Cloud Computing คืออะไร? ทำความรู้จักอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมีบทบาท

หากพูดถึงหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทที่สำคัญที่สุดต่อการศึกษา หลายๆ คนคงอาจไม่เคยรู้จักระบบการเรียนรู้บนคลาวด์ (Cloud Computing) หรืออาจจะงุนงงจนถึงขั้นส่ายหัวเลยก็เป็นได้หากมีเพื่อนบอกว่าจริงๆ แล้วระบบการเรียนรู้บนคลาวด์อยู่กับเราแทบทุกที่ หรือจริงๆ แล้ว ‘นี่แหละ เจ้าสิ่งนี้ที่เรากำลังใช้งานอยู่คือเทคโนโลยีการศึกษาแบบ Cloud!’
ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจนผู้ใช้งานอย่างๆ เราอาจติดตามความหมายหรือชื่อเทคโนโลยีต่างๆ กันไม่ทัน วันนี้ Starfish Labz เลยขอทำหน้าที่พาผู้อ่านทุกคนมาทำความเข้าใจเจ้าเทคโนโลยี Cloud Computing นี้กันค่ะ
Cloud Computing คืออะไร? สำคัญหรือมีประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษา? มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันในบทความนี้เลย
Cloud Computing คืออะไร?
การประมวลผลแบบคลาวด์ หรือ Cloud Computing คือกลวิธีการใช้งานทรัพยากรอินเทอร์เน็ตขององค์กร บริษัทหรือสถาบัน ในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงจากการต้องมีการลงทุนด้านทรัพยากรต่างๆ เองในการผลิตหรือทำงาน Online มาเป็นการใช้บริการซอฟต์แวร์, ระบบ, และทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์ของ ‘ผู้ให้บริการตัวกลาง’ หรือที่เรียกว่า ‘Provider’ ผ่านอินเทอร์เน็ต
โดยองค์กร, บริษัท, สถาบัน หรือ ‘ลูกค้า (Client)’ สามารถเลือกกำลังการประมวลผลและจำนวนทรัพยากรได้ตามความต้องการการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เองทั้งระบบ ไม่ต้องวางระบบเครือข่ายเอง ลดความรับผิดชอบในการดูแลระบบลง เพราะมีผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลให้ตั้งแต่การวางระบบซึ่งจะมีศูนย์กลางตัวทรัพยากร (Datacenter) อยู่ที่จุดต่างๆ ที่ปลอดภัยจนถึงการอัปเกรดระบบให้เสถียรและใช้งานได้ดีอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์หรือสำคัญที่สุดของเจ้าเทคโนโลยีนี้ก็คือการปฏิวัติให้ผู้ใช้งานของลูกค้าหรือ ‘Clients’ ต่างๆ นี้สามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ของ ‘Clients’ เมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องติดตั้งตัวซอฟต์แวร์ แค่มีอินเทอร์เน็ต เราก็สามารถเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์นี้ของผู้พัฒนานี้ได้ เหมือนที่เราสามารถกดเข้าใช้งาน Google Docs หรือ Google Slides จากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องติดตั้งตัวแอปพลิเคชัน Google Docs ลงในเครื่องของเรา แถมยังสามารถเข้าใช้งานได้หลายๆ คนพร้อมกัน เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าการทำงานร่วมกันบนโลกออนไลน์นั่นเอง (Online Collaboration)
Cloud Computing และบทบาทในการศึกษา
นอกเหนือจากการเป็นเครื่องมือหรือ Solution ในภาคธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญของ Cloud ก็คือบทบาทในการเป็นตัวขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลง และปฏิรูปการศึกษาทั่วโลกในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการเรียน Online การทำงานต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา รวมถึงอีกแง่มุมที่สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ก็คือการมีฐานคลาวด์ที่ปลอดภัยและเสถียรภาพ สามารถช่วยจัดเก็บและปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนต่างๆ อาทิ ข้อมูลผู้เรียน, ผู้สอน หรือบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนการบูรณาการการใช้งานเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในห้องเรียน การสร้างรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ในลักษณะผสมผสาน (Hybrid) ซึ่งหากมองถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวแล้ว หนึ่งในโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการวางระบบเพื่อการใช้อินเทอร์เน็ต, ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างดีที่สุดก็คือการใช้บริการคลาวด์หรือการสร้างระบบการเรียนรู้บนคลาวด์นั่นเองค่ะ
จริงๆ แล้วสาเหตุผลที่ความรู้หรือรายละเอียดเกี่ยวกับ Cloud Computing ไม่ค่อยเป็นที่รู้กันมากนักแม้จะมีความสำคัญและถูกใช้งานอยู่ตลอดเวลาก็เพราะจริงๆ แล้วตัวเทคโนโลยีมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดเชิงเทคนิคที่เข้าใจยากอยู่มาก การใช้งานจริงๆ สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาแล้ว หากมีความสนใจ จึงแนะนำว่าควรปรึกษากับทางผู้เชี่ยวชาญผู้ให้บริการ Cloud ต่างๆ ซึ่งจะสามารถช่วยอธิบายและให้คำแนะนำเราได้อย่างดี โดยประเภทของการให้บริการ Cloud ในปัจจุบัน มีหลากหลาย ได้แก่
- Private Cloud คือการจัดตั้งคลาวด์ส่วนตัว โดยแต่ละสถาบันหรือองค์กรจะลงทุนจัดตั้ง Hardware และ Software ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการทำ Cloud Datacenter ขึ้นมาด้วยตนเอง เพื่อให้บุคลากรในองค์กรใช้หรือเป็นฐานในการทำงานหรือสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนเอง
- Public Cloud คือคลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ โดยจะมีผู้ให้บริการระบบคลาวด์ หรือ Provider ในลักษณะที่เรากล่าวกันถึงข้างต้นเป็นผู้วางระบบและเปิดให้สถาบันหรือองค์กต่างๆ เข้ามาใช้บริการ ทั้งในรูปแบบรายเดือนและรายปี
- Hybrid Cloud คือการนำเอาข้อดีของ Private Cloud และ Public Cloud มาใช้ร่วมกัน เหมาะสำหรับสถาบันหรือองค์กรที่อยากมีทั้งฐาน Cloud เป็นของตัวเองสำหรับการทำงานหรือเก็บเฉพาะข้อมูลที่สำคัญหรือละเอียดอ่อนภายใน และใช้ Public Cloud ในการบริหาร จัดการ หรือทำงานด้านอื่นๆ
- Multi Cloud คือการเลือกใช้บริการ Cloud Providers ตั้งแต่ 2 ผู้ให้บริการขึ้นไปเพื่อลดความเสี่ยงด้านต่างๆ ในการใช้งานและเพื่อจัดสรรประโยชน์ในการใช้งานจากแต่ละผู้ให้บริการให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด เหมาะสำหรับสถาบันหรือองค์กรที่มองว่า Cloud Provider แต่ละบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองได้ดีแตกต่างกัน อยากใช้งานทั้งสองหรือสาม ภายใต้การวางแผนการใช้งานหลายผู้ให้บริการที่เหมาะสม
กล่าวได้ว่านี่คืออีกหนึ่งการเรียนรู้เกี่ยวกับ Cloud Computing เทคโนโลยีการศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นเคยกับการเรียนรู้แต่ละแพล็ตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์อย่าง Starfish Class หรือ Microsoft Teams แต่การศึกษาการวางระบบหรือผู้ให้บริการเทคโนโลยีการศึกษาขนาดใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายเครื่องมือทางการศึกษานี่ก็สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่ดีเช่นกัน
ในบทความถัดไป Starfish Labz จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษาอย่าลืมติดตามกันนะคะ
อ้างอิง:
บทความใกล้เคียง
ครูคลับ (Kru Club) สร้างเกมง่าย ๆ ด้วย Wordwall

