5 คุณแม่แชร์ประสบการณ์เรียนออนไลน์

สถานการณ์ของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน สำหรับในประเทศไทยตั้งแต่มีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเดือนมกราคมปี 63 จนถึงตอนนี้ก็ล่วงเลยมานานพอสมควรแล้วที่ประชาชนต้องปรับตัว รับมือกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่ต้องคอยระวังการติดเชื้อ หลากหลายสาขาอาชีพต่างได้รับผลกระทบกับการต้องหยุดหรือเลิกกิจการไปตามๆ กัน 

ไม่ต่างจากแวดวงการศึกษา ที่โรงเรียนทั้งประเทศ ต้องมีการสั่งปิดสถานศึกษา ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อระบบการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ โรงเรียนทั่วประเทศ และจำเป็นต้องมีการยกเลิกการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการที่โรงเรียนต้องปิดชั่วคราว และต้องมีการเลื่อนวันเปิดอยู่หลายครั้งด้วยสถานการณ์ของโรคที่ยังไม่นิ่ง จึงเลี่ยงไม่ได้ทุกโรงเรียนต้องมีการปรับรูปแบบเป็นการเรียนการสอนไปเป็นแบบออนไลน์ ซึ่งทางด้านพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กๆ เอง ต่างต้องพบเจอกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

วันนี้เรามีเสียงจากคุณแม่ 5 คน ที่มีลูกวัยเรียน ซึ่งต้องปรับตัวรับมือกับการต้องอยู่บ้าน เรียนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบด้วยผลกระทบจากวิกฤตโควิด พวกเขาต้องพบเจอกับปัญหาอะไรบ้างในการเรียนออนไลน์ และพวกเขามีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร วันนี้เรามาติดตามกันค่ะ

แม่เบน​ น้อง​คิน​ น้องคุณ (แม่มีลูก 2 คน) 

ส่วนตัวแล้วผลกระทบจากการต้องเรียนออนไลน์ที่ต้องเจอคือ ด้วยลูกคนโตเป็นสมาธิสั้น ทำให้มีปัญหาเรื่องการจดจ่อในการเรียน ลูกจะจดจ่อกับการเรียนได้แค่ช่วงสั้นๆ  และเมื่อลูกคนใดคนนึงมีการเบื่อหรือเหนื่อยล้าจากการเรียนก็อาจจะไปรบกวนสมาธิลูกอีกคน หรือชวนกันเล่นจนเสียการเรียนไปค่ะ

วิธีแก้ปัญหา คือ ต้องวางแผนจัดตารางการเรียนของลูกทั้ง 2 คนให้ไม่รบกวนกัน ทั้งเพิ่มเรื่องการฝึกสมาธิแบบใช้การเคลื่อนไหว และเพิ่มการเล่นกีฬาทุกวันเพื่อให้ลูกๆ ได้ผ่อนคลายและเพื่อร่างกายได้ปลดปล่อยพลังค่ะ

แม่เชอรี่​ น้องคิน​ น้องคูณ (Full-time mom)

โชคดีที่ลูกค่อนข้างปรับตัวได้ดีกับการเรียนออนไลน์​ จึงไม่ได้มีปัญหามากนัก​ แต่ก็มีในเรื่องวิชาที่เรียน ​และแม่ต้องเป็นคนสอนต่อจากครู​ แต่แม่อาจจะไม่มีสกิลในการสอนแบบนั้น​ ก็เลยเกิดปัญหา​ในการถ่ายทอดให้ลูกเข้าใจได้ง่าย​ และยิ่งมีลูกสองคน​ ต้องแบ่งเวลาในการดูแลการเข้าเรียน​ ไหนจะอุปกรณ์​ที่ใช้ และจำเป็นในการเรียนของแต่ละคนให้พร้อม​ ก็ทำให้หัวหมุนได้พอสมควร

