ทำอย่างไรดี เมื่อลูกเป็นเด็กขี้ลืม
เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ? หลายๆบ้านคงวุ่นวายกันแน่นอนเพราะเปิดเทอมนี้มีอะไรให้ต้องเตรียมเยอะ แน่นอนว่าปัญหาก็ต้องตามมา อย่างถ้าบ้านไหนมีลูกน้อยขี้ลืม คงจะเหนื่อยไม่น้อย เด็กบางคนถ้าเตือนก็กลับมาจำได้ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องเมื่อลูกเป็นเด็กขี้ลืมกันค่ะ ว่าทำไมลูกถึงขึ้ลืมบ่อย แล้วพ่อแม่ต้องทำอย่างไรเมื่อลูกลืมของ?
ก่อนอื่น เราขอบอกก่อนว่าสำหรับลูกวัยอนุบาลกับอาการขี้หลงขี้ลืมถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสมองของลูกยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่างกังวลมากไปนะคะ
กิจกรรมทำแก้ลืม
เรามีวิธีแก้ลืมหลากหลายวิธีมานำเสนอกันค่ะ บ้านไหนถนัดแบบไหน ลองไปปรับใช้กันได้เลยค่ะ
- สร้างกิจวัตรให้ลูก
เพื่อให้ลูกรู้ว่าในแต่ละวันต้องทำกิจกรรมอะไรบ้าง และในแต่ละกิจกรรมนั้นต้องเตรียมตัวหรือเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง เช่น กำหนดเวลาเข้านอน และตื่นนอนให้ชัดเจน ตื่นนอนแล้วต้องอาบน้ำ ทานข้าว ไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนแล้วต้องทำการบ้าน อ่านหนังสือ เป็นต้น ช่วยให้เด็กๆ จดจำการทำกิจกรรมตามขั้นตอน ไม่ลื่มง่าย
- ทบทวนบ่อยๆ
หลังจากกลับมาจากโรงเรียนให้ลูกๆ ได้เล่ากิจกรรมที่ได้ทำในแต่ละวันให้ฟัง อ่านหนังสือ ทำการบ้าน และทบทวนบทเรียนเป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งการทบทวนซ้ำๆ จะทำให้สมองจดจำได้นานขึ้น
- อ่านนิทานช่วยได้นะ
การอ่านนิทานหรือร้องเพลงร่วมกันบ่อยๆ โดยเฉพาะเพลงหรือนิทานที่มีคำคล้องจอง จะทำให้เด็กๆ จะจดจำเรื่องราว และเนื้อร้องของเพลงได้ดีขึ้น นอกจากจะช่วยเสริมเรื่องความจำแล้วเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านภาษาอีกด้วยค่ะ
- นอนหลับพักผ่อน
การนอนหลับอย่างเพียงพอ นอกจากร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่สมองจะทำการบันทึกความจำลงในสมอง เมื่อตื่นมาจะทำให้สมองปลอดโปร่ง สามารถเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆได้อย่างแม่นยำ
- ฝึกการจดบันทึกในเด็กโต
บ้านไหนมีเด็กโตลองใช้วิธีนี้ดูค่ะ เมื่อลูกได้เจอะเจอเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวัน ให้ลองชวนเด็กๆ มาจดบันทึกตามความถนัดของเขา อาจจะเป็นการบันทึกด้วยการวาดรูป หรือจดบันทึกเป็นเรื่องราวสั้นๆ ในภาษาของเด็กๆ เอง นอกจากจะช่วยเรื่องความจำ ยังช่วยเรื่องพัฒนาการทางภาษาอีกด้วย
เมื่อลูกลืมบ่อย พ่อแม่ควรทำอย่างไร?
เขียนเรื่องราวฝั่งของลูกไปเยอะแล้ว เรามาดูเรื่องของฝั่งคุณพ่อคุณแม่ดูบ้างว่าเราควรปฎิบัติตัวอย่างไร จะช่วยให้เด็กๆลืมน้อยลงบ้าง?
- อย่าโวยวายเกิน
การโวยวายนอกจากจะทำให้ลูกรู้สึกผิดแล้ว ยังทำให้ลูกกลัวจนลืมไปอีกว่าของนั้นหายไปได้อย่างไร และลืมมากขึ้น
- ให้ลูกตามหาของที่ลืม
เมื่อของหายอย่าหาให้ลูกเสียเอง แต่ควรสอนวิธีหาให้เขาก่อน เช่น เดินย้อนกลับไปตามทางเดิมที่เพิ่งมา หรือ สอบถามจากพนักงานที่ต่างๆ แต่ถ้าหาไม่เจอก็อาจให้ติดประกาศไว้ที่บอร์ด (กรณีหายที่โรงเรียน) หรือแจ้งที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อสอนให้ลูกรู้สึกว่าเขาต้องรับผิดชอบของชิ้นนั้น และเรียนรู้ขึ้นตอนที่จะรับมือเมื่อของหาย
- ไม่ซื้อของใหม่ให้ทันที
ถ้าลูกนึกไม่ออกว่าลืมของไว้ที่ไหน ก็ให้เขาใช้ของเก่าที่มีอยู่ให้นานขึ้นอีกนิด เพื่อให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับผลที่จะตามมา เพื่อไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก ให้ลูกรู้ว่านี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรทำ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่รีบซื้อของใหม่ให้ ก็จะกลายเป็นว่าเขาสามารถลืมได้ เดี๋ยวพ่อแม่ก็หาของใหม่มาให้
นี่ล่ะค่ะแนวทางง่ายๆที่เราเสนอให้ลองใช้ดู ทั้งฝั่งเด็กๆ และฝั่งคุณพ่อคุณแม่ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่เป็นคนขี้ลืมเสียเอง เพราะนั่นจะทำให้เด็กๆคิดว่าการลืมไม่ใช่เรื่องใหญ่ และจะไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมในที่สุดค่ะ
Related Courses
พัฒนาการด้านร่างกายสำคัญอย่างไร
เรียนรู้ความสำคัญ ตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย แนวทางการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการด้านร่า ...
พัฒนาการด้านอารมณ์สำคัญอย่างไรกับเด็กปฐมวัย
บทเรียนนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ความสำคัญของพัฒนาการ สมรรถนะตามวัย กิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์ เน้นการทำกิจกรร ...
เรียนรู้และเข้าใจเด็กแอลดี
เด็ก LD คือ เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม อาจช่วยให้ผู้ป่วยพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ได้อย่างเต็ม ...
สุขภาพเด็กวัยเรียนสำคัญอย่างไร
การเรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพของเด็กในวัยเรียนที่ครูและผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ พร้อมนำไปปรับใช้ให้มีความเหมาะสมกับเด็ก ในด้านก ...