เมื่อบ้านคือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ในยุค COVID-19 พ่อแม่กลายเป็นครูจะสร้างการเรียนรู้ที่บ้านได้ยังไง
จากสถานการณ์โรค COVID – 19 ส่งผลกระทบในหลายด้านๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ยังเป็นประเด็นให้พูดถึงในการเสนอให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอน 1 ปี และถึงแม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบใด ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการเรียนรู้ ซึ่งจากมุมมองของนักการศึกษา พบว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถมองได้หลายมุมมอง เนื่องจากรูปแบบการเรียนการสอนมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการพัฒนา ปรับตัว คิดหาวิธีการต่างๆ โดยอาศัยความร่วมมือของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ครู พ่อแม่ และผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ร่วมกัน ส่วนในมุมมองของผู้ปกครองยังคงมีความคิดเห็นทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว ในด้านรูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ความเหมาะสมของการเรียนรู้ของเด็กในแต่ละช่วงวัย หรือแม้กระทั่งความพร้อมของเด็ก ผู้ปกครอง และปัจจัยด้านอื่นๆ (คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การเรียน อินเทอร์เน็ต) ที่จะมาช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก แต่สำหรับมุมมองในอีกแง่หนึ่ง การเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือการปฏิรูปการศึกษาในด้านการจัดการเรียนการสอนที่จำเป็นและสำคัญต่อการเรียนรู้มากขึ้น หรืออาจเป็นการทบทวน ไม่ว่าจะในฐานะของโรงเรียน ครู หรือพ่อแม่ ว่าอะไรคือเป้าหมายในการเรียนรู้ที่ต้องการสำหรับเด็กในยุคศตวรรษที่ 21 ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้น การหยุดการเรียนการสอน
1 ปี การเรียนอยู่ที่บ้าน หรือที่โรงเรียนไม่ได้สำคัญ ถ้าหากมีการเรียนรู้ที่ดี มีการวางเป้าหมายที่เหมาะสม และที่สำคัญคือ เด็กได้เรียนรู้อะไร และใครคือผู้ที่มีบทบาทในการเรียนรู้ของเด็ก
เมื่อบ้านคือโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ในยุค COVID – 19
ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าโรงเรียนจะเปิดการเรียนตามปกติได้เมื่อไหร่ การเรียนรู้อยู่ที่บ้านของเด็กเปรียบเสมือนโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ และในฐานะพ่อแม่หรือผู้ปกครองสามารถสนับสนุนหรือสร้างการเรียนรู้ที่บ้านได้อย่างไร ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยเหลือลูกในการเรียนการสอนที่บ้านได้ คือ 1) เริ่มจากตัวพ่อแม่ หรือผู้ปกครองในการดูแลเด็ก ตนเอง ครอบครัว จิตใจ การทำบ้านให้สามารถเป็นที่ที่เด็กอยู่ได้อย่างมีความสุข โดยการมีปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัว การสื่อสาร การแสดงออกของคนในครอบครัว การช่วยเหลือกัน การเห็นอกเห็นใจ การให้เวลาที่มีคุณภาพ การเรียนรู้ที่บ้านจะไม่เกิดถ้าเด็กไม่มีความสุข เด็กยังรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ไว้ใจคนในบ้านหรือเด็กเกิดความรู้สึกว่าบ้านไม่ใช่ที่ที่จะเกิดการเรียนรู้ได้ ดังนั้น การเรียนรู้ที่บ้านเกิดจากการทำบ้านให้น่าอยู่ 2) การตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ของลูก รวมไปถึงการใช้ทักษะชีวิตอื่นๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้ตามช่วงวัย เช่น กิจวัตรประจำวัน หน้าที่บทบาท การบริหารจัดการเวลา ความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่า เป็นการสอดแทรกการเรียนรู้นอกเหนือจากบทเรียนในโรงเรียน
พ่อแม่กลายเป็นครูจะสร้างการเรียนรู้ที่บ้านได้ยังไง
