เลี้ยงลูกฉบับ LGBTQ ลูกเปิดตัว พ่อแม่เปิดใจ

“เพราะความรัก ความเข้าใจของพ่อแม่จะทำให้ครอบครัวมีความสุข”

ความหลากหลายทางเพศถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะในช่วงการค้นหาตนเองของเด็ก การทำความเข้าใจเรื่องเพศที่หลากหลายสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่จึงสำคัญ และในครั้งนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปด้วยกันถึงความหลากหลายทางเพศ หรือที่เรียกว่า LGBTQ+ จุดที่ควรระวังหรือให้ความสำคัญในการใช้คำถามที่เหมาะสมในการพูดคุยกับลูก ตลอดจนแนวทางในการรับมือเพื่อให้รู้จักลูกมากขึ้น

LGBTQ+ คืออะไร

LGBTQ+ หรือกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัว เป็นสื่อของความหลากหลายทางเพศ ดังนี้

L – Lesbian (เลสเบี้ยน) มีรสนิยมผู้หญิงชอบผู้หญิง 

G – Gay (เกย์) มีรสนิยมผู้ชายชอบผู้ชาย และไม่มีการปรับเปลี่ยนเพศสภาพ 

B – Bisexual (ไบเซ็กชวล) ชายหรือหญิงที่มีความรักกับเพศเดียวกัน หรือเพศตรงข้ามก็ได้ 

T – Transgender (ทรานส์เจนเดอร์) หรือที่เรียกว่า ตุ๊ดหรือกะเทย เป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตนไปเป็นเพศตรงข้าม 

Q – Queer (เควียร์) คนที่ไม่จำกัดตนเองเป็นเพศใด ๆ และไม่เกี่ยวกับเพศสภาพ 

(+) – Plus (พลัส) เป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ  

การค้นพบตัวเองก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี

การที่ลูกเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ความผิดของพ่อแม่ในการที่ลูกจะเป็นตัวของตัวเอง ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะใส่ความเป็นหญิงหรือชายให้กับลูก แม้กระทั่งการปลูกฝัง การเลี้ยงดูให้เข้มแข็งหรือตามความเชื่อ แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการเลี้ยงดูอย่างไรให้เขาเติบโต เป็นคนที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีความสุขในการเป็นตนเอง ไม่ทำให้ผู้อื่นและตนเองเดือดร้อน และที่สำคัญกว่านั้นคือการที่เขาค้นพบตัวเองไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม ทั้งนี้ LGBTQ เป็นเพียงแค่การระบุในเบื้องต้นเพื่อจัดประเภท แต่สุดท้ายอยากให้พ่อแม่เข้าใจว่า “ไม่ว่าลูกจะเป็นเพศสภาพใด ไม่ได้เป็นความผิดของเรา และไม่ว่าเขาจะเลือกทางเดินไหน สำคัญที่สุดคือเรายังเป็นพ่อแม่เสมอ” เพราะการที่พ่อแม่ยอมรับในตัวตนของลูกถือได้ว่าเป็นประตูแรกของทุกๆ อย่าง

สิ่งที่พ่อแม่สงสัยไม่ผิด

หากพ่อแม่มีความสงสัยว่าลูกมีความเป็น LGBTQ+ หรือไม่ สิ่งสำคัญข้อแรก อย่าถามลูกว่าชอบผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งเป็นคำถามที่ค่อนข้างตีตราหรือตัดสินเด็ก แต่ควรใช้คำถามที่ให้ความรู้สึกสบายใจในการให้คำตอบ การให้ความเคารพกับลูกและไม่ตัดสินในความชอบของลูก ทั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มการตั้งคำถาม ข้อแรกอยากให้พ่อแม่เช็คตัวเองก่อนว่า เราเป็นวงในสุดหรือวงที่อยู่ใกล้ตัวของลูกหรือไม่ พ่อแม่เป็นบ้านให้เขาได้หรือไม่ เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูกหรือเปล่า ข้อสอง การเป็นพื้นที่ในความปลอดภัยให้กับลูก สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่สามารถทำให้ลูกรู้สึกยอมรับหรืออยากรู้จักลูกให้มากขึ้น คือ การปล่อยให้ลูกได้เลือกหรือตัดสินใจในเรื่องของอาหาร การแต่งกาย และความปลอดภัยทางใจทางกาย ทั้งนี้ การรับรู้ปัญหาของลูก สิ่งที่พ่อแม่รู้หรือสงสัยให้เก็บไว้ แต่ควรใช้คำถาม เช่น ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรหรือเปล่า หรือช่วงนี้มีอะไรให้พ่อแม่ช่วยมั้ย เป็นต้น หรือให้คำแนะนำในการพบหมอหรือนักจิตวิทยา ข้อสาม การยอมรับในเรื่องเวลาของลูกในการเปิดเผยเพศสภาพและรสนิยมของตัวเอง หรือที่เรียกว่า การ Come Out 

