5 เส้นทางสู่การรู้จักตนเอง สำหรับวัยรุ่นที่ยังหลงทาง

เวลาผู้ใหญ่ถามว่า “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” คำตอบที่เด้งขึ้นมาในหัวเราก็มักมีอยู่แค่ไม่กี่อาชีพใกล้ๆ ตัว เช่น หมอ พยาบาล ตำรวจ คุณครู เกมเมอร์ หรือยูทูปเบอร์ แต่ถ้าถามใจตัวเองดีๆ ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า “เราอยากทำและอยากเป็นอะไรกันแน่” 

เพื่อจะตามหาความฝันที่หล่นหาย จึงอยากชวนน้องๆ ลองเปิดใจ ก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน เพราะอะไรที่สบายและจำเจเกินไป จะไม่ช่วยพาเราไปพบเจอไอเดียใหม่ๆ 

ถ้าอยากได้แรงบันดาลใจดีๆ ก็ต้องออกไปตามหา แล้วเราถึงจะแน่ใจว่าเราชอบทำอะไร ความใฝ่ฝันของเราหน้าตาเป็นแบบไหน และอาชีพในอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร

พี่ๆ Starfish Labz ขออาสาพาน้องๆ มาตามหาความฝันผ่านการทำกิจกรรมและเปิดประสบการณ์ด้วย 5 เส้นทางต่อไปนี้

1. ทำแบบทดสอบความถนัด

การตั้งคำถาม หรือทบทวนสิ่งที่อยู่ในใจเรา ก็สามารถช่วยตามหาความฝันได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นรู้จักตนเองและตั้งคำถามกับตัวเองยังไงดี ลองเข้าไปทำแบบทดสอบออนไลน์ได้ง่ายๆ

พี่ๆ ขอแนะนำศาสตร์ MBTI www.16personalities.com/th แบบทดสอบบุคลิกภาพที่มาจากงานวิจัยด้านจิตวิทยา ที่แบ่งประเภทของคนเป็น 16 แบบ เพื่อช่วยเราเข้าใจอุปนิสัยของเรายิ่งขึ้น และยังบอกแนวทางอาชีพที่เหมาะสมกับเราให้ด้วย

หรือ 123 careertest www.123test.com/career-test/ ใช้วัดความถนัดด้านอาชีพโดยเฉพาะ บอกเราว่ามีความสุขเวลาอยู่กับผู้คนและสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบไหนฃ

เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วลองหากิจกรรมที่สอดคล้องกับบุคลิกของตัวเองเพื่อพัฒนาให้เกิดจุดแข็ง 

2. เรียนรู้นอกกรอบ

เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อยจากที่ต้องเรียนเฉพาะในโรงเรียน ออกมาทำกิจกรรมกับผู้คนที่หลากหลาย และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พี่ ๆ แนะนำว่าน้องๆ น่าจะลองเข้าร่วมเวิร์กช้อปที่ตัวเองสนใจ ไม่ว่าจะลองทำตามจากวิดีโอบน Youtube เรียนออนไลน์ หรือลงเรียนจริงจังทำงานคราฟต์ วาดเส้น เพนต์สี ปั้นเซรามิก ปักผ้า แกะสลักน้ำเข็ง หรือถ่ายรูป 

ยิ่งเราเอาตัวเองออกมาทำสิ่งที่ไม่คุ้นชิน และทดลองทำหลายๆ อย่าง จะทำให้น้องรู้ว่าเราชอบและไม่ชอบอะไร

3. สมัครงานพาร์ทไทม์

ลุยหน้างาน สัมผัสประสบการณ์แบบเรียลๆ ได้เจอลูกค้า เพื่อนร่วมงานและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรียกได้ว่าปฏิบัติงานเต็มรูปแบบ 

งานพาร์ทไทม์เป็นเหมือนสะพานพาน้อง ๆ ไปสู่สิ่งที่ชอบ เพราะทักษะทั้งหมดที่ได้ใช้ล้วนจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและหน้าที่การงานใน อนาคต พร้อมช่วยให้น้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเองเพราะได้รับการอบรมและประเมิน

ผลงาน 

4. เข้ากลุ่มทำจิตอาสาเพื่อสังคม 

ยิ่งให้ ยิ่งได้ เป็นคำพูดที่ไม่เกินจริง การช่วยเหลือสังคม เสียสละเพื่อส่วนรวม ทำแล้วได้ทั้งประโยชน์แก่ผู้อื่นและตัวน้องเอง เมื่อน้อง ๆ ทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์จะเพิ่มประสบการณ์ และความมั่นใจ

อย่างเช่น ค่ายนักเขียน ค่ายอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมดูแลสัตว์และสิ่งแวดล้อม ไปเก็บขยะ และปลูกป่าชายเลน เป็นต้น

ในช่วงเวลาที่เราได้ทำจิตอาสา นอกจากความสนุก สบายใจ เราอาจได้สกิลใหม่ๆ ติดตัวในระหว่างคิดหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อช่วยให้กิจกรรมลุล่วงไปได้ด้วยดี

5. บินลัดฟ้า สัมผัสโลกกว้าง

ออกไปใช้ชีวิตต่างแดน เรียนรู้วัฒนธรรมและเข้าใจภาษาต่างชาติ 

รับรองว่าต้องเจอสิ่งที่แปลกและไม่เหมือนกับประเทศที่น้องอาศัยอยู่ ณ​ ปัจจุบันแน่นอน มันช่วยให้น้องได้มีไอเดียใหม่ ๆ และนำทุกอย่างที่ติดตัวมาใช้ เช่น ลองทานอาหารต่างชาติ แต่น้องๆ ไม่ชอบ และนึกถึงกับข้าวที่บ้าน ก็ต้องงัดสกิลการทำอาหาร หรือการขอความช่วยเหลือ การสื่อสารกับผู้คนต่างวัฒนธรรม ช่วงเวลานี้น้อง ๆ ได้โฟกัสกับตนเอง ทดลองทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และอาจทำบางอย่างที่ในบ้านเกิดตนเองอาจไม่ได้ทำ 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่จะช่วยให้น้องๆ ค้นพบตัวเองก่อนจะตั้งเป้าหมายฝึกฝนตนเอง จนสร้างทักษะที่กลายเป็นงานถนัดของเรา

พี่ๆ Starfish Labz ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนสนุกกับการไล่ล่าคว้าฝัน และทำให้เป็นไปได้จริงให้ได้นะ

แต่ถ้าสุดท้ายตามหาตัวเองเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอ ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะไม่ใช่ทุกคนจะได้ทำอาชีพที่รัก หรือได้ทำทุกอย่างตามความชอบ ขอแค่เราได้ใช้จุดแข็งและความถนัดของเราให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง และคนอื่นๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ 

แหล่งอ้างอิง (Sources): 

Tips to help your teen cultivate their passion | Raisinghealthyteens 

10 Ideas to help parents talk careers with their teens | Wascsso 

Community activities and volunteering: pre-teens and teenagers | raisingchildren