สกิลจำเป็นเด็กไทยของผู้เรียนแต่ละสายและใช้ได้ในชีวิตจริง

สกิลจำเป็นเด็กไทยของผู้เรียนแต่ละสายและใช้ได้ในชีวิตจริง

น้อง ๆ เด็กไทยหลายคนต้องตั้งคำถามแน่นอนกับทักษะแห่งอนาคตที่ไม่รู้จะต้องมีอะไรบ้างเพราะมันเยอะแยะเต็มไปหมดถึงจะคุ้นชินกับเทคโนโลยีแต่ก็ยังกังวลจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์หรือเปล่านะ World Economic Forum 2020 ได้อธิบายเกี่ยวกับตลาดแรงงานว่ากว่า 97 ล้านตำแหน่ง จะต้องใช้ทั้งทักษะของมนุษย์ร่วมกับเทคโนโลยีและจากรายงานอาชีพแห่งอนาคต 2023 โดย World Economic Forum การเข้าใจปัญญาประดิษฐ์ และ ข้อมูลมหาศาล (Big Data) บริษัท องค์กรทั้งหลายต้องให้ความสำคัญและให้ความรู้เกี่ยวกับพนักงานในด้านนี้ถึงการมาของเทคโนโลยี กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกของเราไปทักษะที่พวกเราต้องสร้างเอง (Soft Skills & Hard Skills) ก็ยังจำเป็นขอแค่ปรับตัวเดินหน้าไปต่อกับการเปลี่ยนผ่านยุคที่ไวขึ้นกว่าเดิมรู้จักใช้เทคโนโลยีทำให้การเรียนรู้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นช่วยทุ่นแรงเมื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตทำงานและชีวิตที่สะดวกสบายพร้อมอนาคตที่สดใสกว่าเดิม 

วันนี้พี่ ๆ Starfish Labz สรุปมาให้ สกิลที่จำเป็นสำหรับเด็กไทย วัยรุ่นวัยเรียนแยกออกไปตามแต่ละสายแถมเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้ด้วยนะจากการศึกษาของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา อย่ารอช้ามาอ่านผ่านบทความนี้ไปพร้อมกัน

1. ภาคเกษตรกรรม

เกษตรกรรม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่าการใช้ที่ดินเพาะปลูกพืชต่าง ๆ รวมทั้งการเลี้ยงสัตว์ การประมงและการป่าไม้ เด็กรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับอาชีพด้านนี้ไม่แพ้กับงานในสายอื่น ๆ เพราะได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติกลับมาพัฒนาธุรกิจที่บ้านรวมถึงสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้คนจากการศึกษาของ สกศ. และวิจัยเรื่องทักษะของภาคเกษตรกรรมโดย Juhász and Horváth-Csikós คนที่อยากเติบโตในสายงานเกษตรกรรม จำเป็นต้องมีสกิลดังนี้โดยแบ่งออกเป็น สกิลพัฒนาตัวเอง ทางสังคมและความรู้เชิงวิชาการ 

สกิลพัฒนาตัวเอง (Personal Skills) 

  • ไม่หยุดเรียนรู้ (Lifelong Learning) เช่น ศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เรียนคอร์สออนไลน์ 
  •  รู้จักหน้าที่ (Accountability) ต้องทำอะไรบ้าง 1 2 3 4 เป็นลำดับขั้นตอน  
  • กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง (Adabtability) เทรนด์อะไรมาใหม่ เฝ้าติดตาม 
  • พร้อมลุย อดทน (Persistence and Patience) เพราะต้องเจอแดด เจอลม คลุกคลีกับธรรมชาติ
  • มุ่งมั่นทุ่มเท (Dedication) เลี้ยงสัตว์ต้องประคบประหงม ปลูกพืชผักก็ต้องใช้เวลา

สกิลทางสังคม (Social Skills) 

  • รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Awareness) ลดการเผาใบไม้และใช้วิธีรีไซเคิลแทนเพราะโลกกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
  • พบปะผู้คน (Networking) รวมกลุ่มด้านเกษตรกรรม พึ่งพาอาศัยกันได้ 
  • ร่วมมือร่วมใจ (Collaborative Skills) ทำงานกับผู้อื่นไม่ขัดข้อง
  • ปลอดภัยไว้ก่อน (Safety Awareness) เข้าใจปุ๋ย สารเคมี วัชพืช รวมถึงไม่เผาป่า
  • อะไรดีบอกต่อ (Knowledge Sharing) การเกษตรเขาเปลี่ยนไปอย่างไรมีวิธีอะไรใหม่ ๆ ช่วยประหยัดเวลาบอกต่อคนในแวดวงเดียวกัน

