สอนลูกเป็นนักขายออนไลน์ ง่ายๆช่วงกักตัว
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ออนไลน์กันหมด เพราะช่องทางออนไลน์นั้นเข้าถึงได้ง่าย และเป็นช่องทางที่ใกล้ตัวเราเข้าไปทุกที ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้ช่องทางออนไลน์ให้เป็นรายได้ของครอบครัวด้วยการขายออนไลน์ แต่ไม่ใช่แค่คุณพ่อคุณแม่เท่านั้นที่ขายของออนไลน์ได้ เด็กๆก็ขายของออนไลน์ได้เหมือนกันค่ะ
เรามีวิธีสอนให้เด็กๆกลายเป็นนักขายของออนไลน์ได้ง่ายๆ มาฝากกันค่ะ
1.คุณพ่อคุณแม่ต้องลองขายก่อน
จะให้เด็กๆเริ่มขายออนไลน์นั้นไม่ยากเลยค่ะ แต่ต้องเริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ก่อน เพราะเด็กๆจะทำอะไรได้ดีนั้น ต้องเริ่มจากการที่เขาสนใจ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่เป็นคนใกล้ตัวที่สุดค่ะ ต้องเป็นผู้นำในการขายก่อนเลย เด็กๆจะได้เริ่มสนใจ และอยากจะลองขายตาม ห้ามใช้วิธีซื้อของมาแล้วให้ลูกขายเด็ดขาด เพราะเขาจะรู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องทำ ไม่เต็มใจเท่าไหร่ อย่าว่าแต่ยอดขายเลยค่ะ อาจจะไม่มีคนดูก็เป็นได้
2.เริ่มขายจากของใกล้ตัว
แล้วจะเริ่มขายอะไรดี? คงมีคำถามนี้อยู่ในหัวคุณพ่อคุณแม่ เราแนะนำให้เริ่มขายของใกล้ตัวแบบไม่มีต้นทุนก่อนค่ะ นั่นคือของมือสองในบ้านนั่นเอง ตั้งราคาที่ลูกพอใจได้เลย คิดค่าขนส่งให้ไม่เข้าเนื้อก็พอ
หรือหากบ้านไหนมีต้นทุนอยู่บ้าง ลองขายของที่ลูกชอบ เช่น ของเล่น เครื่องเขียน สิ่งของจากตัวการ์ตูนที่ลูกชอบ หรืออาจจะเป็นต้นไม้ หนังสือ ที่เขาสนใจก็ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ใกล้ตัว และเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาอยากนำเสนอ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้การขายของเขาน่าสนใจ แตกต่างจากการขายที่มีเพียงราคา แต่มีเรื่องราวอยู่ด้วย
3.หาเอกลักษณ์
คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าการขายออนไลน์เป็นเรื่องง่ายๆ ใครก็ทำได้ ซึ่งก็จริงค่ะ แต่น้อยนักที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้น การสร้างเอกลักษณ์ หรือสร้างตัวตนในแบบของตนเองที่แตกต่างจากคนอื่น จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การขายออนไลน์ของลูกนั้นโดดเด่นกว่าเจ้าอื่น
เช่น ถ้าไลฟ์ขายของเป็นหนังสือหรือของเล่น เพิ่มการรีวิวหรือเล่นให้ดู เล่านิทาน หรือเล่นเกมแจกของไปด้วย ก็น่าสนุกดีนะคะ ถ้านึกไม่ออก ลองศึกษาจากไลฟ์หรือเพจฮิตๆก็ได้ค่ะ
4.รับมือ feed back ทั้งดีและร้าย
ในโลกออนไลน์ไม่ได้จะมีแต่คนดีเท่านั้นค่ะ บรรดาเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่ที่อาจจะเอ็นดูเข้ามา อุดหนุน เชียร์ ลูกในครั้งแรกๆ ครั้งต่อไปอาจจะไม่มา และอาจจะแทนที่ด้วยคอมเมนต์ร้ายๆแทน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเข้ามาดูตรงนี้ อาจจะใช้วิธีเป็นแอดมินให้ลูก บล็อกข้อความร้ายๆ หรือถ้าสถานการณ์ไม่ค่อยดี อาจจะพักไลฟ์ไปก่อนได้
หรือหากไม่มีคนดู ลูกอาจจะเบื่อที่ไม่มีใครมาซื้อสักที ให้ลองเปลี่ยนช่วงเวลาดู เช่น ช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 22.00น. ของทุกวัน คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไลฟ์ เราอาจจะเริ่มแค่ 30 นาทีก่อน หรือเมื่อคนลดลงก็อาจจะพัก หรือเล่นเกมแจกของบ้าง และหากเป็นการขายแบบถ่ายรูปโพสต์ลงในกลุ่ม ลองหากลุ่มใหม่ๆที่มีคนเยอะขึ้น เปลี่ยนการถ่ายรูปให้น่าซื้อมากขึ้นก็ได้
5.ขายดีเท่ากับกำไร ขายไม่ได้เท่ากับประสบการณ์
อยากให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ตั้งความหวังกับการขายออนไลน์นี้จนเกินไปค่ะ อาจจะแค่เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อลูกจะได้ไม่ผิดหวังหากขายไม่ได้ หรืออาจจะเปลี่ยนจากการขาย เป็นการรีวิวของเล่นที่มีอยู่แทนก็ได้ ถ้าขายได้ ก็เป็นเรื่องราวดีๆ มากกว่า
การขายของจะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้ค่าของเงิน เพราะของที่ขายได้ ต้องหักต้นทุน ต้องหักค่าส่ง สิ่งที่เข้าได้คือ “กำไร” ซึ่งไม่มากนัก ถ้าขายดี ลองมาดูว่าเราจะทำอย่างไรกับเงินที่ได้กัน ถ้าอยากจะขายต่อ ต้องหักออกมาเป็นต้นทุนเพื่อซื้อของรอบต่อไป อาจจะสอดแทรกการสอนให้เด็กๆ รู้ว่านี่คือวิธีการที่คุณพ่อคุณแม่หาเงินมาให้เขาใช้นะ มันไม่ได้มาง่ายๆ จะเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ค่ะ
การขายของออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ควรฝึกเด็กๆค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังเป็นกิจกรรมช่วยให้เด็กๆ รู้ค่าของเงินอีกด้วย เขาจะรู้จักใช้เงินมากขึ้น เห็นคุณค่าของสิ่งของรอบตัวมากขึ้น ที่สำคัญ ใครจะไปรู้ว่าเราอาจจะได้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ตัวน้อยๆที่ยอดขายไม่แพ้ผู้ใหญ่ก็เป็นได้นะคะ
Related Courses
ทักษะชีวิตสำหรับเด็กออทิสติก
ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพัฒนาการเด็กรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว โดยเด็กไม่สามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและการสื่อคว ...
ฝึกทักษะพื้นฐานในการตัดสินใจ (Decision Making)
การตัดสินใจที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ถ้าหากได้รับการฝึกฝนทักษะการตัดสินใจตั้งแต่วัยรุ่น ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิ ...
How to รู้เท่าทันมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์
ทุกวันนี้การใช้งานบนโลกอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับดาบสองคม ที่ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าจะเลือกข้อมูลด้านไหน ...
ทักษะการเขียน Resume ให้ปัง
สำหรับนักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาหรือผู้ที่กำลังมองหางานใหม่ เมื่อพูดถึงการเขียน Resume นั้น หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า ประสบก ...