ทั้งนี้ พ่อแม่อาจจะเกิดความสงสัยว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นเพศไหน สิ่งที่ทำได้ คือการถามโดยพุ่งเป้าไปที่บุคคล แต่อย่าพุ่งเป้าไปที่เพศสภาพซึ่งจะทำให้รู้สึกถึงการยอมรับมากกว่า การรู้จักกลุ่มเพื่อนของลูก พ่อแม่ที่ทำความรู้จักกับเพื่อนลูกและให้การยอมรับจะได้รับข้อมูลจากเพื่อนลูกทำให้พ่อแม่รู้จักลูกในทุกมุม และการให้ลูกอยู่ในวงสังคมที่ต้องเผชิญทั้งเรื่องทางบวก ไม่ว่าจะเป็น การยอมรับ การชื่นชม และทางลบ เช่น การไม่ได้รับการยอมรับ หรือไม่ได้เป็นที่ต้องการ เพื่อให้ลูกมีความแข็งแกร่งในการยอมรับตนเอง โดยที่มีพ่อแม่แสดงความรักและเคียงข้างในทุกช่วงเวลาการเรียนรู้ไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เขารู้วิธีในการรักตัวเองและเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น

How to...ยอมรับวัยรุ่นและพยายามเข้าหาอย่างไร

การที่เด็กมีความเป็น LGBTQ+ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่เด็กหลายคนยังรู้สึกไม่ดีเพราะว่าไม่ใช่ค่านิยมส่วนใหญ่ ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ให้การยอมรับไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็จะเป็นฐานใจของลูก ทั้งนี้ พ่อแม่ควรคาดหวังเหมือนเขาเป็นเด็กทั่วไป ตามวัย ซึ่งสิ่งที่คาดหวังจากลูกได้ คือ การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง การทำในสิ่งที่สนใจ ลูกวัยรุ่นเป็นวัยที่เขาต้องการไปเจอเพื่อน เจอสังคม การที่พ่อแม่ห้ามไว้ให้อยู่กับบ้านต้องมีเหตุผลที่ดีและเพียงพอ สิ่งที่ลูกต้องการคือโอกาสในการเรียนรู้ที่จะทำให้เขาได้มีประสบการณ์เยอะที่สุด ยิ่งเด็กมีความแตกต่างหรือจุดไหนที่ไม่เหมือนคนอื่น สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ คือให้เขามองเห็นในจุดที่ทำได้และทำสิ่งนั้นอย่างมั่นใจ

ถ้าเด็กปิดบังทุกอย่าง พ่อแม่จะทำอย่างไร

เรื่องของ LGBTQ+ บางเรื่องยังต้องใช้เวลา ความพร้อม หรือความมั่นใจในการบอกซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ต้องรู้ ณ ขณะนั้นก็ได้ สิ่งสำคัญคือ การให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่ลูกต้องการความช่วยเหลือ แต่ถ้าต้องการรู้จริงๆ พ่อแม่อาจจะใช้วิธีการในการจัดการความต้องการ ความรู้สึกของตนเองมากกว่าการคาดหวังกับลูก และการให้เวลาตนเองยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ทำได้เมื่อยังไม่พร้อม แต่เมื่อให้เวลาตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้นอาจใช้วิธีในการพูดคุยกับคนอื่นหรือหมอก็ได้ ขณะเดียวกัน เด็ก LGBTQ+ ก็ไม่สามารถเข้าใจตนเองได้ในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจใหม่ เพราะว่าเด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่ค้นหาอัตลักษณ์ของตนเอง ถึงแม้ว่าที่ค้นพบจะไม่ตรงกับค่านิยมของสังคม หรือสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ทั้งนี้ พ่อแม่อาจจะพูดคุยหรือเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้ในทุกๆ ด้านและทำความรู้จักไปพร้อมกันได้

เห็นได้ว่า พื้นที่ในครอบครัว เพื่อน และสังคม ทั้ง 3 กลุ่มล้วนมีความสำคัญ และในฐานะพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกในแต่ละช่วงวัย ไม่ว่าจะเพศสภาพใด พ่อแม่ต้องสร้างพื้นที่ครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พ่อ แม่ ลูก สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขด้วยความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ สามารถรับฟังแนวทางเพิ่มเติมได้ที่ 

www.StarfishLabz.com