เรื่องของสุขภาพจิต “ใครคิดว่าไม่สำคัญ” สุขภาพจิต สุขภาพใจ ในสถานศึกษาทั้งครูและนักเรียนที่ใครก็ไม่ควรมองข้าม

สุขภาพจิตเป็นสภาวะทางจิตใจของแต่ละคน โดยธรรมชาติแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม บุคคล และสังคมได้ด้วยดี หากสุขภาพจิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ หรือมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ นั่นคือสิ่งที่ควรต้องให้ความใส่ใจ สังเกต และเตรียมพร้อมรับมือ ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ เป็นการแชร์ประสบการณ์จากเพื่อนครูเกี่ยวกับด้านสุขภาพจิตในสถานศึกษาที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและสร้างพลังการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ
สุขภาพจิต (Mental Health) หมายถึง ภาวะจิตใจที่เป็นสุข สามารถปรับตัวแก้ปัญหา สร้างสรรค์ทำงานได้ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความมั่นคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์อยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้น การที่เราจะมีสุขภาพจิตที่ดีได้ต้องเริ่มต้นจากการรักตัวเอง หรือที่เรียกว่า “Self-Love” เป็นสภาวะที่มองเห็นคุณค่าภายในตนเอง ซึ่งเกิดจากการกระทำที่สนับสนุนการเติบโตทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณรวมถึงความตระหนักรู้ภายในตนเอง (Self-Awareness) เป็นการตระหนัก รับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วหรือกำลังเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เช่น อารมณ์ ความรู้สึก ประสบการณ์ ความคิด การรับรู้ทางร่างกาย เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้มองเห็นตัวเองได้ชัดเจน หรือรู้เท่าทันตัวเองมากขึ้น
สุขภาพจิต สุขภาพใจในโรงเรียนที่ไม่ควรมองข้าม
เด็กในวัยเรียนมักจะพบปัญหาในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเรียน เช่น ไม่มีสมาธิ ไม่อยากเข้าเรียน เรียนไม่ทัน การเรียนร่วมกับเพื่อนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ด้านพฤติกรรม เช่น การติดเกม พฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือด้านปัญหาทางอารมณ์ของวัยรุ่น เช่น ซึมเศร้า ก้าวร้าว เป็นต้น ฉะนั้น การรับมือส่งเสริม ป้องกัน และจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตในโรงเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และสามารถทำได้โดยเริ่มต้นจากความเข้าใจ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีการสร้างกำลังใจ และฝึกการจัดการปัญหาให้เด็กตามสมควร อาทิเช่น
1. ด้านการเรียน กรณีเด็กไม่อยากเข้าเรียนหรือเข้าเรียนแล้วไม่สนใจการเรียนในบางรายวิชา ครูอาจจะต้องทำความเข้าใจ สังเกตพฤติกรรมของเด็กที่มีต่อวิชาหรือครูผู้สอน และสร้างแรงจูงใจในการเรียนให้กับเด็กมากขึ้น หรือกรณีการเรียนร่วมกับเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สิ่งที่โรงเรียนทำได้คือ เมื่อครูประจำวิชาสังเกตเห็นว่าความสนใจของเด็กที่มีต่อการเรียนลดลง ไม่มีสมาธิ จดจ่ออยู่กับมือถือ ส่งผลให้การเรียนรู้ของเด็กไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม ครูผู้สอนอาจจะต้องทำการบันทึกข้อความผ่านงานวิชาการ เพื่อประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองในการวางแผนปรับพฤติกรรมเด็กต่อไป
2. ด้านพฤติกรรมและอารมณ์ เด็กในช่วงวัยรุ่นมักมีอารมณ์ที่ค่อนข้างอ่อนไหว รุนแรง และเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ทำให้ยังไม่สามารถจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมที่แสดงออกมาได้ดีมากนัก เช่น การแสดงพฤติกรรมอย่างหนึ่งเพื่อต้องการกลบเกลื่อนพฤติกรรมบางอย่าง หรือไม่แสดงอาการ (ดื้อเงียบ) หรือการแสดงอารมณ์ก้าวร้าว โมโห เป็นต้น ฉะนั้น ครูอาจจะต้องใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับเด็กให้มากขึ้น การพูดคุย รับฟังและเข้าใจความรู้สึกของเด็กด้วยวิธีการสื่อสารเชิงบวก (I-Message) เพื่อให้เด็กเกิดความเข้าใจ เปิดใจรับฟัง และไม่เกิดการต่อต้านด้วยอารมณ์ ตลอดจนสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ด้วยวิธีการที่ครูบอกความรู้สึกของตนเอง และความต้องการว่าต้องการให้เด็กทำอย่างไร ถามความคิดเห็นของเด็ก และกล่าวขอบคุณหรือคำชมเชยเมื่ออีกฝ่ายทำตาม การให้เด็กมีตัวเลือก (Choice) ในการตัดสินใจการใช้ชุดเครื่องมือส่งเสริมการขับเคลื่อนสุขภาพจิตในสถานศึกษา “การเดินทางบนเกาะปลาวาฬ” หรือแบบวัด แบบประเมินด้านสุขภาพจิต เพื่อช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจและจัดการตนเองได้
เห็นได้ว่า เรื่องของสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เด็กที่มีสุขภาพจิตที่ดีย่อมมีจิตใจที่เข้มแข็งและสามารถรับมือกับสถานการณ์ในชีวิตได้
Related Courses
การดูแลพฤติกรรมเด็กๆ ในห้องเรียน (ประถมศึกษา)
เด็กๆ มีพฤติกรรมที่หลากหลาย มีทั้งพฤติกรรมทางบวกและลบ ดังนั้น “ครู” จึงเป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยพาเด็กๆ ให้เข้าใจตนเอง ว่าเ ...



คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...



เทคนิคสอนภาษาไทยแบบ Active Learning เพื่อวิทยฐานะ (PA) ฉบับครูมัธยม
การสอนภาษาไทยผ่านกระบวนการ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลากหลายรูปแ ...



เทคนิคสอนภาษาไทยแบบ Active Learning เพื่อวิทยฐานะ (PA) ฉบับครูมัธยม
Micro Learning ห้องเรียนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (เด็กสมาธิสั้น)
แนวทางการดูแลรักษาเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการมีภาวะสมาธิสั้น ต้องผสมผสานการรักษาหลายวิธี ถ้าเด็กได้รับการดูแลช่วยเหลือที่ถูกต้ ...



Micro Learning ห้องเรียนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (เด็กสมาธิสั้น)
Related Videos


วิจัยและนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนรู้ สู่ครูเชี่ยวชาญตามเกณฑ์ วPA


แบ่งปันไอเดียสร้างห้องเรียนสมรรถนะตามเกณฑ์ วPA สอนอย่างไรให้ผ่าน PA


ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อย่างไรให้ครบ 8 องค์ประกอบ วPA