สกิลความรู้เชิงวิชาการ (Methodical Skills) 

  • มีหัวต่อยอด (Applicability) เอาอุจจาระสัตว์ในฟาร์มไปทำผลิตภัณฑ์หรือประยุกต์ใช้ทุกส่วนของพืชในสวนให้ครบ 
  • ไอเดียบรรเจิด (Creative Thinking) เปลี่ยนสวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจัดสัมมนา แลกเปลี่ยนความรู้สำหรับบุคคลทั่วไป 
  • ตั้งรับทุกสถานการณ์ (Change Management) ฤดูหนาวเคยปลูกพืชชนิดนี้ได้แต่ด้วยสถานการณ์โลก อาจส่งผลให้ผลผลิตน้อยลงหรือผลผลิตไม่ออกเลยก็ต้องมีแผนสำรอง 
  • ธุรกิจของเราไปต่อหรือพอแค่นี้ (Business Improvement)จดบันทึกความเปลี่ยนแปลงศึกษาตลาดเข้าใจเรื่อง Marketing รวมถึง Data และการบริหารภาพรวม 
  • ปรับใช้เทคโนโลยี (Technology Adoption) นำโดรนพ่นปุ๋ยลดระยะเวลาเพิ่มประสิทธิภาพเอาบอทโรคข้าว (Rice Disease Bot) มาช่วยวินิจฉัยโรค แค่ถ่ายรูป ส่งผ่านไลน์และรอ AI หาสาเหตุพร้อมแนวทางแก้ไข ซึ่ง สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้พัฒนา 

2. ภาคอุตสาหกรรม

อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของประเทศไทยภาคอุตสาหกรรมเมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมหลายคนต้องนึกถึงโรงงานขนาดใหญ่ที่มีผู้คนเครื่องจักรทำงานและเจ้าของกิจการจ่ายค่าตอบแทนให้อุตสาหกรรมพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่ากิจกรรมที่ใช้ทุนและแรงงานเพื่อผลิตสิ่งของหรือจัดให้มีบริการ กรมโรงงานได้อธิบายเพิ่มเติม ภาคอุตสาหกรรม ช่วยลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและเป็นเหมือนตัวชี้วัดศักยภาพ เทคโนโลยีภายในประเทศ ถ้าอยากทำงานในภาคอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นพนักงาน เจ้าของกิจการ นักวิชาการ และอื่น ๆ อีกมากมาย จากการศึกษาของ สกศ. คณะผู้วิจัยเห็นตรงกัน วัยรุ่นวัยเรียนที่อยากสำเร็จในภาคนี้ต้องมีสกิลเพื่อตัวเอง ทางสังคม และความรู้เชิงวิชาการ 

สกิลพัฒนาตัวเอง (Personal Skills) 

  • เข้าใจหน้าที่ของตัวเอง (Accountability) พนักงานทำตามหน้าที่ปฏิบัติตามที่ตกลงไว้ 
  • แยกออกผิดชอบชั่วดี (Good Work Ethics) ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร เป็นเจ้าของกิจการไม่กดค่าแรงโหมพนักงานทำงานหนัก 
  • ความโปร ทำงานคล่องแคล่ว (Professionalism) ทุกภาคอุตสาหกรรมต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า ก่อนสินค้าออกสู่ตลาด ต้องตรวจสอบคุณภาพก่อนเสมอ 
  • ทำงานได้สำเร็จ (Responsibility) รู้ว่าวันนี้ต้องผลิตอะไรส่งออกตอนไหนมีเป้าหมายชัดเจน 

สกิลทางสังคม (Social Skills) 

  • ปลอดภัยชัวร์ (Safety Awareness) ในภาคอุตสาหกรรม มักมีเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ต้องระมัดระวัง พนักงานต้องช่วยกันสอดส่องรวมถึงเจ้าของกิจการเองควรทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
  • ทำงานกับใครได้หมด (Collaborative Skill) ผลิตไปด้วยกัน ทำงานเป็นระบบ ไม่เกี่ยงไปมา ถ้าอะไรช่วยแล้ว ตัวเราไม่ลำบาก ก็แบ่งเบากัน 
  • อ่อนโยนต่อโลก (Environmental Awareness) โรงงานต้องไม่ปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำ รู้จักกำจัดขยะแบบถูกวิธีและทำความเข้าใจ Carbon Footprint 
  • พูดตรงประเด็น (Communication) ในแต่ละอุตสาหกรรม มักมีคำศัพท์เฉพาะสื่อสารผิดอาจเกิดอันตรายหรือความไม่เข้าใจกัน
  • เธอรู้ฉันรู้ (Coaching and Mentoring) เพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจตรงไหนสอนนายจ้างคอยวัดผลตรวจสอบและชี้แจงส่วนที่ต้องแก้ไข 
  • ทีมเวิร์ก (Team Work) ตบไหล่รู้กันผลักดันการผลิตให้เสร็จทันเวลา 

