ทำความรู้จัก 'โรงเรียนพลังบวก' หนึ่งก้าวใหม่ของการศึกษาไทยในอนาคต

Starfish Academy
Starfish Academy 25736 views • 1 ปีที่แล้ว
ทำความรู้จัก 'โรงเรียนพลังบวก' หนึ่งก้าวใหม่ของการศึกษาไทยในอนาคต

เมื่อพูดถึงการปฏิรูปการศึกษาไทย หลายๆ คนอาจนึกถึงเรื่องของเทคโนโลยี เรื่องของเนื้อหา วิชา หรือวิธีการประเมินแบบใหม่ๆ ของคุณครู แต่นอกเหนือจากทิศทางการพัฒนาเหล่านี้ อีกหนึ่งทิศทางใหม่ล่าสุดที่มีความสำคัญและได้รับการนำเสนอในงาน TEP FORUM 2022 ของประเทศไทยที่ผ่านมาก็คือการพัฒนาโรงเรียนในประเทศไทยให้กลายเป็น ‘โรงเรียนพลังบวก’

อาจฟังดูแปลกๆ โรงเรียนพลังบวกที่ว่าคืออะไร? มีความสำคัญหรือมีคุณประโยชน์แค่ไหนกันเชียวถึงมาเป็นวาระแห่งชาติในการพัฒนาการศึกษาไทยในอนาคตกันได้ ในบทความนี้ Starfish Labz มีคำตอบมาทำความรู้จักโมเดลใหม่แห่งการเรียนรู้สำหรับเด็กไทยกันเลยค่ะ

‘โรงเรียนพลังบวก’? คืออะไร

โรงเรียนพลังบวกหรือที่ในปัจจุบัน หลายๆ คนอาจคุ้นเคยกันว่าโรงเรียน ‘สนามพลังบวก’ คือแนวคิดการสร้างห้องเรียนและโรงเรียนในภาพรวมในรูปแบบใหม่ที่มีหัวใจคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเป็นบวกให้กับเด็กๆ ผ่านหลากหลายเทคนิคในกรอบของจิตศึกษาและเทคนิคการเรียนรู้ การจัดการและสร้างสรรค์ห้องเรียนต่างๆ ให้เด็กๆ รู้สึกอยากเรียนรู้ มีความสุข หรือมีความรู้สึกในทางบวกต่อการเรียน

ตัวอย่างห้องเรียนในทางบวก เช่น

  • การบูรณาการ ‘จิตวิทยาเชิงบวก’ ให้กับเด็กๆ ในการสอน สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนับสนุนธรรมชาติที่อ่อนไหวและยังคงไร้กรอบของเด็กๆ ลดการขู่บังคับ การทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าต้องอยู่ในกรอบ ในระเบียบตลอดเวลา
  • การบูรณาการมิติทางจิตวิญญาณ ทางปัญญาภายใน หรือทางมนุษย์เข้ามาเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ มีกิจกรรมเชิงจิตและปัญญาศึกษา การฝึกสร้างสภาวะจิตที่ดีให้กับทั้งคุณและเด็กๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่การนั่งสมาธิร่วมกันก่อนเรียนไปจนถึงกิจกรรมต่างๆ
  • การบูรณาการเทคนิคการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ที่มีประโยชน์ สร้างสรรค์ กระตุ้นความสนุกสนานและการเรียนรู้ของเด็กๆ เช่น การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน Problem-Based Learning (PBL), การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Active Learning) และอื่นๆ

ปัญญาทั้งภายในและภายนอก คุณประโยชน์อันล้ำค่าของโรงเรียนพลังบวก

เมื่อการเรียนรู้กลับมาที่ความเป็นมนุษย์ กลับมาที่หัวใจสำคัญคือการสร้างการเรียนรู้ที่อยู่บนฐานอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์และเด็กๆ คุณประโยชน์สำคัญที่ล้ำค่าของโรงเรียนพลังบวกก็คือการสร้างการเรียนรู้ทั้งในระดับ ‘ภายใน’ และในระดับ’ภายนอก’ ห้องเรียนไม่ได้กลายเป็นพื้นที่หรือสถาบันที่ราวกับทำหน้าที่ผลิตสิ่งๆ หนึ่งเข้าสู่ตลาดหนึ่งๆ อีกต่อไป หากแต่เป็นการสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์ เด็กๆ ได้รับการส่งเสริมให้เกิดทั้ง ปัญญาภายใน อาทิ ทักษะในการรู้ตัว, การมีสติ,  การเข้าใจถึงตัวตนของเขา และปัญญาภายนอก อาทิ วิชาหลักต่างๆ, ทักษะที่สำคัญในยุคใหม่ และอื่นๆ

