Flipped Classroom ห้องเรียนกลับด้านด้วยเทคโนโลยีการศึกษา
ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทุกคนน่าจะเห็นแล้วว่า เทคโนโลยีได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการเรียนรู้มากขนาดไหน และบทเรียนสำคัญที่เราได้รับมากที่สุดจากสถานการณ์นี้ก็คือการเรียนรู้ไม่จำเป็นจะต้องถูกจำกัดอยู่ในห้องเรียนอีกต่อไป ดังนั้น เราจึงได้เห็นว่าธุรกิจการเรียนรู้ออนไลน์ หรือเทรนด์การเรียนรู้ด้วยตัวเองเกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด
นอกจากการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดในห้องเรียนแล้ว วิธีการเรียนรู้ของคนก็เปลี่ยนไปอีกด้วยหนึ่งในวิธีการเรียนที่คิดว่าเหมาะสมกับโลกในยุคปัจจุบันคือ Flipped Classroom (ห้องเรียนกลับด้าน) คือ การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีรูปแบบคล้ายกับการสอนออนไลน์ นักเรียนเรียนรู้บทเรียนจากวิดีโอการสอนและศึกษา คิด วิเคราะห์ ด้วยตนเองจากที่บ้าน ก่อนมาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียน (elearninginfographics.com)
ตามพีระมิดการเรียนรู้ของ Bloom’s Taxonomy ได้บอกว่า การเรียนจะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ลึกซึ้งขึ้น สามารถอยู่ในขั้นของการประยุกต์ (Applying) และวิเคราะห์ได้ (Analying) ในระหว่างที่เรียนอยู่ เพราะเขาได้มีเวลาในการแลกเปลี่ยนร่วมกับเพื่อน และครู อีกทั้งยังสามารถเกิดการเรียนรู้ในระดับของการประเมิน (Evaluting) และนำไปใช้สร้างสรรค์ ต่อยอดสิ่งใหม่ได้ (Creating) หลังจากที่เรียนเสร็จแล้วอีกด้วย ซึ่งในส่วนของขั้นจดจำ (Remembering) และเข้าใจ (Understanding) ซึ่งเป็นขั้นบนของพีระมิดการเรียนรู้นั้น นักเรียนสามารถศึกษาได้เองก่อนที่จะมาเข้าชั้นเรียนแล้ว โดยที่ครูไม่ต้องเสียเวลาสอนอีกครั้ง
ซึ่งการเรียนรู้แบบนี้ คุณครูสามารถใช้ควบคู่ไปกับ Starfish Labz แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ ที่มีคอร์สการเรียนรู้ที่เหมาะกับเด็กๆ ได้โดยสามารถออกแบบการเรียนรู้ได้ดังนี้
- ก่อนที่จะเริ่มสอน ขอให้คุณครูออกแบบแผนการสอนวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และเลือกสื่อที่จะใช้กับกลุ่มนักเรียนเป้าหมาย เช่น ครูต้องการให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิ และหน้าที่ของพลเมือง (หัวข้อคอร์สเรียนใน Starfish Labz)
- คุณครูเตรียมวิดีโอการสอน ตามหัวข้อที่กำหนด หรืออาจจะอัดวิดีโอของตัวเองก็ได้ (บทเรียนเรื่องสิทธิ หน้าที่ พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยสำคัญอย่างไร จาก Starfish Labz https://shorturl.at/juFWY)
- คุณครูส่งวิดีโอการสอนให้กับนักเรียน และชี้แจงว่าเนื้อหาในวิดีโอจะนำมาพูดคุยกันในห้องเรียน ในขั้นตอนนี้คุณครูอาจสร้างกิจกรรม หรือแจกแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ลองทำก่อนการสอนในห้องเรียน ซึ่งใน Starfish Labz มีใบความรู้และแบบทดสอบท้ายบทให้นักเรียนได้ฝึกฝนทำอยู่แล้ว
- คุณครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยน ซักถามข้อสงสัยในสิ่งที่ได้ศึกษามาจากคลิปวิดีโอ เพื่อฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ และการสื่อสาร
- คุณครูแบ่งกลุ่มนักเรียน และให้หัวข้อที่เชื่อมโยง หรือต่อยอดจากเนื้อหาในคลิปวิดีโอที่ทำให้นักเรียนได้นำไปใช้ชีวิตจริงได้ ซึ่งผลงานของนักเรียนอาจจะออกมาในรูปแบบของสื่อที่หลากหลาย เช่น การนำเสนอผ่าน Canva (คอร์สเสกงานกราฟิกแบบมืออาชีพ https://shorturl.at/mB678) หรือเป็นโครงการก็ได้ และให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันภายในกลุ่ม
- คุณครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มได้นำเสนอผลงาน และเปิดพื้นที่ให้เพื่อนคนอื่นได้แลกเปลี่ยนกัน
ซึ่งหลังจากจบคาบเรียนแล้ว คุณครูจะต้องกลับมาประเมินห้องเรียนของตนเองว่าสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ มีอะไรที่จะต้องปรับปรุงเพื่อที่จะให้นักเรียนไปถึงเป้าหมายได้อีกมาถึงตรงนี้ คุณครูจะเห็นว่าเทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแทนที่คุณครูแต่เข้ามาเป็นตัวช่วยให้คุณครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Sources:
Related Courses
Micro Learning เครื่องมือช่วยจัดการเรียนรู้ทางไกล
การเลือกครื่องมือช่วยจัดการเรียนรู้ทางไกลมีความสำคัญเพราะเป็นช่องทางที่จะนำความรู้ไปสู่นักเรียน จะมีเครื่องมือไหนบ้างที่เหมาะส ...
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...
3 แอปพลิเคชันง่ายๆ ตัวช่วยทำสื่อการสอน
เรียนรู้ 3 แอปพลิเคชันง่ายๆ ที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับการสร้างสื่อการสอน สะดวกต่อการใช้งาน มีประโยชน์สำหรับห้องเรียน ช่วยให้นัก ...
Micro Learning เครื่องมือช่วยสอนการเรียนออนไลน์
เครื่องมือช่วยครูในการเรียนออนไลน์ในคอร์สนี้ แนะนำเครื่องมือที่น่าสนใจ 3 ตัวช่วย คือ Google Earth, Line Open Chat แ ...