จากการจัดการเรียนรู้ที่บ้าน บทบาทหน้าที่ของผู้ปกครองจึงมีความสำคัญ โดยพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยช่วยดูแลการเรียนของลูก ให้ครูทำงานกับการเรียนออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเปิดใจยอมรับ เข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และจากการเพิ่มบทบาทหน้าที่ที่เปรียบเสมือนครู ส่งผลให้เกิดผลกระทบทั้งตัวเด็กและพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดสรรเวลาในการดูแลลูก การทำงานของพ่อแม่ และเวลาในการเรียนของลูกให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ความเครียดของพ่อแม่ในการสอนลูกไม่ได้ ความคาดหวังของพ่อแม่ในการเรียนรู้ของลูก และเมื่อพ่อแม่กลายเป็นครูจะสามารถสร้างการเรียนรู้ที่บ้านได้อย่างไร
- การสื่อสารระหว่างผู้ปกครองกับครู และโรงเรียนในส่วนของข้อเสนอแนะในการเรียนการสอน เนื้อหาหรือใบงานที่ไม่เข้าใจ และโรงเรียนเองจะต้องรับฟังความคิดเห็น ความคาดหวังที่แตกต่างกันของผู้ปกครอง
- การสื่อสารระหว่างผู้ปกครองกับเด็กในการให้ความช่วยเหลือ ดูแล การสังเกตุพฤติกรรม การให้กำลังใจ การเสริมแรงบวก การจัดเวลาในแต่ละวันในการทำกิจกรรมซึ่งจะช่วยให้สามารถมีเวลาอยู่ร่วมกันได้ การเล่นเกมส์ร่วมกันกับลูกช่วยให้พ่อแม่สามารถทราบวิธีการคิดของลูกมากขึ้น มีการพูดคุยมากขึ้น การมีส่วนร่วมของลูกในการวางแผน การตัดสินใจ โดยการให้ลูกลงมือทำเอง
และจากการดูแลลูกในสถานการณ์ช่วงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่มีอะไรตายตัวทั้งโรงเรียนและพ่อแม่ต้องมีการยืดหยุ่นอย่างมาก อย่าคิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด และดูว่าอะไรที่ตัวเองพอจะทำได้ ให้วิธีคิด กรอบคิด หรือให้เครื่องมือกับลูก ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทำได้ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญคือการพูดคุย และการตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ให้กับลูกด้วย อย่างไรก็ตาม ในฐานะของพ่อแม่การสร้างการเรียนรู้ที่บ้านเกิดขึ้นได้จาก
- การจัดสภาพแวดล้อมในบ้านที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มองหาสิ่งที่พ่อแม่พอจะสอนได้หรือสิ่งที่ลูกจะเรียนรู้ได้ในแต่ละวันที่มีอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวันของลูก
- การตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ของลูก ว่าสิ่งที่อยากให้ลูกเรียนรู้คืออะไร พ่อแม่ต้องการที่จะมีเป้าหมายในการเรียนรู้ให้กับลูกแบบไหน และการเรียนรู้แบบไหนที่อยากจะให้เกิดกับลูกเราอย่างคุ้มค่า
- ด้านวิชาการที่เด็กจะต้องเรียนตามหลักสูตรของโรงเรียน เป็นสิ่งที่พ่อแม่อาจจะต้องทำการสื่อสารกับทางโรงเรียนในด้านการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม รวมไปถึงการให้ข้อเสนอแนะที่โรงเรียนสามารถดำเนินการพัฒนาต่อได้ และสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ การดูแลจิตใจซึ่งกันและกันของคนในครอบครัว พยายามหาสิ่งที่พอจะช่วยลูกได้ในแต่ละวัน หรือในแต่ละวันพยายามสอนลูกในการมองหาโอกาสจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับการเรียนรู้ที่จะเกิดในบ้านได้
Related Courses
Peer Learning วิธีฟื้นฟู Learning Loss
ในคอร์สนี้จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ Peer Learning คืออะไร 5 รูปแบบของกิจกรรม Peer to Peer Learning ตัวอย่างก ...
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...
การสอนภาษาไทย (3R)
การสอนภาษาไทยของมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างเป็นระบบเข้าใจง่ ...
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...