หัวใจสำคัญในภาพรวม ยังรวมถึงการสอนให้เด็กๆ เกิดทักษะและภาวการณ์ดูแลและจัดการตัวเองได้ (Self-Management) ได้อย่างเป็นธรรมชาติและในทางบวกด้วยสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้เขามีสุขภาพจิตที่ดีและมีความสุข ซึ่งเมื่อกล่าวถึงทักษะที่มีความสำคัญในปัจจุบัน หนึ่งในกลุ่มทักษะที่ World Economic Forum ได้สำรวจและนำเสนอว่ามีความสำคัญที่สุดสำหรับปี 2025 ก็คือกลุ่ม Self-Management อย่าง Active Learning & Learning Strategies และ Resilience, Stress Tolerance & Flexibility

ทิศทางการเปลี่ยนสู่โรงเรียนพลังบวกของประเทศไทย

อาจฟังดูเหมือนเป็นแนวคิดใหม่และทิศทางใหม่ที่เริ่มมีการพูดถึงในประเทศไทย แต่ความจริงแล้ว แนวคิดโรงเรียนพลังบวกได้มีการถูกหยิบจำนำมาใช้ในบางโรงเรียนของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2552 หนึ่งในบุคลากรผู้ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงก็คือ อ.วิเชียร ไชรบัง ผู้เริ่มต้นพัฒนาโรงเรียนพลังบวกตั้งแต่ปี 2552 ให้กับโรงเรียนลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะเริ่มขยายไปยังโรงเรียนอื่นๆ ต่างๆ ตามเป้าหมาย

ปัจจุบันแนวคิดโรงเรียนพลังบวกได้รับการนำเสนอที่ TEP FORUM 2022 ของประเทศไทยกันแล้ว และแน่นอนว่าเรามีโอกาสที่จะได้เห็นทิศทางการพัฒนาการศึกษาไทยในอนาคตนี้ในระดับที่กว้างกว่าเดิมแน่นอน เพียงแต่ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษา พัฒนาและเปลี่ยนแปลง หัวใจสำคัญคือคุณครู ผู้บริหาร และโรงเรียน โรงเรียนพลังบวกอาจฟังดูเหมือนเป็นแนวคิดการเรียนการสอนง่ายๆ แต่ในความเป็นจริง เป็นแนวคิดที่มีความ ‘disruptive’ พอสมควร ซึ่งหมายถึง แตกต่างอย่างมากจากที่โรงเรียนเคยเป็นมา เป็นแนวคิดการเปลี่ยนแปลงเชิงความคิดโดยลึกเกี่ยวกับการเรียนรู้ เชิงระบบ โรงเรียนและผู้บริหารต้องมีความเข้าใจก่อนว่าระบบที่เคยเป็นมาขาดมิติของมนุษย์ ขาดมิติในทางบวก และหนทางสู่การพัฒนาเด็กๆ อย่างแท้จริงคือการให้สำคัญกับมิติทางจิตใจ ทางปัญญาทั้งด้านภายในและภายนอกของเขา

คำแนะนำสำหรับคุณครู ผู้อำนวยการ และสถาบันการศึกษา

การมาถึงของโรงเรียนพลังบวกไม่ได้ช่วยให้เกิดผลดีแค่เพียงแค่กับเด็กๆ แต่ยังรวมถึงคุณครู ผู้บริหาร และหัวใจของการพัฒนาโรงเรียนโดยรวม การบริหารโรงเรียนที่มิติของมนุษย์เป็นศูนย์กลางถือเป็นเป้าหมายอันล่ำค่า ส่งต่อไม่เพียงต่อเด็กๆ ในระดับปัจเจก แต่ยังรวมถึงในระดับสังคมและประเทศโดยรวม