สกิลความรู้เชิงวิชาการ (Methodical Skills) 

  • วิเคราะห์เป็น (Analytical Thinking) รู้จักหาสาเหตุของปัญหาทำไมผลิตได้ล่าช้าคุณภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือเปล่า 
  • อ้าแขนรับความไม่แน่นอน (Change Management) ภาคอุตสาหกรรมมีเรื่องราว random เกิดขึ้นได้เสมอต้องพร้อมรับมือและมีสติ 
  • อ่านข้อมูลพร้อมตัดสินใจ (Data-driven Decision) แยกแยะข้อมูลได้ เอามาประกอบการตัดสินใจเพิ่มความแม่นยำ 
  • รีเช็กธุรกิจเสมอ (Business Improvement) หาหนทางพัฒนาให้ผลิตสินค้าได้ไวขึ้นกว่าเดิมในเวลาที่จำกัดอุดรอยรั่วในโรงงานทั้งการบริหารปัญหาพนักงานฝ่ายต่าง ๆ 
  • หัวคิดครีเอทีฟ (Creative Thinking) กล้าที่จะแตกต่างออกไลน์ผลิตใหม่
  • ที่สุดแห่งนวัตกรรม (Innovative Thinking) ปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติงานในโรงงานหานวัตกรรมสร้างความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ 

3. ภาคการบริการ

การบริการเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยใจ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่าการปฏิบัติรับใช้การให้ความสะดวกต่าง ๆ สำหรับภาคบริการตัวอย่างที่ชัดเจนและพวกเราทุกคนเห็นภาพ มักเป็นโรงแรม ร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร แบงก์ หัวใจสำคัญของเด็ก ๆ วัยรุ่นที่อยากผันมาอยู่ภาคการบริการจำเป็นต้องมีคือ สกิลเพื่อตัวเองทางสังคมและเชิงวิชาการเพื่อให้การปฏิบัติงานไม่ติดขัดได้รับความประทับใจจากผู้คนพร้อมความเติบโตในหน้าที่การงาน 

สกิลพัฒนาตัวเอง (Personal Skills) 

  • โกรธอยู่รู้ทัน (Emotional Control) ภาคการบริการมักเกี่ยวข้องกับผู้คนดังนั้นต้องตามอารมณ์ตัวเองให้ทันและยับยั้งให้ได้ 
  • รู้จักวางตัว (Courteousness) มือไม้อ่อน สวัสดีทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส 
  • จัดให้ตามที่สัญญา (Good Work Ethics) ไม่หลอกลวงลูกค้าบริการเหมือนที่แจ้งไว้ล่วงหน้า 
  • บริการสุดประทับใจ (Accountability) รู้ว่าภาคการบริการต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ความสะดวกกับลูกค้าเต็มที่ 
  • มายด์เซตดี (Positive Attitude) ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับงานหน้าที่ของเราทำให้ลูกค้าสบายใจ 

สกิลทางสังคม (Social Skills) 

  • พูดคุยรู้เรื่อง (Communication) สอบถามข้อมูลจากลูกค้าได้สื่อสารสิ่งที่เราอยากแนะนำเขาเข้าใจตรงกัน 
  • ใจรักเซอร์วิส (Customer Services) จับสัญญาณจากสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ไม่ปล่อยให้พวกเขารอนาน 
  • มีปฏิสัมพันธ์ (Interpersonal Skills) กล้าพูด กล้าคุย ใช้ท่าทางที่เหมาะสมสุภาพคำพูดน่าฟัง น้ำเสียงไพเราะ 
  • รับมือได้ทุกคน (Collaborative Skills) ทำงานร่วมกับทีมไหนก็ได้ พร้อมปรับตัว 
  • ส่งต่องานเป็น (Coordination Skills) ประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าและบริษัทต่าง ๆ มีทักษะการติดต่อที่ยอดเยี่ยม 

สกิลความรู้เชิงวิชาการ (Methodical Skills)

