โควิด ฉุกคิดก่อน..New normal วิถีชีวิตใหม่

“หมอขอทำงานหนักที่โรงพยาบาลเพื่อคุณ ขอให้คุณพักอยู่ที่บ้าน เพื่อพวกเรา”

ห้าง ตลาด รักกันห่างๆ

เตรียมให้พร้อม ทำงานที่บ้าน กับชีวิตแบบใหม่ๆ

หากพลั้งไป อยู่ในที่เสี่ยง ก็กักตัวเอง แต่ครื่นเครงยังต้องมี

มาดูวิถี การออกแบบชีวิต ..ใหม่

“ห่างกันสักพัก กินร้อน ช้อนหนู ไม่รวมหมู่ ห่างหนู 2 เมตร”

สิ่งที่เราได้รับข้อมูลเรื่องการปฏิบัติตนในช่วงโรคระบาด COVID-19 คือ ขอให้เราลดการเดินทาง ทิ้งระยะห่างทางสังคมห่างกัน 2 เมตร เพื่อลดภาวะวิกฤติของ COVID-19 คำแนะนำดังกล่าวหากทุกคนทำได้อย่างเคร่งครัด เราทุกคนจะเป็นส่วนหนึ่งของการลดภาวะวิกฤติ เพื่อชะลออัตราเพิ่มขึ้น สะสมของคนป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ให้นานพอที่ผู้ป่วยก่อนหน้าสามารถรักษาหาย ได้กลับบ้าน ทำให้มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วยหนักรายต่อมา...เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการตายที่หลีกเลี่ยงได้....

แต่การทิ้งระยะห่างทางสังคม การทำงานที่บ้าน ย่อมหมายถึง ในบ้านจำเป็นต้องมีสิ่งบริโภค อุปโภค เพียงพอ ตามเวลาที่เราช่วยกันกักตัวเอง ประกอบกับการจัดการของประเทศ ก็มีการควบคุมการเปิดปิดสถานประกอบการ ร่วมด้วย ในระยะเวลานี้เราจึงต้องมาทบทวนดูว่า อะไรเป็นสิ่งจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องมี และอะไร ที่ไม่ควรจะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ก่อนอื่นเราควรรู้ว่า ..การประกาศปิดห้างร้านค้า ในภาวะ COVID-19 นั้นไม่ได้ปิดในส่วนของร้านค้าที่ขายสินค้าที่จำเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิต สายการผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคยังเป็นไปตามปกติ ดังนั้นขอให้ ผ่อนคลายความวิตกกังวลและไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหารไว้จนเกินพอจนเน่าเสีย แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน ช่วงที่เรา เว้นระยะห่างทางสังคม ทำงานจากบ้าน กักตัวเองช่วยโลก เราต้องเตรียมอะไร..จับจ่ายอย่างไร ดี