สำหรับคุณครู การสอนยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ล้ำค่า มีความหมาย และสนุกสนานกว่าเดิมขึ้นมา คุณครูหลุดออกจากกรอบการสอนแบบเดิมๆ ก้าวเข้าสู่พื้นที่ของการเรียนการสอนแบบใหม่ที่คุณครูไม่ได้กลายเป็นเพียงแค่ผู้ให้ความรู้ แต่ยังเปรียบเสมือนผู้ช่วยปลุกปั้นเด็กๆ มนุษย์คนให้มีคุณภาพ มีความรู้ มีความสุข เติบโตอย่างดงามทั้งภายในและภายนอก การเรียนรู้เกิดมิติที่เชื่อมโยงกันระหว่างคุณครูและศิษย์อย่างลึกซึ้ง มีการเติมเต็มกันในระดับที่มากไปกว่าแค่การเรียนการสอนทั่วๆ ไป

โรงเรียนพลังบวก กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือแนวคิดการปฏิรูปการศึกษาไทยในอนาคตที่สามารถพลิกโฉมรูปแบบการเรียนรู้ของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนและสมบูรณ์แบบ ปรับทั้งมิติทางด้านภายนอก เติมมิติภายใน คำแนะนำเดียวที่ Starfish Labz สามารถมอบให้คุณครูและสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลของเราในปัจจุบัน จึงคือการเปิดหัวใจ เปิดประตูสู่ความรู้ ความเป็นไปได้ของการศึกษาในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะยังประโยชน์ไม่เพียงต่อเด็กๆ แต่ยังรวมถึงคุณครูและระบบการศึกษาของประเทศเรานั่นเองค่ะ

อ้างอิง:

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

เครืองมือครู
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง
basic
2:00 ชั่วโมง

Micro Learning การฟื้นฟูภาวะถดถอยด้วยการช่วยเหลือผู้เรียน

การเรียนรู้ที่ถดถอยจะหายไป หากได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้จากผู้มีความชำนาญ และการสร้างความร่วมมือผ่านการเรียนรู้ของคณะ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Micro Learning การฟื้นฟูภาวะถดถอยด้วยการช่วยเหลือผู้เรียน
Starfish Academy

Micro Learning การฟื้นฟูภาวะถดถอยด้วยการช่วยเหลือผู้เรียน

Starfish Academy
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา ด้านความสัมพันธ์
basic
2:00 ชั่วโมง

Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss

การจัดการเรียนรู้โดยใช้ฉากทัศน์เป็นฐาน ทำให้นักเรียน เรียนรู้ผ่านสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับความจริง และช่วยพัฒนาทักษะในการทำ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss
Starfish Academy

Scenario Based Learning วิธีการเรียนแบบไม่ให้ Loss

Starfish Academy
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
1:30 ชั่วโมง

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...

Starfish Academy
Starfish Academy
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Starfish Academy

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

Starfish Academy
7147 ผู้เรียน
การบริหารสถานศึกษายุคใหม่
1:00 ชั่วโมง

สพป. เชียงใหม่ เขต 2

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 หมู่ 1 ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180

Starfish Academy
Starfish Academy
สพป. เชียงใหม่ เขต 2
Starfish Academy

สพป. เชียงใหม่ เขต 2

Starfish Academy

Related Videos

ประสานความร่วมมือ ก้าวไปสู่ความสมบูรณ์แบบและมีคุณภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
01:41
Starfish Labz

ประสานความร่วมมือ ก้าวไปสู่ความสมบูรณ์แบบและมีคุณภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

Starfish Labz
30 views • 1 ปีที่แล้ว
ประสานความร่วมมือ ก้าวไปสู่ความสมบูรณ์แบบและมีคุณภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
โรงเรียนประถม รุ่งอรุณ
04:34
โรงเรียนรุ่งอรุณ

โรงเรียนประถม รุ่งอรุณ

โรงเรียนรุ่งอรุณ
1985 views • 6 ปีที่แล้ว
โรงเรียนประถม รุ่งอรุณ
Starfish Country Home School Foundation [ENG]
03:43
Starfish Academy

Starfish Country Home School Foundation [ENG]

Starfish Academy
89 views • 3 ปีที่แล้ว
Starfish Country Home School Foundation [ENG]
กล้าสอน KLA-SON  KN ENJOY MODEL
27:38
Starfish Academy

กล้าสอน KLA-SON KN ENJOY MODEL

Starfish Academy
66 views • 2 ปีที่แล้ว
กล้าสอน KLA-SON KN ENJOY MODEL