  • รอบรู้ภาษา (Foreign Languages) ภาคบริการเจอผู้คนหลากหลายเชื้อชาติความรู้ด้านภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ
  • แบบนี้ก็มีด้วย (Creative Thinking) พลิกแพลงโจทย์ เซอร์ไพรส์ลูกค้าการบริการที่ลูกค้าไม่มีวันลืม 
  • ปัญหาแค่เรื่องจิ๊บ ๆ (Prolblem-solving) รับมือให้ทันทั้งคำติและชมแก้ไขสถานการณ์แบบเร่งด่วนไม่ให้ส่งผลกระทบภายหลัง
  • จัดการอย่างดี (Management) ต้องพูดเชิญชวนแบบไหน บริการใครก่อนหลัง คิวรันถูกต้องหรือเปล่า ต้องขอโทษเมื่อผิด 
  • คิดอย่างพิจารณา (Critical Thinking) รวบรวมความเห็นจากเพื่อนร่วมงานก่อนก็ได้ เพื่อช่วยการตัดสินใจการบริการผิดพลาดตรงไหน

 

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าน้อง ๆ จะสนใจอุตสาหกรรมไหนกำลังวางแผนเป็นเจ้าของบริษัท พนักงานหรืออยากทำอะไรก็ตามเราทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองมาทำสิ่งนี้เพราะอะไรและต้องรู้สึกอยากขวนขวายตามทันโลกที่หมุนเปลี่ยนไปตลอดเวลา พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ถ้าได้เอาทักษะที่พี่ ๆ Starfish Labz สรุปจากการศึกษาของ สกศ. ในวันนี้ไปใช้น้องจะรับมือการเรียนงานและชีวิตในอนาคตได้แน่นอน 

ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้ศึกษาทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน (Soft Skill) จำนวนทั้งสิ้น 92 ทักษะสำหรับผู้เรียนในแต่ละภาคเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมาเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่โลกของการทำงานและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อม ๆ กัน

Download หนังสือฉบับเต็ม

>> รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน (Soft Skill)

Sources: 

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

เทคโนโลยีดิจิทัล
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
0:30 ชั่วโมง

โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว

โรงเรียนปลาดาว เน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะสำคัญทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิต ผ่าน ...

โรงเรียนปลาดาว
โรงเรียนปลาดาว
โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว
โรงเรียนปลาดาว

โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว

โรงเรียนปลาดาว
เทคโนโลยีดิจิทัล
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การบริหารจัดการตนเอง
basic
3:00 ชั่วโมง

เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้

หากคุณเป็นคนชอบวาดรูป ชอบการขีดเขียน หรือการจดบันทึก อยากลองทำ Visual Note แต่ไม่รู้จะสื่อสารออกมาอย่างไรดี คอร์สเ ...

แพร เวธนี คงปลื้มจิตต์
แพร เวธนี คงปลื้มจิตต์
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
แพร เวธนี คงปลื้มจิตต์

เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้

แพร เวธนี คงปลื้มจิตต์

ต้องใช้ 50 เหรียญ

การบริหารสถานศึกษายุคใหม่
1:00 ชั่วโมง

สพป. เชียงใหม่ เขต 5

สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 5 404 หมู่ 10 ฮอด-วังลุง ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 50240

Starfish Academy
Starfish Academy
สพป. เชียงใหม่ เขต 5
Starfish Academy

สพป. เชียงใหม่ เขต 5

Starfish Academy
เครืองมือครู
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
1:30 ชั่วโมง

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
Starfish Academy

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

Starfish Academy
1030 ผู้เรียน

Related Videos

Starfish Country Home School Foundation [ENG]
03:43
Starfish Academy

Starfish Country Home School Foundation [ENG]

Starfish Academy
84 views • 3 ปีที่แล้ว
Starfish Country Home School Foundation [ENG]
ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรให้ครบ 8 องค์ประกอบ วPA
01:10:44
Starfish Academy

ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรให้ครบ 8 องค์ประกอบ วPA

Starfish Academy
776 views • 1 ปีที่แล้ว
ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรให้ครบ 8 องค์ประกอบ วPA
แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA
01:03:03
Starfish Academy

แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA

Starfish Academy
568 views • 1 ปีที่แล้ว
แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA
กล้าสอน KLA-SON  KN ENJOY MODEL
27:38
Starfish Academy

กล้าสอน KLA-SON KN ENJOY MODEL

Starfish Academy
65 views • 1 ปีที่แล้ว
กล้าสอน KLA-SON KN ENJOY MODEL