5 ทักษะที่เด็กต้องมีในการจัดการตัวเอง
การจัดการตนเองเป็นทักษะที่จำเป็นที่เด็กๆ ต้องมีสำหรับความสำเร็จในอนาคต ทุกวัน เราเห็นเด็กๆ (และผู้ใหญ่) ไม่สามารถมุ่งมั่นกับงานและสิ่งที่ต้องทำ หรือแม้กระทั่ง จัดการตนเองในเรื่องประจำวัน สิ่งรบกวน และสิ่งเร้าต่างๆ รอบ ๆ ตัวเด็กเป็นสิ่งที่หลีก เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาต้องพัฒนาทักษะทั้ง ห้านี้เพื่อนำทางไปสู่ความสำเร็จในโลกที่ มีความสับสนวุ่นวายเช่นทุกวันนี้
การควบคุมอารมณ์ (Impulse Control)
เป็นความสามารถในการพูดว่า "ไม่" กับสิ่งที่เราคิดว่าไม่เหมาะกับสถานที่และเวลา เรา สามารถสอนเด็กให้จงใจถามตัวเองว่า "ฉันต้องการทำเช่นนี้หรือไม่" และ “ข้อดีข้อเสีย ของการทำแบบนี้คืออะไร?" ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร การฝึกนี้สามารถทำให้เด็ก ควบคุมอารมณ์และความอยากทำของตัวเองได้ดีขึ้น หรือที่เราชอบเรียกกันว่าทำอะไร โดยไม่ยั้งคิด
การจัดการความเครียด (Stress Management)
บางครั้งเด็ก ๆ ก็ไม่รู้ตัวว่าเครียดมากแค่ไหน อาจเป็นความเครียดจากการที่ไม่ได้การ ยอมรับจากเพื่อนที่โรงเรียนหรือ การสอบที่กำลังจะมาถึง ความเครียดไม่สามารถหาย ไปได้เอง ความเครียดต้องได้รับการจัดการ อย่างเหมาะสม ความเครียดที่ไม่มีการ จัดการอาจเปลี่ยนเป็นความเครียดที่สะสม ซึ่งอาจทำให้เด็กที่จะหงุดหงิดและโกรธ ตลอดเวลา เราสามารถช่วยให้เด็กรู้จักสัญญาณของความเครียด และวิธีต่างๆในการ ปลดปล่อย เราสามารถแนะนำให้ๆ รู้จักการฝึกสติ (Mindfulness Practice) การพูดคุย และสื่อสารเรื่องความเครียดของตนเอง การเล่นกีฬา ดนตรี และกิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ
วินัยในตนเอง (Self-Discipline)
เราจะฝึกให้เด็กมีวินัยในตนเองได้อย่างไร? ทักษะนี้ไม่สามารถฝึกได้ในวันเดียว เรา ต้องมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เด็กอายุสิบขวบสามารถตั้งเป้าหมายใน การ ฝึกกิจกรรมบางอย่าง อย่างมีสมาธิต่อเนื่อง เป็นเวลา 10 นาที (เช่นการเขียนสั้น การฝึกกีฬา หรืองานอดิเรกอื่น ๆ) ถ้าเด็กสามารถทำได้ ก็เริ่มขยายเวลาขึ้น กิจกรรม ย่อย ต่างๆเหล่านี้ สามารถนำมารวมกันเป็นกิจวัตรประจำวัน และทักษะจะค่อยๆได้รับ การพัฒนา
ตั้งเป้าหมาย (Goal Setting)
เป้าหมายรายวัน เป้าหมายรายสัปดาห์ เป้าหมายรายเดือน เป้าหมายรายปี และเป้า หมายชีวิต การตั้งเป้าหมายทำให้เรา มีจุดมุ่งหมาย เด็กหลายคน "หลงทาง" เพราะ พวกเขาไม่ทราบว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร เด็ก ๆ สามารถพัฒนาทักษะนี้โดยตั้ง เป้าหมายให้ตัวเองทำเองได้ขนาดเล็ก และพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างเช่น "ฉันจะอ่าน หนังสือเป็นเวลา 15 นาทีทุกวัน" หรือ "ฉันจะเรียนรู้วิธีขี่จักรยานในหนึ่งสัปดาห์"
แรงจูงใจ (Motivation)
แรงจูงใจมาพร้อมกับความรักและความสนใจ ไม่ใช่รางวัล (เสมอไป) รางวัลอาจมีผล ระยะสั้นสำหรับเด็ก ในการจูงใจให้ทำอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเราหยุดให้ผลตอบแทน พฤติกรรมที่ เราต้องการ ก็จะหยุดตามไปด้วยแรงบันดาลใจ ความรัก ความรู้สึกของความสำเร็จเป็นแรงจูงใจในระยะยาวที่มาจาก ภายใน เราต้องให้ความรัก การสนับสนุน และ แสดงความชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อ ให้เด็กๆ พบความรักในงานที่ทำ ยอมรับความสามารถ ของตนเอง เพื่อปลูกฝังทักษะ การจูงใจตลอดชีวิต
การบริหารจัดการ (Organisation)
เด็กที่เลอะเทอะและไม่เป็นระเบียบ เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่เลอะเทอะและไม่เป็น ระเบียบเช่นกัน เด็กจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ เพื่อพัฒนาชีวิตส่วนตัว และการทำงาน เราสามารถเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ เช่นการวางแผนการจัดวัสดุและอุปกรณ์ ของโรงเรียนในแต่ละวันให้เป็นนิสัย กำหนดเวลา ในการทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน ไปจนถึงการจัดการสิ่งที่ใหญ่ขึ้นเช่น การทำวิทยานิพนธ์ เราสามารถช่วยเด็กๆ ได้ด้วย การแนะนำเครื่องมือต่างๆ เช่นนาฬิกา ปฏิทิน แผนผังเพื่อการวางแผน รวมถึงการจัด สถานที่ที่พวกเขาสามารถจัดระเบียบงานและวัสดุของพวกเขาได้
ทักษะทั้งหมดต้องได้รับการฝึกอย่างต่อเนื่อง เราต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำด้วยตนเอง และได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้เชิงบวก เด็กไม่สามารถเรียนรู้ได้ดี ผ่านการพูดเท่านั้น พวกเขาเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและเห็นตัวอย่างที่ดี
Related Courses
การสร้างรายได้จากสติกเกอร์ Line
เมื่อยุคเปลี่ยนไปการสื่อสารกันในชีวิตประจำวันเปลี่ยนตาม จากการพูดคุยกลายเป็นการพิมพ์คุยกัน การสร้างสติกเกอร์ไลน์จึงเป็นอาชีพ ...
ภาษาอังกฤษ ฉบับบ้านปลาดาว
นวัตกรรมการสอนวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียนบ้านปลาดาวได้ออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของผู้เรียนอย่างเป็นร ...
การพัฒนาทักษะการเขียน
ในคอร์สนี้จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการสอนเขียนสำหรับผู้เรียนประถมศึกษา ระดับชั้น ป.1- ป.6 โดยได้ยกตัวอย่างปัญหาการเขียนข ...
Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกายระดับชั้น ม.ต้น
วัยรุ่น หากมีร่างกายที่สมส่วนย่อมทำให้มีสุขภาพดี การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะส่งผลร่างกายแข็งแร ...