ทำไมถึงไม่ควรจ้างให้ใครทำการบ้าน หรือสอบออนไลน์แทนเรา

สังคมโลกออนไลน์มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ไม่แพ้กับสังคมอื่นๆ และเมื่อเราเรียนออนไลน์กันมากขึ้น อาชีพหนึ่งที่มาแรงและสร้างรายได้ให้วัยรุ่นเป็นกอบเป็นกำเลยนั่นก็คือ “การรับจ้างสอบออนไลน์” และรับจ้างทำการบ้านนั่นเอง เพราะหลายๆ คนคิดว่ารับงานมาทำง่ายแถมรายได้ดีอีกต่างหาก แต่รู้ไหมว่าสิ่งนี้มีความผิด และแม้จะร้อนเงินแค่ไหน ก็อย่าหาทำเลยวัยรุ่น 

รับจ้างทำการบ้าน 

การรับจ้างทำการบ้านไม่ใช่เรื่องใหม่ และเรียกว่ามีมาตลอดคู่การศึกษาไทยตั้งแต่สมัยเรียนกันในระบบปกติ จนถึงช่วงวิกฤติโควิด 19 นี่เองที่ทำให้กิจการนี้เฟื่องฟูจนขึ้นเทรนด์แฮชแท็กยอดนิยมในทวิตเตอร์ #รับทำการบ้าน เรียกว่ารับงานกันอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องมาจากนักเรียน นักศึกษาต้องเรียนออนไลน์ แต่ก็ไม่วายได้รับการบ้านและงานจำนวนมากมาทำเพิ่ม 

เพราะแต่ละวิชาก็ต้องการหลักฐานการสอน และเอกสารการประเมิน จึงมีสั่งการบ้านที่ยิบย่อย ออกแบบใบงานทุกวัน วันละหลายคาบ ทุกคาบมีสั่งงานหมด ภาระตกก็อยู่ที่เด็ก พอเด็กทำงานไม่ไหว การจ้างงานก็เกิดขึ้น เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายและไวที่สุดสำหรับเด็กๆ

รับจ้างทำการบ้าน ผิดหรือไม่?

ถ้าว่ากันตามหลักการก็ถือเป็นเรื่องผิดอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่ารับจ้างทำการบ้านนั้นผิดตามกฎหมายไหม ก็ต้องขอตอบว่าไม่มีกฎหมายข้อไหนบัญญัติไว้ชัดเจน เพราะถือเป็นการรับจ้างที่ต่างได้ผลประโยชน์ตอบแทน ไม่มี “ผู้เสียหาย” ต่างจากการรับจ้างทำงานวิจัย หรือวิทยานิพนธ์ที่มีความผิดชัดเจน 

เพราะการรับจ้างทำวิทยานิพนธ์จะมี “ผู้เสียหาย” คือมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัย ต้องออกใบปริญญาที่ดำเนินเรื่องว่าบัณฑิตเรียนจบโดยสมบูรณ์ (กฎของมหาวิทยาลัยจะมีการอ้างอิง พรบ.ทางการศึกษา ซึ่งสามารถดำเนินคดีทางอาญาได้ หากพบผู้กระทำผิดที่ไม่ได้ผลิตชิ้นงานวิทยานิพนธ์ออกมาด้วยตนเอง จนทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง) 

และถ้าวิทยานิพนธ์ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ปลอมแปลงเอกสาร หรืออ้างอิงโดยไม่ระบุที่มาของงานวิจัย รวมถึงผิดกฎมหาวิทยาลัยด้วย มหาวิทยาลัยก็สามารถยึดใบปริญญา ฟ้องดำเนินคดีอาญาหรืออุทธรณ์ให้เป็นแพ่งได้

รับจ้างสอบออนไลน์

เช่นเดียวกับการรับจ้างทำการบ้าน การรับจ้างสอบไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เช่นกัน และถึงจะมีข่าวคราวว่าจับการโกงข้อสอบด้วยการเข้าสอบแทนมากเท่าไหร่ ก็ยังคงมีคนรับงานอยู่เสมอ แต่ด้วยช่องทางการสอบออนไลน์ที่ไม่เคร่งครัดมากเท่า อาจจะเป็นช่องทางให้รับงานได้ง่ายขึ้น และมากขึ้น 

สิ่งที่ต่างจากการับจ้างทำการบ้านคือ การรับจ้างสอบนั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน มีการบัญญัติฐานความผิดว่าด้วยการรับจ้างทำงานวิชาการไว้ในมาตรา 70 ประกอบมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติ การอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด จ้าง วาน ใช้ให้ผู้อื่นทำผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษา เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือโดยสุจริตตามสมควร ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตามทางผู้ที่เกี่ยวข้อทั้งหลายต่างก็ทราบดีว่ามีธุรกิจนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างทำการบ้าน หรือการรับจ้างสอบแทน แต่การป้องกันหรือแก้ไขนั้นก็ไม่ได้ทำได้ทันท่วงที เพราะเอาเขาจริงแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่เด็ก แต่อยู่ที่ระบบการเรียนการสอนของเราต่างหาก ที่เน้นเรื่องของการทำใบงาน การทำเอกสารการทำคะแนนสอบ มากกว่าการประเมินความรู้ที่แท้จริง

สิ่งที่เราทำได้ก็คืออย่าไปส่งเสริมสิ่งที่จะทำให้ระบบการศึกษาล้มเหลว และไม่ทำตัวให้เสี่ยงต่อการทำงานผิดกฎหมาย อยากขอเตือนสติวัยรุ่นว่างานพิเศษนั้นมีมากมาย หลายงานก็ถูกกฎหมาย ทำได้เงินไม่น้อยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเอาความรู้ที่เรามีไปแลกกับสิ่งที่จะทำให้เราเสี่ยงในอนาคตจะดีกว่าค่ะ