สร้างทักษะให้ลูก สู่การเป็น Startup ที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อโลกกำลังเผชิญกับ Digital Disruption ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเกือบทุกด้าน จนแทบเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คน ความเชื่อที่ว่าการศึกษาเพื่อให้ได้ใบปริญญา และสมัครงานบริษัทดีๆ อาจไม่ใช่คำตอบของโลกอนาคตอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เปิดโอกาสให้กับความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากมาย เด็กในวันนี้ เมื่อเติบโตขึ้นอาจมีรูปแบบชีวิตที่แปลกไปจากยุคพ่อแม่อย่างที่เราคาดไม่ถึง กระบวนการความรู้แบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต ยิ่งช่วงหลายปีที่ผ่านมาแนวคิดเรื่องธุรกิจ Startup กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เพราะ Startup คือการทำธุรกิจสำหรับผู้มองเห็นโอกาส ที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ลองมาดูกันว่ามีทักษะอะไรบ้าง เพื่อสร้างลูกให้เป็น Startup ที่ประสบความสำเร็จ
Startup กับโอกาสที่ไม่สิ้นสุด
Startup เป็นกระแสการทำธุรกิจขนาดเล็ก ที่เริ่มต้นจากคนไม่กี่คน มักเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน หรือเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น โดยทั่วไปมักเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี หรือโลกออนไลน์ ซึ่ง Startup แตกต่างกับ SME ตรงที่ SME เจ้าของกิจการต้องลงทุนเอง ใช้เงินในการขยายกิจการเพื่อให้ธุรกิจค่อยๆ เติบโต ซึ่งต้องใช้ทั้งกำลังคน และกำลังทรัพย์ ทำให้เติบโตช้า ขณะที่ Startup สามารถเติบโตได้โดยใช้โมเดลธุรกิจแบบเดิม เช่น ลงทุนทำแอปพลิเคชันขายของ หากมีคนสนใจมากๆ ธุรกิจก็เติบโตได้เร็ว โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม อาจขยายสาขาได้โดยใช้โมเดลธุรกิจเดิม ไม่ต้องเพิ่มแรงงาน นอกจากนี้ Startup ส่วนใหญ่ เมื่อเริ่มธุรกิจไปสักพัก แล้วมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ก็อาจเริ่มระดมทุน หรือมีนักลงทุนที่เห็นศักยภาพมาลงทุนให้ ทำให้ธุรกิจไปต่อได้ ซึ่ง Startup ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก เช่น Facebook, Instagram และ Youtube นั่นเอง
Startup กับทักษะที่ต้องมี
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง อาจยังมองไม่ออกว่าอนาคตลูกหลานของเราจะเติบโตขึ้นมาเป็นอะไร เด็กๆ หลายคนอาจกำลังค้นหาตัวตน ความชอบความสนใจ สะสมประสบการณ์ไปเรื่อย แต่คงจะดีหากวันนี้เราได้สร้างทักษะที่อาจเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะอาชีพที่ต่อยอดออกไปได้ไม่จำกัด รวมถึงการเป็น Startup หรือกระทั่งผู้ประกอบการ ลองมาดูกันค่ะว่า ทักษะที่เด็กๆ ควรมีสู่การเป็นมืออาชีพในสายงานแห่งโลกอนาคตมีอะไรบ้าง
- ทักษะทางภาษา : การสื่อสารเพียงภาษาเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป อย่างน้อยๆ เด็กยุคใหม่ควรมีทักษะ 2 ภาษา เริ่มจากภาษาไทยที่จำเป็นต้องสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ชัดเจน ตรงเป้าหมาย และภาษาอังกฤษ ที่อย่างน้อยๆ ควรอ่านและฟังเข้าใจ และหากเป็นไปได้อาจศึกษาภาษาที่ 3 เช่น ภาษาจีน ภาษาสเปนนิช ภาษาญี่ปุ่น ฯ เพราะความสามารถทางภาษาจะช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้เราได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
- ทักษะ Coding เบื้องต้น : coding คือการเขียนคำสั่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเด็กๆ ควรได้เรียนรู้ว่าคำสั่งที่เขียน สามารถสั่งการให้คอมพิวเตอร์ทำสิ่งที่เราต้องการได้ โดยภาษาที่ใช้เขียนโค้ด ก็ยังมีหลากหลาย เช่น java, ภาษาC และ Python ซึ่งหลายหน่วยงานในประเทศไทย ก็อาจพิจารณาให้ coding เป็นวิชาบังคับในระดับชั้นประถมศึกษา เทียบเท่ากับการเรียนภาษาที่ 3 เพราะ Coding เป็นภาษาสากลที่สื่อสารกันได้ทั่วโลก นอกจากได้พื้นฐานเรื่องการเขียนโปรแกรมแล้ว Coding ยังมีประโยชน์คือ ฝึกคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สร้างความสามารถในการวางแผน คิดวิเคราะห์ ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นพื้นฐานจำเป็น ที่นำไปต่อยอดใช้ได้ในทุกสายงาน
- ทักษะบริหารการเงิน : เด็กๆ ควรได้ฝึกทำรายรับ-รายจ่ายของตัวเอง และหากมีโอกาสอาจสอนให้ลูกๆ ช่วยดูแลจ่ายบิลต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อฝึกให้ทักษะบริหารการเงินเบื้องต้น สำหรับเด็กโต อาจสอนให้ลูกทำธุรกรรมต่างๆ ออนไลน์ เพราะในอนาคตมีแนวโน้มว่าคนจะจับเงินสดน้อยลง และเริ่มหันมาใช้จ่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น