วิธีแก้ปัญหาของบ้านเรา  คือ เราก็ต้องพยายามฟังที่ครูสอนผ่านหน้าจอไปพร้อมกับลูก​ และช่วยเหลือ​ในเวลาที่ลูกติดขัดในเรื่องต่างๆ ​ แต่ก็แนะนำให้ลูกสอบถามครูให้เข้าใจ​มากที่สุด​ เพราะครูจะได้รู้ว่าลูกยังไม่เข้าใจ​ ซึ่งจะสามารถช่วยลูกได้ตรงจุด

แม่แอม​ น้องรักเอย​ (แม่ลูกคนเดียว)

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอจะมีแค่ตอนสอนการบ้านลูกค่ะ เพราะเวลาสอนการบ้าน บางทีลูกจะชอบเถียงและไม่ชอบให้พ่อแม่มาคอยกำกับ

วิธีแก้ปัญหา คือ ต้องเลี่ยงทะเลาะกันโดยการถอยให้ลูกได้ลงมือทำด้วยตัวเอง และให้ลูกยอมรับกับคะแนนที่ได้ หรือการที่ต้องคอยแก้งานเวลาครูตรวจแล้วเจอข้อที่ผิด และถ้าวิชาวิชาไหนเกินความสามารถของลูก ค่อยมาให้แม่สอน

หมอแอนนี่​ น้องแอนฟิลด์​ น้องอัลฟ่า (แม่มีลูก​ 2  คน​ เป็น​  Working Mom ด้วย)

ปัญหาที่บ้านเราเจอ คือ พ่อแม่ ต่างคนต่างก็ต้องทำงาน full time ไม่ได้คอยอยู่หน้าจอกับลูกด้วย ลูกอายุ 7 ปี ต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด ซึ่งพบปัญหาในการเรียนคือ มีสมาธิวอกแวกบ้าง นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการหาเอกสาร ซึ่งเอกสารบางอย่างคุณครูต้องใช้ขณะนั้น และไม่รู้ว่าเก็บที่ไหน และหาไม่เจอ

สำหรับปัญหาที่เจอ วิธีแก้ คือ เราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนกับลูกในการเรียนออนไลน์ แจ้งคุณครูให้รับทราบกรณีมีเรื่องรีบด่วน ใช้การสื่อสารกับลูกผ่านกล้องวงจร ช่วยแปะตารางเรียนเวลาฝึกให้รับผิดชอบเอง และกลับมาช่วยทบทวน คอยให้กำลังใจ และคอยเตรียมเอกสารไว้ให้ล่วงหน้าเท่าที่เราจะทำได้

แม่อัญ​ น้องพอดี (แม่เป็นคุณครู)

เอาจริง ๆ  คือ ส่วนตัวแล้วจะ ปล่อยลูกไปเลย ไม่ไปยุ่งวุ่นวายด้วย ให้ลูกได้เรียนเอง ทำงานเอง  แม่ก็ไปสอนออนไลน์ของแม่ แล้วค่อยมาสรุปกับลูกตอนค่ำว่าวันนี้เรียนอะไรบ้าง ทำงาน ส่งงานให้คุณครูครบหรือยัง 

วิธีแก้ปัญหา ​คือ​ บอกกับลูกไว้ว่า แม่ต้องทำงานในเวลาที่ลูกเรียน​ ถ้ามีอะไรให้ถามครู​ให้เข้าใจให้ได้มากที่สุด​ หากติดขัดจริงๆ​ รอแม่ตอนเลิกงาน​ แม่จะมาช่วยดูให้

วิกฤติโควิด -19 ครั้งนี้ เป็น บทเรียนชีวิตครั้งสำคัญที่ทำให้เราต้องปรับตัวใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม  

จากสถานการณ์ปัจจุบัน   ปัญหาเรื่องโควิดยังไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มว่าจะยังอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นการปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องทุ่มเทและใช้เวลากับลูกมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง  ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนด้วยนะคะ

ซึ่งปัญหาที่เจอ​ คือ​ ลูกอยากจะมาออกกล้องที่แม่สอนมากกว่าของตัวเอง​ และลูกอาจติดปัญหา​ในการทำงานด้วยตนเองในบางงาน​ และไม่มีแม่คอยช่วยทันทีในตอนนั้น