โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาครูและโรงเรียน เพื่อยกระดับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (TSQP 2)
โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาครู และโรงเรียนเพื่อยกระดับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (TSQP 2) หรือ “โรงเรียนพัฒนาตนเอง” ของ กสศ. โดยมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชฯ เป็นโครงการพัฒนาต่อเนื่องจากโครงการ TSQP 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน และสังเคราะห์ผลการเปลี่ยนแปลงจาก Report card เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้ง 3 ระดับ ได้แก่
1) ระดับผู้เรียน เช่น ความเป็นเจ้าของการเรียนรู้ พฤติกรรม และผลการเรียนรู้
2) ระดับห้องเรียน เช่น การวางแผนออกแบบการเรียนรู้ การจัดกระบวนการเรียนรู้ การประเมินผล และการสะท้อนผล
3) ระดับโรงเรียน เช่น สมรรถนะครู สภาพแวดล้อม บรรยากาศ ทุนทางสังคม ภาวะผู้นำของผอ. ความเพียงพอของทรัพยากร และหลักสูตรการประเมิน เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะวิจัยได้ดำเนินการพัฒนาแผนการเก็บข้อมูล โดยร่วมแลกเปลี่ยนกับทีม Starfish ในการพัฒนาเครื่องมือแบบสำรวจออนไลน์ (Survey Sparrow) พร้อมคลิปแนะนำการกรอกแบบสอบถาม สำหรับการเก็บข้อมูล Baseline (ภาพรวมสภาพพื้นฐานโรงเรียนที่เข้าร่วม) และข้อมูล Change result
(ภาพการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน) ทั้ง 31 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ TSQP ครั้งที่ 1 พัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ Report card ด้วยวิธีการเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์จากทีม Coach พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการแปลผล และสังเคราะห์ผลด้วยข้อมูลเชิงลึกจากทีม Coach เป็นรูปแบบ Report card เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาโครงการต่อไป
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสำรวจมีความสอดคล้องกับการศึกษาการเปลี่ยนแปลงตามองค์ประกอบของโรงเรียน และกรอบการพัฒนาโรงเรียนของมูลนิธิสตาร์ฟิช ประกอบด้วย ด้านการบริหารโรงเรียน ด้านการสอน (หลักสูตร การประเมิน รูปแบบ การสอน และการพัฒนาวิชาชีพ) และด้านการเรียนรู้ (กระบวนการ STEAM Design Process) ลักษณะคำถามในแบบสำรวจมี 5 แบบ คือ Rating Scale, Multiple Choice, Checklist, Matrix และ Text ซึ่งใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเก็บข้อมูล 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ช่วงเปิดภาคเรียนเป็นการเก็บข้อมูล Baseline (ภาพรวมสภาพพื้นฐานโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ) และครั้งที่ 2 ประมาณเดือนเม.ย. เป็นการเก็บข้อมูล Change (ภาพการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน)
จากการดำเนินโครงการการพัฒนาครู และโรงเรียนเพื่อยกระดับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (TSQP 2) พบว่า
1. ข้อมูล Baseline (ภาพรวมสภาพพื้นฐานโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ) จะเห็นได้ว่า เป้าหมายของโรงเรียนด้านตอบความต้องการของชุมชน ครูและผอ.ได้ให้ความสำคัญสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านการเพิ่มคะแนนสอบ O-Net, NT และด้านอัตลักษณ์ วิสัยทัศน์ เป้าหมายของโรงเรียน (School Concept) ส่วนด้านการตอบสนองนโยบายโครงการ และการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ยังไม่เป็นเป้าหมายในแผนปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควรเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนานักเรียนตามการสอนแบบ STEAM Design Process
2. ข้อมูล Change result (ภาพการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน) พบว่า หลังเข้าร่วมโครงการมีพัฒนาการดีขึ้นรอบด้าน ดังนี้