- ทักษะการบริหาร : คำว่าบริหารสำหรับเด็กๆ อาจดูเหมือนไกลตัว แต่จริงๆ แล้วเด็กทุกวัยสามารถฝึกพื้นฐานการบริหารงานเบื้องต้นได้หากผู้ใหญ่ให้โอกาส เช่น เมื่อทำงานกลุ่ม เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่ เด็กๆ ก็จะได้บริหารจัดการงานของตนให้สำเร็จ ขณะเดียวกันก็ต้องร่วมมือสื่อสารกับเพื่อนๆ หรือ อาจหาคอร์สอบรมออนไลน์ เกี่ยวกับฝึกความเป็นผู้นำ เพื่อให้ลูกเข้าใจว่าการบริหารเกี่ยวข้องกับความเป็นผู้นำอย่างไร
- ทักษะทางเทคนิค (Tech Skill) : ถึงแม้เด็กยุคนี้จะเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี แต่การที่ลูกใช้เทคโนโลยีได้ อาจไม่ได้หมายความว่า “ใช้เป็น” เพราะการใช้เทคโนโลยีเป็น หมายถึง การวางแผนคิดวิเคราะห์ที่จะใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ อย่างปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อจากภัยสังคมออนไลน์ รวมทั้งยังต้องรู้จักคัดสรรแหล่งข้อมูล แยกแยะข้อเท็จจริงท่ามกลางข้อมูลมากมายได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้ search engine อย่างถูกวิธี เลือกใช้แอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ เป็นตัวช่วยทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบายขึ้น
Startup Ideas ง่ายๆ ที่เริ่มได้ทันที
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ พ่อแม่หรือกระทั่งเด็กๆ เอง อาจเริ่มมองเห็นภาพว่าการเป็น Startup คืออะไร แต่อาจยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มอย่างไร ทั้งนี้ การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการลงมือทำค่ะ หากมีโอกาสลองชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับการเป็น Startup แล้วคุยกันว่าลูกมีความสามารถอะไรที่นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ แล้วลองวางแผนคร่าวๆ เริ่มต้นอย่างง่ายๆ หากยังนึกไม่ออก ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นไอเดียค่ะ
- ถ่ายภาพ สำหรับใครที่มีความสามารถด้านการถ่ายภาพ ลองเปิดเพจหรือ IG Account รับถ่ายภาพในแนวที่ตนเองถนัด หรือจะให้แตกต่าง อาจรับงานช่างภาพส่วนตัว ตามลูกค้าไปถ่ายภาพในคาเฟ่สวยๆ โพสต์โฆษณาผลงานตัวเองในเพจ และ IG เพื่อสร้างฐานลูกค้า หรือรับถ่ายภาพอาหารสำหรับร้านออนไลน์ ไม่แน่ว่าอาจได้รับความนิยมจนงานล้นตัว
- ติวเตอร์ออนไลน์ สำหรับเด็กๆ ที่มีความสามารถพิเศษ เล่นดนตรี วาดภาพ หรือภาษาต่างประเทศ อาจเปิดคอร์สสอนออนไลน์ ก็เป็นการเริ่มต้นธุรกิจ Startup เล็กๆ ที่แทบไม่ต้องลงทุนอะไร
- บริการรับส่งผ้า สำหรับผู้ที่ต้องการนำผ้าไปซักในร้านสะดวกซักที่ส่วนใหญ่เปิด 24 ชั่วโมง อาจชวนลูกเปิดเพจ บริการรับส่งผ้า สำหรับคนที่ไม่มีเวลา โดยเราทำหน้าที่รับผ้าจากลูกค้าไปซักและอบแห้งที่ร้านสะดวกซัก ก่อนนำกลับมาส่งคืนให้ลูกค้า เป็นงานบริการง่ายๆ ที่ลงทุนเวลาและแรงงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ขายอาหารออนไลน์ สำหรับใครที่มีฝีมือทำอาหารหรือขนม อาจโพสต์ออนไลน์ รับพรีออเดอร์อาหาร ยิ่งหากว่ามีไลน์กลุ่มในหมู่บ้าน ก็อาจโฆษณารับทำอาหารส่งภายในหมู่บ้าน หากได้รับความนิยม อาจขยายไปสู่การทำอาหารออนไลน์ผ่านบริการดิลิเวอรี่ต่างๆ เพิ่มรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างไอเดียง่ายๆ สำหรับครอบครัวที่อยากให้เด็กๆ ทดลองเริ่มต้นธุรกิจ Startup เพื่อหาประสบการณ์ และเข้าใจพื้นฐานการทำธุรกิจเบื้องต้น รายได้ที่เข้ามาอาจเป็นผลพลอยได้ แต่สิ่งที่มีประโยชน์ต่อเด็กๆ คือโอกาสที่พวกเขาได้เรียนรู้และค้นพบศักยภาพของตนเอง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้ต่อไป
Related Courses
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
การสื่อสารภาษาอังกฤษ ใครว่ายาก? หากเราเข้าใจ และสื่อสารมันจากความรู้สึก และไม่ต้องกังวลจนเกินไป ในคอร์สเรียนนี้เราจ ...
How to พูดอังกฤษยังไงให้เป๊ะ แบบไม่เน้นท่องจำ
ต้องใช้ 100 เหรียญ
การซ่อมแซมของใช้ในชีวิตประจำวัน
อุปกรณ์ของใช้ในบ้านเมื่อใช้ไประยะหนึ่งอาจชำรุดเสียหายได้ ถ้าเรารู้จักวิธีซ่อมแซมจะทำให้สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกซึ่งเป็นการประหยั ...
Collaborative classroom design
เรียนรู้ทักษะความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) หลักการออกแบบกิ ...
ภาษาอังกฤษ ฉบับบ้านปลาดาว
นวัตกรรมการสอนวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียนบ้านปลาดาวได้ออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของผู้เรียนอย่างเป็นร ...