งที่เขาพูดคุยกับตัวเองนั้นจะส่งผลต่อทัศนคติ พฤติกรรม การจัดการกับอารมณ์ และความเครียด รวมทั้งเป็นพื้นฐานของการสื่อสาร และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย โดยพ่อแม่สามารถปลูกฝังทักษะการคุยกับตัวเองให้กับลูกได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
1. อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การคุยกับตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแปลก
โดยทั่วไป Self-talk สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ Narrative Self-Talk คือการพูดเรื่องทั่วไปหรือการอุทาน Positive Self-talk คือการพูดในเชิงบวกกับตัวเองหรือให้กำลังใจตัวเอง และ Negative Self-talk คือการตำหนิหรือพูดในเชิงลบกับตัวเอง ซึ่งผู้ปกครองต้องอธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจก่อนว่าการคุยกับตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลก เช่น การอุทานออกมาเมื่อทำของหล่น การคิดตัดสินใจว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา การคิดเมนูอาหารที่อยากกินวันนี้ เป็นต้น โดยมนุษย์เราสามารถมี self-talk ได้ทั้ง 3 รูปแบบแตกต่างกันไปตามสถานการณ์
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
2. ชวนลูกฟังเสียงข้างในตัวเองผ่านการถาม
ผู้ปกครองสามารถฝึกให้ลูกรู้จักฟังเสียงของข้างในตนเองได้ด้วยการตั้งคำถามว่า เด็ก ๆ คิดหรือรู้สึกต่อสถานการณ์นั้น ๆ อย่างไรบ้าง เพื่อฝึกให้เขาหมั่นทบทวนความคิด ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น เพื่อให้รู้ว่าบทสนทนาที่เขาพูดคุยกับตัวเองนั้นมักเป็นไปในทิศทางไหน เพราะถ้าเป็นการพูดกับตัวเองในเชิงลบ (Negative self-talk) บ่อยเกินไป เช่น “หนูไม่เก่งต้องทำไม่ได้แน่ ๆ” “ผมทำพลาดอีกแน่เลย” อาจจะทำให้เขาเกิดความเครียด กดดัน หรือมองตัวเองในแง่ลบได้โดยที่ไม่รู้ตัว
3. ฝึกให้โฟกัสกับปัจจุบัน
สำหรับวิธีการสื่อสารกับตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรเป็นการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มากกว่าการพูดถึงอดีต หรืออนาคต ดังนั้น พ่อแม่สามารถแนะนำให้ลูกเลือกใช้คำพูด หรือชวนคิดในสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน มากกว่าการไปโฟกัสที่อดีตหรืออนาคต อย่างเวลาที่เด็ก ๆ บอกว่า “หนูต้องทำไม่ได้แน่เลย เพราะหนูไม่เก่ง” พ่อแม่อาจจะบอกลูกว่า “ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ทำให้เต็มที่ก็พอแล้ว” เพื่อดึงให้เขากลับมาอยู่กับสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ มากกว่าการกังวลเรื่องอนาคต หรืออดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว
4. ให้ลูกลองพูดกับตัวเองด้วยสรรพนามบุรุษที่ 2 หรือ 3
มีงานวิจัยที่พบว่า เมื่อผู้เข้าร่วมการทดลองพูดกับตัวเองเหมือนพูดกับคนอื่นหรือบุคคลที่สามระหว่างการเตรียมตัวก่อนขึ้นไปพูดสุนทรพจน์นั้น จะช่วยให้ผู้พูดรู้สึกสงบ มั่นใจ และทำได้ดีกว่าผู้เข้าร่วมการทดลองที่พูดกับตัวเองโดยแทนตัวเองด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง เพราะการสมมุติว่า “ตัวเอง” เป็น “คนอื่น” นั้นจะช่วยให้เราสามารถควบคุมความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมของตัวเองได้มากกว่า ดังนั้นพ่อแม่อาจจะลองชวนลูกพูดกับตัวเองหน้ากระจก หรือพูดกับตัวเองในใจโดยใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 หรือ 3 แทน เช่น เปลี่ยนจาก “ฉันทำได้” มาเป็น “เธอทำได้” เป็นต้น
5. ฝึก self-talk ไปพร้อมกับลูก
Self-talk ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในความคิดของเราอย่างเดียว แต่ยังสามารถแสดงออกมาผ่านคำพูด สีหน้า ท่าทาง หรือการกระทำของเราได้โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว เช่น การบ่นพึมพำกับตัวเอง การอุทานเป็นคำพูด
ต่าง ๆ หรือการแสดงสีหน้าท่าทางจากความรู้สึกทางลบที่เกิดขึ้น ดังนั้น พ่อแม่เลยต้องฝึกการคุยกับตัวเองไปพร้อมกับลูก เพื่อเป็นตัวอย่างและทำให้ลูกได้ซึมซับพลังบวกรวมทั้งทัศนคติที่ดีของพ่อแม่ไปด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
Related Courses
การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้
Collaborative classroom design
เรียนรู้ทักษะความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) หลักการออกแบบกิ ...
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
การสื่อสารภาษาอังกฤษ ใครว่ายาก? หากเราเข้าใจ และสื่อสารมันจากความรู้สึก และไม่ต้องกังวลจนเกินไป ในคอร์สเรียนนี้เราจ ...
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เจาะลึกสอบ TCAS
การสอบ TCAS ที่ควรรู้ในแต่ละปีเริ่มเตรียมตัวสอบกันด้วยประเด็นอะไร และสอบอะไร ลองมาดูกันว่ามีประเด็นไหนเกี่ยวกับการสอบ ...