ผิดที่พ่อแม่หรือเปล่าที่ทำให้ลูกเข้าสังคมไม่ได้

เด็กๆ แต่ละคนจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความชอบ บุคลิกภาพ อารมณ์สิ่งเรานี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างของแต่ละครอบครัวของเด็ก เช่นเดียวกับการเข้าสังคม ซึ่งเป็นปัญหาของเด็กบางคนที่เข้าสังคมไม่ได้ เป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกทำให้พ่อแม่บางคนก็แอบคิดว่าการที่ลูกกลายเป็นคนไม่เข้าสังคมหรือเข้าสังคมไม่ได้แบบนี้เป็นเพราะฉันหรือเปล่าหรือเป็นที่ลูกเอง วันนี้ทางผู้เขียนจะมาบอกเหตุผลกัน ตามไปดูกันเลย

ลูกเข้าสังคมไม่ได้พ่อแม่ต้องเช็คอะไรบ้าง

1. ลูกกลัวผู้คน เขินอาย พูดน้อย หรือหวาดกลัว
2. ชอบอยู่คนเดียว ชอบเล่นคนเดียวมากกว่า
3. ไม่ค่อยกล้าเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆ ได้แค่มองห่างๆ
4. เงียบผิดปกติ ไม่ค่อยอยากพูดคุยกับเพื่อนหรือเด็กคนอื่นๆ
5. อึดอัดเวลาต้องมาเข้าสังคมและหลีกเลี่ยงการพบเจอผู้อื่น

สิ่งเหล่านี้มักจะส่งผลโดยตรงกับเด็กๆ ในอนาคตได้เลยนะคะคุณพ่อคุณแม่เพราะหากต้องไปโรงเรียนหรือไปทำงาน เขาจะต้องพบเจอผู้คนมากมาย ได้ทำงานเป็นทีมและต้องมีการสนทนาพูดคุยเรื่องงานต่างๆอาจจะกระทบกับงานและตัวของลูกเองในอนาคตอย่างมากเลยหากลูกเข้าสังคมไม่ได้ค่ะเหตุผลที่ลูกไม่เข้าสังคมเพราะอะไร เพราะพ่อแม่หรือเปล่า

1. พ่อแม่ทำทุกอย่างให้ลูก จนลูกไม่เคยทำอะไรด้วยตนเอง

ถึงดูแล้วจะเป็นสาเหตุที่อาจจะไม่เชิงว่าจะทำให้ลูกเข้าสังคมไม่ได้นะคะ แต่ก็เป็นเหตุผลนึงเพราะเด็กบางคนพ่อแม่ทำให้ทุกอย่าง เรียกว่าถวายทุกอย่างเลยก็ว่าได้ทำให้เขากลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจในตนเองได้ อย่างเวลาให้เขาลองตัดสินใจหรือทำอะไรก็จะเกิดความไม่มั่นใจได้ เรื่องการเข้าสังคมก็เช่นกันเด็กก็จะไม่มีความมั่นใจที่จะลองเข้าหาคนอื่นๆ เพราะเขาไม่เคยลองหรือทำอะไรด้วยตัวเองตรงนี้ก็จะเกิดปัญหาตามมากับลูกได้

2. ลูกไม่รู้วิธีเข้าหาเพื่อน

อาจจะเป็นเพราะลูกอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้มีเวลาหรือโอกาสได้ไปเล่นกับเด็กๆ วัยเดียวกันทำให้เขินอาย และไม่รู้วิธีการเล่นกับเพื่่อนคนอื่นๆ ทำให้ผลที่ตามมาคือหากเข้าโรงเรียนเด็กๆเวลามีงานกลุ่มก็อาจจะเข้าหาเพื่อนๆ ได้ยาก พูดน้อย ลังเลในการแสดงความคิดเห็นทำให้เป็นข้อด้อยของเด็กๆ ไปเลยก็ได้ค่ะ

