พาส่อง Metaverse (จักรวาลนฤมิต )..โลกดิจิทัลเสมือนจริงแห่งอนาคต
"Metaverse" กำเนิดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์จุดเริ่มต้นของคำว่า Metaverse ปรากฏครั้งแรก ในหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง "Snow Crash" ของ Neal Stephenson นักเขียนชาวอเมริกัน ในปี 1992 ซึ่งเล่าเรื่องราวของโลกยุคอนาคต ที่มนุษย์และคอมพิวเตอร์ตอบโต้กันผ่านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ต่างๆ โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่โลกเสมือนจริงที่ล้ำสมัย เกินจินตนาการของคนยุค '90s กล่าวได้ว่านวนิยายเรื่อง Snow Crash ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสู่การสร้างโลก Metaverse ในปัจจุบัน
ชวนมารู้จัก Metaverse คืออะไร ?
Metaverse นั้นมาจากคำว่า Meta ที่แปลว่า “เหนือกว่า (Beyond)” ในภาษากรีก รวมกับคำว่า Universe (จักรวาล) ซึ่งเมื่อนำเอามาควบรวมกันแล้วก็อาจแปลได้ว่า“จักรวาลที่เหนือกว่า” และมันยังได้นำเอามาใช้ในการอธิบายถึงคอนเซปต์ของ "โลกเสมือน (Virtual World)" ที่ตั้งอยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถเข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์ VR (Virtual Reality), AR (Augmented Reality) และ PC (Personal Computer) โดยภายใน Metaverse นั้นจะมีการแสดงผลในรูปแบบ 3 มิติที่ผู้ใช้สามารถสร้างอวตาร์ (Avatars) ขึ้นมาเป็นตัวแทนบุคคลในการพูดคุยติดต่อสื่อสารหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันกับผู้อื่นได้
ทำไม Metaverse จึงอาจเปลี่ยนโลก?
Metaverse สามารถช่วยจำลองให้เราไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ได้ แม้จะนั่งอยู่กับที่ก็ตาม โดยอาศัยการเชื่อมต่อผ่านรูปแบบต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ สมาร์ทโฟน แอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์ ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังปลุกกระแสเพื่อปูทางไปสู่โลกแห่งอนาคต
แม้ว่าในช่วงแรกๆ จะเริ่มมีการนำ Metaverse มาใช้ในแวดวงเกมออนไลน์ แต่ในภายหลังเริ่มมีการเข้าไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีด้านต่างๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถครอบคลุม และรองรับเทคโนโลยี Metaverse ในอนาคตได้
ยกตัวอย่าง Facebook ที่ได้กระจายการลงทุนไปหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง Oculus Go แว่นตาเทคโนโลยี VR ที่เคยสร้างเสียงฮือฮาเมื่อหลายปีก่อน อีกทั้งแว่นตา Ray-Ban Stories ที่แสดงให้เห็นความชัดเจนของ Facebook ที่ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่ยังมุ่งหน้าสู่การขยายไปสู่โลก Metaverse
นอกจากนี้ Metaverse 5G ก็ยังถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยี 5G คือพื้นฐานสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเร็วของอินเทอร์เน็ต และการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง กลายเป็นยุค "Internet of Things" ที่จะนำไปสู่การพัฒนาและใช้ประโยชน์จาก Metaverse ในด้านต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น
- ด้านการแพทย์ : ใช้ในการผ่าตัดทางไกล, จำลองการผ่าตัดเสมือนจริง
- ด้านวิศวกรรม : ใช้ในการออกแบบหุ่นยนต์, ออกคำสั่งทางไกลในการปฏิบัติงาน
- ด้านอีคอมเมิร์ซ : ใช้ในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์, จำลองใช้สินค้าโดยไม่ต้องไปที่ร้านค้า
- ด้านการลงทุน : ใช้ในการซื้อสินค้า NFT ออนไลน์, เทรดคริปโตฯ
- ด้านท่องเที่ยว : ใช้ในการจำลองท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์, จำลองสถานที่ต่างๆ
- ด้านบันเทิง :ใช้ในการจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง หรือ สร้างตัวละครเสมือนจริงในภาพยนตร์
ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในคำแถลงของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หลังการเปลี่ยนชื่อ Facebook เป็น Meta นั้น เขาให้ความเห็นว่า โลกของ Metaverse จะสร้างอนาคตที่ทำให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และจะไม่ได้เป็นแค่ผู้บริโภคอย่างเดียว แต่จะสามารถเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน (Creator) ได้ด้วยตัวเอง
Metaverse ใกล้เกิดขึ้นจริงแล้วหรือยัง ?
