วิธีฝึกลูกนอนแบบยาวๆ ที่พ่อแม่ต้องรู้
เชื่อเลยว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงประสบปัญหาทำยังไง เจ้าตัวเล็กก็ไม่นอนหลับยาวๆ สักที เรียกได้ว่านอนหลับๆ ตื่นๆ แล้วกว่าจะนอนได้แต่ละครั้งก็ทำเอาพ่อแม่อย่างเราเหนื่อยอกเหนื่อยใจกันซะเหลือเกิน เป็นแบบนี้หลายๆ คืนคุณพ่อคุณแม่ก็เรียกได้ว่าร่างจะพังกันค่ะ วันนี้ทางผู้เขียนจึงมาบอกเคล็ดลับหรือวิธีฝึกลูกนอนแบบยาวๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน ไปดูกันเลย
มาดูกันก่อนค่ะว่าการนอนหลับยาวมันคืออะไร การนอนหลับยาว โดยทั่วไปตามการแพทย์คือการนอนหลับยาวๆ 6-8 ชั่วโมงขึ้นไปนั่นเองค่ะ ซึ่งการนอนหลับยาวของเด็กๆ ก็คือการนอนเป็นเวลา หลับสบาย และตื่นตรงเวลา ซึ่งเด็กๆ จะเริ่มเรียนรู้ว่าอะไรกลางวันกลางคืนนั้น ก็ต้องรอให้เขาอายุ 1-2 เดือนขึ้นไปนั่นเองค่ะ
สาเหตุที่ลูกไม่ยอมนอนแบบยาวๆ
- เด็กๆ แยกกลางวันกลางคืนไม่ออก
- การพาลูกเข้านอนแบบผิดวิธี
- กินนมไม่อิ่ม
- บรรยากาศของห้องนอนที่ไม่เหมาะสม
ทำยังไงให้ลูกนอนหลับแบบยาวๆ
1. ลูกต้องการหม่ำนม ต้องให้ลูกกินนมและต้องแน่ใจว่าลูกกินอิ่มแล้ว
ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หรือเดือนแรกๆ เด็กๆ มักจะตื่นมากลางดึก เนื่องจากหิวนมอยากหม่ำนมคุณแม่ แต่หลังจากนั้นหากเด็กๆ อายุได้ 4-6 เดือน เด็กบางคนก็เริ่มที่จะนอนได้ตลอดทั้งคืนแล้วแบบไม่ต้องหม่ำนม หรือกินมื้อดึกแล้ว แต่หากลูกตื่นก็อยากจะให้รู้ว่าเขาอาจจะเคยชินในการขอหม่ำนมนั่นเอง ดังนั้นให้เด็กๆ ได้กินอิ่มนอนหลับก็จะดีกว่าแถมนอนยาวๆ แบบสบายๆ เลยค่ะ
2. ทำกิจวัตรต่างๆ ให้เป็น Step
การทำกิจวัตรต่างๆ ให้เป็น Step อย่างการทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนนอน ทานอาหารเย็น อาบน้ำ อ่านนิทาน กิจวัตรต่างๆ ต้องเป็นเวลาและเป็นไปตามแบบเดิม ก็จะช่วยให้ลูกรู้เวลาว่าช่วงไหนเวลาไหนเขาควรทำอะไร และถึงเวลานอนเขาก็จะทราบและนอนได้อย่างเป็นเวลาแถมนอนหลับยาวแบบหายห่วงเลยค่ะ
3. ช่วงเวลาก่อนนอนสำคัญมาก
หากคุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกนอน 2 ทุ่ม เราก็ควรที่จะให้เขาทำกิจกรรมให้เสร็จตอน 1 ทุ่มครึ่ง อาจจะมีการเปิดไฟเพื่อให้รู้ว่าถึงเวลานอนแล้ว เป็นแสงส้มๆ สลัวๆ จะช่วยให้เขามีจิตใจสงบและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งเมลาโทนิน ที่ทำให้รู้สึกง่วง ที่สำคัญห้ามเข้านอนเกิน 4 ทุ่มด้วยนะคะ
4. พาลูกไปบอกลาของเล่นก่อนนอน
วิธีนี้ก็อาจจะช่วยได้บางบ้านนะคะ ก็คือพาเด็กๆ ไปทัวร์ก่อนนอนค่ะ ให้เขาไปบอกราตรีสวัสดิ์กับของเล่นต่างๆ ภายในห้องนอนก่อนเข้านอน เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าต่อไปก็คือเวลาที่เขาจะนอนแล้วนะ
5. พยายามหลีกเลี่ยงเสี่ยงที่ดัง
เพราะเด็กๆ มักจะได้ยินเสียงขนาดที่เรียกว่าเสียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ตื่นกันแล้ว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะพยายามลดเสียงเท่าที่จะทำได้ อย่างเช่น เสียงทีวี เสียงเพลง เสียงคนจอแจ ก็จะช่วยให้การนอนของลูกน้อยอบอุ่นและอุ่นใจได้มากขึ้น ก็เป็นการฝึกลูกนอนได้อีกวิธีหนึ่งเลยนะคะ
6. ปลุกลูกให้ตื่นภายใน 7 โมงเช้า
โดยวิธีการปลุกก็คือเปิดผ้าม่านให้แสงอาทิตย์ค่อยๆ เข้ามาส่องที่ห้องนอน ปลุกแล้วก็ให้เขาได้งอแงวอแวนอนเล่นบนเตียงอย่าเพิ่งรีบอุ้มมาทำกิจวัตรต่างๆ แต่หากถึงเวลานอนก็ต้องนอนตั้งแต่หัวค่ำนะคะ ไม่เกิน 2 ทุ่ม ก็จะช่วยให้เขานอนหลับยาวๆ ได้ทั้งคืนเลยค่ะ
7. พ่อแม่ต้องร่วมด้วยช่วยกัน
ในใจก็อยากให้เด็กๆ นอนไว แต่พ่อแม่ยังนั่งเล่นมือถือ หรือคอมพิวเตอร์อยู่ ก็จะให้ลูกนอนหลับกันได้ยังไงล่ะ ทั้งเสียงเอย ทั้งแสงเอย เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องบอกกับตัวเองว่าเราต้องนอนพร้อมลูกหรือให้เขานอนหลับเสียก่อน ค่อยลุกมาทำกิจกรรมของเราได้ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวังนะคะ อาจจะแยกห้องออกมาเพื่อไม่ให้ไปรบกวนลูกที่นอนอยู่นั่นเองค่ะ
Related Courses
สอนคุณธรรมให้ลูก พ่อแม่ก็ทำได้
คุณธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจ นำไปสู่การกระทำที่ดีและถูกต้อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างให้เด็กพร้อมที่จะเผชิญโลก และสังคมปัจจุ ...
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...
การส่งเสริมทักษะเด็กออทิสติก
เรียนรู้เกี่ยวกับพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กออทิสติก เพื่อให้เป็นตัวช่วยในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็กกลุ่มนี้
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...