การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก

Starfish Academy
Starfish Academy 12212 views • 2 ปีที่แล้ว
การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก

“Design Thinking” คือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบที่ยืดหยุ่นเพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุดจากกระบวนการสร้างสรรค์ โดยกระบวนการนี้มักใช้ในงานศิลปะ วิศวกรรม โลกธุรกิจ มหาวิทยาลัย และพื้นที่งานทางสังคมต่าง ๆ ซึ่งคุณครูสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุก ๆ วิชาที่สอน และทุก ๆ ช่วงวัยของเด็ก อีกทั้งกระบวนการนี้มีประโยชน์มาก ๆ เมื่อต้องการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนงานหรือการออกแบบงานบริการด้านอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ในบทความนี้ จะพูดถึงการนำกระบวนการ “Design Thinking” ที่ง่ายต่อการจดจำและนำไปใช้เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้กับเด็ก ซึ่งสามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดย John Spencer และ A.J. Juliani ทำออกมาเป็น “Framework” ที่มีชื่อว่า “The LAUNCH Cycle” ที่จะช่วยให้เด็กเป็นนักสร้างสรรค์โปรเจกต์ได้ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 

  1. L (Look, Listen, and Learn) : เป็นกระบวนการในช่วงต้นที่เด็กจะมอง ฟัง และเริ่มเรียนรู้ ซึ่งต้องเริ่มจากการตระหนักถึงเป้าหมาย หรืออาจจะเป็นชวนให้เด็กรู้สึกสงสัยในกระบวนการ ตระหนักถึงปัญหา และมีความเห็นอกเห็นใจ  กับกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง
  2. A (Ask Tons of Questions) : เป็นกระบวนการที่คุณครูจะต้องจุดประกายความอยากรู้ให้กับเด็กเพราะเด็กกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่สอง ซึ่งเป็นช่วงที่จะต้องถามคำถามเกี่ยวกับปัญหานั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด
  3. U (Understanding the Process or Problem) : เป็นขั้นตอนของการนำไปสู่ความเข้าใจกระบวนการและปัญหาผ่านการวิจัยที่ผ่านประสบการณ์จริง เด็กอาจจะสร้างแบบสัมภาษณ์ขึ้นมา หรือหาแบบประเมิน บทความ หรือดูวิดีโอ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์
  4. N (Navigate Ideas) : เป็นขั้นตอนที่เด็กนำความรู้ใหม่ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้กับแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ ในขั้นตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการระดมไอเดียเท่านั้น แต่เด็กจะต้องวิเคราะห์ไอเดีย ผสมผสานไอเดียต่าง ๆ เข้าด้วยกันและก่อสร้างแนวคิดที่ทำขึ้นมา 
  5. C (Create a Prototype) : เป็นขั้นตอนที่เด็กจะสร้างแบบจำลองที่เกิดจากไอเดียที่คิดขึ้นมา อาจจะเป็นงานดิจิทัล หรือผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ อย่างเช่น งานศิลปะ งานที่สร้างขึ้นจากที่เด็กออกแบบ หรืออาจจะเป็นการกระทำ งานเทศกาล หรือระบบต่าง ๆ เป็นต้น
  6. H (Highlight and Fix) : หลังจากที่สร้างแบบจำลองขึ้นมาแล้ว เด็กจะต้องเริ่มวิเคราะห์ และเน้นว่าอะไรคือสิ่งที่ได้ผล และอะไรที่ไม่ได้ผล เป้าหมายของขั้นตอนนี้คือ การมองว่ากระบวนการที่ต้องแก้ไขเป็นการทดลองที่เต็มไปด้วยการทำซ้ำ ซึ่งทุก ๆ ข้อผิดพลาดจะช่วยทำให้เด็กเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น 
  7. Launch to an Audience : เป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็จะส่งโปรเจกต์นี้ไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อทดลองใช้งาน และให้เด็กได้แชร์ผลงานนี้ไปให้ทุกคนรับรู้ 

จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) สามารถฝึกการแก้ไขปัญหาที่เป็นลำดับขั้นตอน ทำให้มองเห็นอย่างรอบคอบมากขึ้น แก้ไขปัญหาได้ค่อนข้างตรงจุดมีทางเลือกหลายทาง และจะพบตัวเลือกที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด ได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์ ระดมความคิด ซึ่งจะทำให้สมองได้ฝึกคิดหลากหลายรูปแบบและวิธีการ ทำให้เราพบวิธีแปลกใหม่ จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เช่นกัน

แปลและเรียบเรียงจาก :

spencer. getting started with design thinking. https://spencerauthor.com/designthinking/

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

เครืองมือครู
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา ด้านความสัมพันธ์
basic
2:00 ชั่วโมง

ครูสอน KIDS (คิด)

ครูสอน KIDS (คิด) ชวนคุณครูมาร่วมสร้าง Mindset ใหม่ๆ พร้อมหาไอเดียการตั้งคำถาม เพื่อสอนเด็กให้มีวิธีคิดและทำอย่างไรให้เ ...

ดร.วรวุฒิ แสงเฟือง
ดร.วรวุฒิ แสงเฟือง
ครูสอน KIDS (คิด)
ดร.วรวุฒิ แสงเฟือง

ครูสอน KIDS (คิด)

ดร.วรวุฒิ แสงเฟือง
เครืองมือครู
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านความสัมพันธ์
basic
2:00 ชั่วโมง

การประเมินภาวะการเรียนรู้ถดถอย

การประเมินภาวะการเรียนรู้ถดถอยในวันที่โรงเรียนกลับมาเปิดเทอมใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เด็กๆ เรียนออนไลน์มาเป็นเวลานาน ส่ง ...

Starfish Academy
Starfish Academy
การประเมินภาวะการเรียนรู้ถดถอย
Starfish Academy

การประเมินภาวะการเรียนรู้ถดถอย

Starfish Academy
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
2:00 ชั่วโมง

ออกแบบ Booklet (กิจกรรมการเรียนรู้) อย่างไร ช่วยนักเรียนไม่ถดถอยในการเรียนรู้ช่วงปิดเทอม

ในคอร์สนี้จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ 6 ปัจจัยการออกแบบการเรียนรู้ให้นักเรียน ในแบบฉบับ Booklet เช็คลิสต์ 8 วิธีออกแบบกิจ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
ออกแบบ Booklet (กิจกรรมการเรียนรู้) อย่างไร ช่วยนักเรียนไม่ถดถอยในการเรียนรู้ช่วงปิดเทอม
Starfish Academy

ออกแบบ Booklet (กิจกรรมการเรียนรู้) อย่างไร ช่วยนักเรียนไม่ถดถอยในการเรียนรู้ช่วงปิดเทอม

Starfish Academy
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
1:30 ชั่วโมง

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...

Starfish Academy
Starfish Academy
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
Starfish Academy

คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว

Starfish Academy
7147 ผู้เรียน

Related Videos

Success Story โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP)
05:05
Starfish Academy

Success Story โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP)

Starfish Academy
611 views • 2 ปีที่แล้ว
Success Story โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP)
CBE - การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ
10:22
Starfish Academy

CBE - การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ

Starfish Academy
1550 views • 2 ปีที่แล้ว
CBE - การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ
Makerspace Day #2
04:27
Starfish Academy

Makerspace Day #2

Starfish Academy
296 views • 2 ปีที่แล้ว
Makerspace Day #2
Makerspace Day #1
07:41
Starfish Academy

Makerspace Day #1

Starfish Academy
595 views • 2 ปีที่แล้ว
Makerspace Day #1