หลังจากที่ได้ศึกษาแนวคิดของ Metaverse และเห็นการเกิดขึ้นมาของเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้งาน ให้สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้พรมแดน หลายคนอาจเอะใจแล้วไม่น้อยว่า เราอาจจะอยู่ในโลก Metaverse แล้วก็เป็นได้ เพราะเราสามารถทำกิจกรรม มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันในโลกดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม Metaverse ก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ เพราะยังขาดองค์ประกอบสำคัญที่ว่า เทคโนโลยี หรือการไหลเวียนส่งต่อข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะต้องทำงานได้พร้อมกันและมีเสถียรภาพซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนนับล้านยังห่างไกลจากแนวคิดของ Metaverse อยู่มาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงและใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้ง ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอินเทอร์เน็ตที่เร็ว และความหน่วงต่ำเพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีหลายประเภทได้
นอกจากนี้ โลกออนไลน์ที่เราอาศัยอยู่ยังไม่สามารถจัดการสตรีมข้อมูลหลายร้อยรายการพร้อมกัน เพราะคลาวด์ยังไม่รองรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่มหึมาได้ จะเห็นได้ว่าต่อให้มีการผลิตเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์แนวคิด Metaverse มากเท่าไร การเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างภาพของ Metaverse ให้มีอยู่จริง หากในอนาคตคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ สามารถเชื่อมต่อโลกอินเทอร์เน็ตได้ด้วยความเร็วสูงกว่าระดับ 6G เราอาจเห็นโลกทั้งใบของ Metaverse กับตาตนเองก็เป็นได้
แม้มันเป็นอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าหน้าตาจะออกมายังไง แต่จากข้อมูลที่มีนั้นค่อนข้างน่าตื่นเต้นสำหรับทุกคนเลยทีเดียว มันนำมาซึ่งโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ การเชื่อมถึงกันที่มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องติดตามถึงผลเสีย และผลกระทบที่จะตามมาภายหลังต่อผู้ใช้งาน รวมไปถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วยเช่นเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก :
www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2230534
บทความใกล้เคียง
ครูคลับ (Kru Club) กลยุทธ์การใช้ Padlet ขั้นสูง เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้แบบร่วมมือ
Cyber Security Expert นักอุดช่องโหว่ ป้องกันการโจรกรรมบนโลกไซเบอร์
5 ขั้นตอนออกแบบ Portfolio ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยปี'65
Related Courses
6 ขั้นตอน สร้าง Presentation ให้ปัง และดึงดูดใจผู้ฟัง
อยาก Presentation เก่งแบบมืออาชีพไหม? คอร์สนี้ตอบโจทย์แน่นอน! เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการสร้าง Presentation ที่ปัง ...
Google Sites กับการนำมาใช้เพื่อการศึกษาและการประเมินวิทยะฐานะ
Google Sites ช่วยทำเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องรู้วิธีเขียนโค้ด และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความรู้มากในด้าน ...
Google Sites กับการนำมาใช้เพื่อการศึกษาและการประเมินวิทยะฐานะ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เขียน Prompt ใน ChatGPT อย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
อยากได้ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจคุณทุกอย่างไหม? มาเรียนรู้วิธีสื่อสารกับ ChatGPT ผ่าน Prompt กันเถอะ! คอร์สนี้จะสอนเทคนิคกา ...
เขียน Prompt ใน ChatGPT อย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
การเขียนโปรแกรมภาษา Python สำหรับผู้เริ่มต้น
ในปัจจุบันภาษา Python นั้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับผู้ที่เริ่มเรียนเขียนโปรแกรม เนื่องจากเป็นภาษาที่อ่านง่าย มีความใกล้เคียงกั ...