เรามาดูกันว่า อะไร คือสิ่งที่จำเป็นต้องมี ซื้อเก็บไว้ในช่วงกักตัว ประมาณ 1 เดือน

1. ปกติถ้าเป็นครอบครัวใหญ่มักจะ ซื้อน้ำและอาหารบางอย่างที่เก็บไว้ได้ ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ในช่วงเว้นระยะทางสังคมนี้ ควร ซื้อไว้ให้เพียงพอ 1 เดือน
2. ยาที่ต้องทานประจำมีให้เพียงพอในระยะเวลาที่อยู่บ้านเพื่อกักตัว หรือ เว้นระยะทางสังคม ควรตรวจสอบวันหมดอายุของยา ว่าไม่ได้อยู่ในช่วงกักตัวหรืออยู่บ้านเพื่อเว้นระยะทางสังคม
3. ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ปวดท้อง ยาสำหรับแผลสด พลาสเตอร์ ยาแก้ท้องเสีย สำลี ยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ เกลือแร่ และวิตามิน เช่น วิตามินC วิตามินรวม ควรมีไว้
4. พิจารณาซื้ออาหารแห้งที่มีประโยชน์ในการช่วยระบบภูมิคุ้มกัน และหากอาหารกระป๋องควรดูกระป๋องที่ไม่โป่งพอง หรือมีรอย อาหารที่ควรซื้อเก็บไว้ ได้แก่ ข้าวสาร ไข่ พืชตระกูลถั่ว เมล็ดดอกทานตะวัน ทูน่า ปลากระป๋อง อาหารเหล่านี้ มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
5. ควรทำพื้นที่ช่อง freezer ในตู้เย็นให้โล่ง เพื่อเก็บ ผัก ผลไม้ ขนมปัง โดยซื้อมาจำนวนที่สามารถทำอาหารได้พอแต่ละมื้อ และเหลือพอเก็บไว้ในช่อง freeze เพื่อยืดอายุ แต่ไม่ควรเก็บเกิน 1 สัปดาห์ ในช่อง freeze พิจารณา ซื้อ ผักกระป๋อง และผลไม้กระป๋องที่ไม่เติมน้ำตาล ซึ่งจะเก็บได้ยาวนานกว่า ส่วน เนื้อ และ อาหารทะเล เก็บในช่อง freeze ได้ 2-3 เดือน
6. เนื้อฝอย หมูฝอย หมูแผ่น ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำพริกกระปุก ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน
7. ผลไม้อบแห้งเช่น ลูกเกด พรุน สตรอว์เบอรี่ มะเขือ ฟักทอง หรือ เมล็ดฟักทอง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์
8. นมผง ผงโกโก้ ดาร์คชอกโกแลต ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ อุ่นๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ดาร์คชอกโกแลต ยังช่วงชะลอความชรา และต้านอนุมูลอิสระด้วย
9. อุปกรณ์ประกอบอาหารเคลื่อนที่ เผื่อในกรณี ใครในครอบครัวต้องแยกอยู่คนเดียว จะได้ใช้อุปกรณ์แยกกับที่บ้าน เช่น Gas เตาไฟฟ้า
10. ถ้าบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยง ควรเตรียมน้ำและอาหารสัตว์เลี้ยงให้เพียงพอ ถ้ามีแมวเตรียม cat litter ให้เพียงพอหากสัตว์เลี้ยงมียาทาน ให้สัตว์แพทย์ประเมินจำนวนยาให้เพียงพอในช่วง กักตัว หรือเว้นระยะทางสังคม
11. กระดาษ ทิชชู่ diapers กระดาษชำระ ไฟฉาย น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ
12. ควรเตรียมเงินสดสำรองไว้ ในกรณีที่ธนาคารอาจปิดทำการ หรือเครื่องกดเงินอัตโนมัติอยู่ห่างจากที่อยู่อาศัย
13. เครื่องมือสื่อสาร โปรแกรมบันเทิง เพื่อผ่อนคลาย

เราคงพอจะเห็นแนวทาง ว่า เราจะต้องเตรียมอะไรที่สมเหตุสมผลกับภาวะ COVID-19 Pandemic กันแล้ว แต่อะไร ที่ไม่จำเป็นล่ะ มาดูต่อว่า อะไรที่เราไม่ควรเสียเงินเปล่า ๆ ไปซื้อกักตุนไว้ เมื่อเรากักตัวเองหรือ เว้นระยะทางสังคมที่กำลังจะบอกอาจจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงและทุกคนก็อาจกำลังหาซื้ออย่างมากอยู่ก็เป็นได้

1. หน้ากากอนามัย (Mask) หลายท่านอาจคิดว่า จะต้องหา mask เอาไว้มาก ๆ แต่เดี๋ยวนะ ตอนนี้ กำลังกักตัว และเว้นระยะห่างทางสังคมควรห่างกัน 2 เมตร ไม่ใช้รถสาธารณะ ไม่ไปรวมกลุ่มในสังคม เราอยู่ห่าง ๆ กัน ดังนั้นไม่ต้องสะสม mask ก็ได้ค่ะ คุณไม่ต้องใส่ mask ในบ้าน ถ้าไม่ได้พบปะใครระยะประชิด หรือเดินทางด้วยรถสาธารณะ ขึ้นเครื่องบิน แต่ควรคำนวณแค่ มีเอาไว้ให้เพียงพอใส่เมื่อจำเป็นต้องออกไปธุระสำคัญจริง ๆ