5 แอปพลิเคชันช่วยคุณครูประเมินสมรรถนะของผู้เรียนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีทางการศึกษา สุดยอด 5 ฟีเจอร์ เพื่อการประเมินสมรรถนะเด็กด้วย Starfish Class

Related Courses
การวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรียน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
การวางแผนกลยุทธ์ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางโรงเรียน เป็นการกำหนดทิศทาง แนวทาง และเป้าหมายของโรงเรียนในอนาคต เพื่อ ...



การวางแผนกลยุทธ์ของโรงเรียน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
สนุกกับ Canva สร้างสรรค์ Animation & VDO อย่างง่าย ทำได้จริง
หาวิธีสร้างสื่อการสอนแบบเก่าๆ น่าเบื่ออยู่เหรอ? มาอัพสกิลกันเถอะ! คอร์สนี้ พร้อมพาทุกคนมาปลดล็อกพลังความคิดสร้างสรรค์ ออ ...



สนุกกับ Canva สร้างสรรค์ Animation & VDO อย่างง่าย ทำได้จริง
ต้องใช้ 100 เหรียญ
คู่มือการสอนนวัตกรรม 3R ฉบับบ้านปลาดาว
คงจะดีถ้าการอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นวัตกรรม3R โรงเรียนบ้านปลาดาว ได้ออกแบบชุดการสอนที่ง่ายและเกิดผล ...



การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง Immersive Technology ในห้องเรียน
AR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้นและยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มาก ...



การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง Immersive Technology ในห้องเรียน
ต้องใช้ 100 เหรียญ
Related Videos

วัดผลผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวสู่ “ครูมืออาชีพ”


วิจัยและนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนรู้ สู่ครูเชี่ยวชาญตามเกณฑ์ วPA


พื้นที่แห่งการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21