- 2.1 สมรรถนะผอ. เพิ่มขึ้นสูงสุด 3 ด้าน คือ ด้านการบริการแผนงาน ทำกลยุทธ์ เป้าหมายที่เหมาะสม School Concept การติดตามการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ และการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้
- 2.2 สมรรถนะครู ได้แก่ ด้านความรู้ ความเข้าใจ STEAM Design Process การนำ STEAM Design Processไปใช้ในวิชาหลัก และการใช้เทคโนโลยีช่วยประเมินนักเรียน Class dojo Starfish Class ทั้งนี้ ด้านที่ชำนาญน้อยที่สุดในการเก็บข้อมูลครั้งที่ 1 เป็นด้านที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดหลังจบโครงการ
- 2.3 ทักษะเด็ก ผลที่เกิดขึ้นดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 3 ทักษะ คือ การรู้จักตนเอง ทักษะสื่อสารและเทคโนโลยี และการทำงานร่วมกันเป็นทีมและภาวะผู้นำ ส่วนด้านอื่นๆ เกิดผลน้อยกว่าค่าเป้าหมายส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาโควิดที่ทำให้มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอน
- 2.4 การจัดกิจกรรม PLC ก่อนเข้าร่วมโครงการมีการจัดเดือนละครั้ง ครูมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการพูดถึงด้านวิชาการและการแก้ปัญหาแบบเป็นรูปธรรมน้อย หลังเข้าร่วมโครงการ มีการกำหนดหัวข้อ PLC ล่วงหน้ามากขึ้น แต่การมอบหมาย ติดตามงานน้อยลง และความถี่ในการ PLC ของโรงเรียนเท่าเดิม
- 2.5 กระบวนการ STEAM Design Process ก่อนเข้าร่วมโครงการ ครูมองว่าเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการ Create หลังจากเข้าร่วมโครงการพบว่า 23 โรงเรียนถูกใช้แบบบูรณาการ 8 โรงเรียนนำไปใช้ในวิชาหลัก และ 60% ทำทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมที่ทำทุกคาบเรียนมากกว่าครึ่ง เช่น การรับฟังและให้ความสนใจความคิดนักเรียน สังเกตความสนใจและความถนัดของนักเรียน และการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นนักเรียนให้คิดและอยากเรียนรู้
- 2.6 ทรัพยากรเพียงพอขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะวัสดุและห้องสำหรับ Maker Space
สรุปได้ว่า จากข้อมูลทั้ง 2 ครั้ง โรงเรียนในโครงการมีพัฒนาการที่ดีขึ้นหลายด้าน แต่ยังมีอุปสรรคด้านการใช้นวัตกรรมและยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาเด็กที่ชัดเจน สำหรับข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา ด้านการบริหารงบประมาณ เพิ่มการอบรมด้านงบประมาณ (เพิ่มตัวอย่างจากการถอดบทเรียนโรงเรียนที่ใช้นวัตกรรม) เพิ่มบทบาทการให้คำแนะนำของทีมโค้ชสตาร์ฟิช การนำเครื่องมือ Formative Assessment (FA) มาพัฒนา “ชุดคำถามการประเมินทักษะเด็ก” ให้ละเอียดขึ้น เพราะมีการมุ่งเน้นรายละเอียดไปที่พฤติกรรมบ่งชี้ของทักษะที่สนใจ และการนำ Dashboard ไปใช้ในกระบวนการ PLC กับโรงเรียนทำให้โรงเรียนเห็นข้อมูลและสามารถนำไปพัฒนาต่อได้
Related Courses
การติดตาม ปรับปรุง และผลการสะท้อนกลับ
การติดตามเพื่อพัฒนา ประเมินความก้าวหน้า และสะท้อนผลที่เกิดขึ้นรวมกัน เป็นการกำหนดวิธีในการติดตามผลจากการจัดกิจกรรมการ ...
โค้ชชิ่งสู่เส้นทางที่ใช่ด้วย MBTI : Myers-Briggs Type Indicator
Coaching Through MBTI : Myers-Briggs Type Indicator เป็นคอร์สที่จะทำให้คุณครูได้เปลี่ยนจากครูที่ทำหน้าที่สอนให้เป็นโ ...
โค้ชชิ่งสู่เส้นทางที่ใช่ด้วย MBTI : Myers-Briggs Type Indicator
Micro Learning เครื่องมือช่วยสอนการเรียนออนไลน์
เครื่องมือช่วยครูในการเรียนออนไลน์ในคอร์สนี้ แนะนำเครื่องมือที่น่าสนใจ 3 ตัวช่วย คือ Google Earth, Line Open Chat แ ...
การออกแบบกล่องเพื่อการเรียนรู้ (Learning Box)
เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้โรงเรียนไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ และเด็กจำเป็นต้องเรียนที่บ้าน Learning box ...