2. น้ำยาฆ่าเชื้อ แอลกอฮอล์ ถ้าคุณอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปแหล่งชุมชน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ครั้งละ 20 วินาที ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องมี แอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อระดับใช้ในโรงพยาบาลมาไว้ในบ้าน มีน้ำยาถูบ้าน น้ำยาขัดห้องน้ำ ที่ใช้กันปกติ ก็เพียงพอ

3. เครื่องกรองอากาศหรือ เครื่องฟอกอากาศ ตัวฟิลเตอร์ไม่สามารถกรองหรือฆ่าไวรัสได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อมาเพื่อป้องกันไวรัสค่ะ

มาถึงตรงนี้ เราทุกคนรับรู้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราจึงต้องใช้สติ เพื่อให้ช่วงเวลาที่ร่วมใจกันเว้นระยะห่างทางสังคม ทำงานที่บ้าน เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่....

เราจะเป็นส่วนหนึ่งของ การลดการตายที่หลีกเลี่ยงได้

เราทำให้คนป่วยหนักได้รับการรักษาหาย

เรา คืนเตียงให้ รพ ยื้อเวลาให้มีเตียงพอ เพื่อรักษาผู้ป่วยรายต่อไป

เรา ช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ โดยคิดว่าเราอาจเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ

         แต่หากเราไม่เว้นระยะห่างทางสังคม การติดเชื้อจะเพิ่มเป็นทวีคูณ และ โรงพยาบาลไม่มีเตียงพอสำหรับผู้ป่วย ซึ่งพวกเราช่วยกันได้ โดยเว้นระยะห่างทางสังคม กักตัว ทำงานที่บ้าน เรากำลังช่วยกันป้องกันการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสะสมไม่ให้อยู่ใน area สีแดงของกราฟ พยายามให้ประเทศเรา อยู่ใน area สีฟ้า ให้ระบบดูแล

สุขภาพมีเพียงพอ เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายให้การติดเชื้อเป็น ศูนย์ ในช่วง lock down และคลาย lock down

แต่เราต้องการ ให้การติดเชื้อช้าลง ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ มีเวลาในการค้นพบวัคซีน และมีเตียงพอสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ดังนั้น การทำงานที่บ้าน การกักตัวเอง การเว้นระยะห่างทางสังคม คือการที่เราป้องกันตนเองให้พบเจอเชื้อน้อยทำร่างกายให้แข็งแรงที่สุด ช่วงกักตัวเอง ทำงานที่บ้าน เราจึงต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดังได้กล่าวแล้วข้างต้น เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไปจนตลอดรอดฝั่ง หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงไม่สุก อาหารดิบ ใช้ช้อนแก้วน้ำส่วนตัว แม้จะอยู่ในบ้านของเราเอง การใช้ของส่วนตัว ก็ยังจำเป็น เพราะเราต้องคิดว่า เราอาจเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการก็ได้ เรามาช่วยชะลอให้มีเตียงพอให้ผู้ป่วยได้รักษา ก่อนที่สถานการณ์ จะกลายเป็น Walking COVID-19 ซึ่ง Social distancing จะไม่ได้ผล ต้องเป็น Selective social distancing คือแยกผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง ออกจากเด็ก เพราะเด็กอาจมีเชื้ออยู่แต่มักไม่มีอาการ หากเข้าใกล้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรัง จะทำให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื่อรังมีอาการรุนแรงได้ เราได้แต่หวังว่า การกักตัวและเว้นระยะห่างทางสังคม จะชะลอ การเข้าสู่Phase 3 และลดความวิกฤติลง..หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ระยะห่างทางสังคม..ทำให้ครอบครัวใกล้ชิดกัน ธรรมชาติฟื้นคืน อากาศบริสุทธิ์

อีกไม่ช้า เราจะได้ออกมาวิ่งและหายใจเต็มปอดได้ ...อีกครั้งอย่างที่เคย...