3. ลูกฉลาดเกินไป

บางครั้งความเก่งของเด็กบางคนก็อาจจะเกินระดับ ทำให้เป็นอุปสรรคในการคบหาเพื่อนๆอย่างการพูดคุย หากลูกฉลาดเกินไปบางครั้งเขาก็อาจจะพูดจนเพื่อนๆ ไม่เข้าใจได้หรือบางครั้งความฉลาดของลูกก็ทำให้เขาสนใจแต่การเรียนจนทำให้เขาขาดการเข้าสังคมได้ด้วยนั่นเองค่ะ

4. ลูกขาดไหวพริบในการเข้าสังคม

เช่น เพื่อนกำลังเล่นขายของอยู่ ลูกเราอาจจะเข้าไปจู้จี้ ก่อกวน จนเพื่อนคนอื่นๆ รำคาญจนในที่สุดเพื่อนๆ ก็ปฏิเสธไม่ให้เล่นด้วยเพราะฉะนั้นเองคุณพ่อคุณแม่อาจจะสอนเขาเรื่องการมีไหวพริบสักนิดนึงอย่างการที่จะไปเล่นกับเพื่อนแต่ละครั้งก็อาจจะสอนให้เขามีการขอเพื่อนๆ เขาไปเล่นด้วยหรือเสนอตัวเป็นคนขายหรือเป็นลูกค้า พยายามขอเพื่อนๆ เล่นก็จะทำให้ลูกดูน่ารักขึ้นได้และเข้าสังคมกับเพื่อนคนอื่นๆ ได้ดีเลยค่ะ

5. ลูกคิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นๆ

เด็กบางคนมักจะคิดว่าตัวเองไม่เหมือนเพื่อน ด้อยกว่า เรียนไม่เก่งหรือร้องไห้เสียงดังจนเพื่อนในห้องเรียนคิดว่าเป็นเด็กที่แปลกทำให้เขาไม่อยากที่จะคบหาเพื่อนหรือเข้าหาเพื่อนคนอื่นๆ ได้ หากเป็นเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะพูดคุยกับลูกให้มากและพยายามจูนความคิดให้ลูกคิดในทางที่เป็นบวกให้มากขึ้นพยายามสอนเขาให้เข้าใจความแตกต่างของรูปร่างหน้าตาของคนแต่ละคนว่าไม่ด้อยไปกว่าใครและไม่มีใครสูงกว่าใคร พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้เขาหรืออาจจะพาลูกไปพบปะเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันบ่อยๆก็จะทำให้ลูกปรับตัวเองดีขึ้นนั่นเองค่ะ

6. พ่อแม่กำกับลูกเยอะเกินไป

แบบนี้ก็ทำให้ลูกไม่กล้าคิด ไม่กล้าลงมือทำเอง กลายเป็นเด็กเข้าสังคมยากไปด้วยได้นะคะเพราะการที่พ่อแม่กำกับให้ลูกว่าต้องทำอะไรคอยสั่งตลอดเวลาจะทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง ขาดความคิดสร้างสรรค์หรือใช้แต่คำสั่งในการเลี้ยงดูลูก เวลาผิดพลาดนิดหน่อยก็ดุลูก จนเขากดดันซึ่งผลที่ตามมาก็คือเขาปรับตัวยากในการเข้าสังคมและขาดความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาเวลาเจอสถานการณ์หรือคนใหม่ๆ นั่นเองสรุปแล้วก็คือพ่อแม่ผิดหรือเปล่า บอกเลยว่าพ่อแม่ก็มีส่วนเพราะเราเป็นคนเลี้ยงดูลูกหากเราเลี้ยงแบบธรรมชาติปล่อยให้เขาได้พบเจอกับปัญหาบ้าง เจอสิ่งใหม่ๆ บ้าง ทำกิจกรรมต่างๆที่ไม่ใช่แค่ทำอยู่ที่บ้าน ให้เขาได้ใช้ความคิดและได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้างก็จะทำให้ลูกไม่เป็นเด็กที่เข้าสังคมยากได้นั่นเองค่ะ