5 ปัญหาเรียนคอร์สออนไลน์ของลูก และแนวทางแก้ไข
ปัจจุบันโลกของเราอยู่ในยุคโควิด-19 ที่ทุกคนต้องรักษาสุขภาพ และระยะห่างทางสังคม (Social distancing) มากเป็นพิเศษ ทำให้นอกจากคนวัยทำงานจะต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home: WFH) แล้ว เด็ก ๆ ก็ต้องเรียนที่บ้านแทนการไปโรงเรียนตามปกติ ซึ่งในช่วงแรกทุกคนอาจรู้สึกตื่นเต้น เพราะได้ทำกิจวัตรในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะกลายเป็นทั้งออฟฟิศและโรงเรียนได้ นั่นก็คือบ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ทุกคนอาจจะเริ่มบ่นว่าการทำงานหรือการเรียนจากที่บ้านนั้น ต้องใช้พลังงานและสมาธิมากกว่าปกติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์มีคุณภาพเท่าเดิม ถ้าบางคนเคยรู้สึกเช่นนี้ ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่คุณที่เป็นคนเดียว
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเราควรเมินเฉยต่อสิ่งเหล่านี้เพียงเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ความไม่สบายซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานหรือการเรียนคอร์สออนไลน์อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้ในระยะยาวได้ นอกจากดูแลตัวเองแล้ว คนที่เราอาจต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษก็คือเด็ก ๆ ในบ้าน ทั้งนี้ เนื่องจากเด็กนักเรียนต้องเผชิญกับปัญหาเรียนคอร์สออนไลน์อีกทั้งเด็ก ๆ อาจต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้น วันนี้เราจะขอพาไปทำความรู้จักปัญหาดังกล่าว พร้อมเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคนกัน
ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่เรียนออนไลน์ (สำรวจความคิดเห็นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564) ว่า ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ของบรรดานักเรียน นิสิต และนักศึกษาเป็นประเด็นที่ถูกสังคมมองข้ามอยู่พอสมควร เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจเราขอแบ่งปัญหาคอร์สออนไลน์เหล่านี้ออกเป็น 5 อย่าง ซึ่งแต่ละอย่างล้วนเป็นผลมาจากการที่พวกเขาต้องนั่งเรียนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่มีโอกาสขยับร่างกาย หรือเปลี่ยนท่าทางการนั่งมากเท่าที่ควร และเมื่อคณะผู้วิจัยทำการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อเก็บรายละเอียดก็พบว่า เด็ก ๆ ต้องปรับเวลาชีวิตใหม่ทั้งหมด โดยกิจวัตรประจำวันของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เวลาตื่นจนถึงเข้านอน
1. ปัญหาออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
ปัญหาออฟฟิศซินโดรมนั้น อาจเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. โต๊ะหรือเก้าอี้ไม่เหมาะสมแก่การทำงานหรือการเรียน 2. การดูแลสุขภาพร่างกายได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยอาการที่เห็นได้ชัดคือ ปวดตา ปวดเมื่อยตามลำตัว และปวดหลัง ซึ่งพ่อแม่ควรตรวจเช็คดูว่าอุปกรณ์การเรียนของลูกนั้นเหมาะสมกับสรีระพวกเขาหรือไม่ ลูก ๆ พักผ่อนเพียงพอและกินอาหารที่มีประโยชน์หรือไม่
2. ปัญหาความเครียด
สำหรับปัญหาที่สอง คือ ความเครียด นักเรียนบางคนที่เตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ม.1 ม.4 หรือ สอบเข้ามหาวิทยาลัยมีโอกาสที่จะประสบปัญหานี้มากกว่าเด็กนักเรียนในชั้นอื่น ๆ แต่นักเรียนทุกระดับต่างต้องเผชิญกับความเครียดในหลายรูปแบบ ซึ่งอาจจะเป็นการแข่งขันกันเองในชั้นเรียนก็ได้ หรือปริมาณการบ้านที่เพิ่มขึ้นจากปกติ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหลักของความเครียดดังกล่าว พ่อแม่อาจช่วยได้โดยการชื่นชมหรือให้รางวัลลูก ๆ อาจจะเป็นขนมหรืออาหารที่เขาชอบ เมื่อพวกเขาทำการบ้านเสร็จ
3. ปัญหาความเบื่อหน่าย
ปัญหาในการเรียนคอร์สออนไลน์ต่อมา คือ ความเบื่อหน่าย เด็กนักเรียนบางคนอาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียนออนไลน์และขาดแรงจูงใจ จึงทำให้สนใจเนื้อหาบทเรียนน้อยลง อีกทั้งข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างของคอร์สเรียนออนไลน์ที่ไม่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวร่างกายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายนี้ด้วยเช่นกัน วิธีแก้ปัญหาคือ ควรให้เด็ก ๆ ได้พักระหว่างคาบเรียน หรือถ้าหากคอร์สเรียนหนึ่งมีเวลายาวนาน ก็ควรกดหยุด (Pause) เพื่อให้พวกเขาได้หยุดพักสักครู่ เพื่อคลายเครียด ดื่มน้ำและกินขนม
4. ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม
ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่บ้านไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนออนไลน์ เช่น อาจมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตและเสียงรบกวน เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้เด็ก ๆ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียนรู้เท่าที่ควร พวกพ่อแม่อาจจะแบ่งโซนหรือจัดสถานที่ให้แก่ลูก ๆ ไว้สำหรับเรียนโดยเฉพาะ และอาจมีอุปกรณ์การเรียนที่ครบครันเพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม บางครอบครัวอาจมีข้อจำกัดมากกว่าคนอื่น ๆ แนะนำว่า ให้ทำเท่าที่ทำได้จะดีที่สุด
5. ปัญหาการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
ปัญหาสุดท้าย คือ การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การเรียนออนไลน์ทำให้แบ่งเวลาระหว่างการเรียนและการพักผ่อนได้ยากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงส่งผลให้นักเรียนรับประทานอาหารผิดเวลาในบางครั้ง ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ปัญหาระบบทางเดินอาหาร ตามมา ช่วงการเรียนออนไลน์พ่อแม่ต้องคอยหาอาหารให้ลูก ๆ ซึ่งพ่อแม่บางคนอาจไม่สะดวกในเวลาดังกล่าว ก็อาจจะทำหรือหาเตรียมเอาไว้และคอยบอกให้พวกเขารับประทานให้ตรงเวลาก็ได้
แม้ว่าภาวะการระบาดของโรค COVID-19 จะสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่การใช้ชีวิตของทุกคนอย่างมากไม่เว้นแม้กระทั่งนักเรียน นิสิต นักศึกษา แต่หากพวกเราทุกคนพยายามทำความเข้าใจและหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เราจะสามารถปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไม่ลำบากจนถึงวันที่เราสามารถเอาชนะโรคระบาดนี้ได้อย่างยั่งยืน
จะเห็นได้ว่าปัญหาการเรียนคอร์สออนไลน์ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมานั้นมีความเชื่อมโยงกัน และตราบใดที่เรายังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เด็ก ๆ ก็คงหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ยาก เพราะในระหว่างนี้การเรียนออนไลน์กลายเป็นทางเลือกหลักของวงการศึกษา อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทั้งนักเรียน คุณครู และผู้ปกครองทำความเข้าใจปัญหาและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมร่วมกัน เพราะครูและพ่อแม่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงผู้มีหน้าที่ส่งเสริมให้เด็กในความดูแลมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ
Source
บทความใกล้เคียง
4 วิธีช่วยลูกต่อสู้กับ Unfinished Learning เรียนออนไลน์ยังไงให้เข้าใจและเข้าหัว
5 คอร์สออนไลน์ยอดฮิต เรียนฟรี แสนคุ้มค่า จาก Starfish Labz
5 สื่อการสอนภาษาจีนสุดปัง ระดับคุณภาพ แถมฟรี สำหรับเด็ก ๆ จาก Starfish Labz
Related Courses
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอการเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ การปฐมพยา ...
ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)
การตัดสินใจที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ถ้าหากได้รับการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจตั้งแต่วัยรุ่น ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิ ...
ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากโรคติดต่อ Covid-19
โรคโรคติดต่อ Covid-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันโรค รู้จักป้องกันตนเองและเด็กไม่ให้ติดต่อ โ ...
How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์
ทุกวันนี้การใช้งานบนโลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับดาบสองคม ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าจะเลือกข้อมูลด้านไหน ...