7 วิธีการพื้นฐานส่งเสริมการเรียนรู้เด็กที่มีความต้องการพิเศษ
การจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษอาจจะมีความแตกต่างกับการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนปกติทั่วไปแต่ขอให้คุณครูเชื่อว่าเราสามารถกระตุ้นจุดแข็งของนักเรียนได้ โดยสามารถทำตาม 7 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ค้นหาจุดแข็งนักเรียนของตนเอง
ขอให้คุณครูนัดพูดคุยกับคุณครูประจำชั้นคนก่อนถึงความโดดเด่นของนักเรียน เช่น คะแนนส่วนไหนที่ได้นักเรียนได้มากที่สุดหรือเขามักแสดงพฤติกรรมเชิงบวกแบบไหนบ่อยมากที่สุด หลังจากนั้น คุณครูก็ทำการเก็บข้อมูลจุดแข็งของนักเรียน รวมถึงให้ผู้ปกครองกรอกข้อมูลบางส่วนมาให้ด้วย นอกจากนี้ ขอให้คุณครูสอบถามนักเรียนว่ามีความสนใจในเรื่องอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร เป็นต้น
2. หาตัวอย่างที่ดีให้แก่นักเรียน
นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษบางครั้งจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวบุคคลที่มีความต้องการพิเศษเหมือนกัน แต่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เพราะบุคคลเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจ และช่วยทำให้นักเรียนเชื่อว่า “เขาทำได้ ฉันก็ทำได้” เช่น นักพันธุศาสตร์ผู้ชนะรางวัลโนเบิล Carol Greider (มีความบกพร่องทางการเรียนรู้) เป็นต้น
3. พัฒนาจุดแข็งควบคู่กับการใช้ทฤษฎีการเรียนรู้
เมื่อคุณครูทราบจุดแข็งของนักเรียนแล้ว ให้ออกแบบวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับจุดแข็งของนักเรียน เช่น หากนักเรียนวาดรูปเก่งมาก แต่อ่านหนังสือไม่ออก ขอให้นักเรียนอธิบายคำศัพท์โดยการวาดรูปแทน หรือหากนักเรียนมีความสามารถในด้านถักทอผ้า แต่ไม่เก่งเรื่องคิดคำนวณ ขอให้นักเรียนถักถอแถวละ 10 ก่อน จะเห็นได้ว่ามีไอเดียอีกมากมายที่สามารถผสมผสานกันเพื่อเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
4. ใช้เทคโนโลยีและการออกแบบตามหลักของ Universal Design มาเป็นเครื่องมือ
ในโลกยุคปัจจุบัน เราสามารถใช้แอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้และตอบโจทย์นักเรียนที่หลากหลายได้ เช่น แอปพลิเคชันที่ทำให้นักเรียนที่พูดเก่ง แต่เขียนไม่ได้ สามารถเป็นนักเขียนได้ โดยการแปลคำพูดเป็นข้อความ หรือ การใช้ Ipad สำหรับเด็กออทิสติกที่มีปัญหาในการสื่อสาร ผ่านแอปพลิเคชัน Proloquo2GO เพื่อให้นักเรียนสามารถพูดได้เพียงแค่กดปุ่ม
5. สนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้กับเพื่อนๆ
การเรียนรู้มีความเชื่อมโยงกับการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ดังนั้น จึงขอให้คุณครูช่วยนักเรียนในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ เช่น การจับคู่กับเพื่อน การจับกลุ่มติวหนังสือด้วยกัน การจับคู่บัดดี้ หรือการใช้การเรียนรู้ที่อิงสังคมเข้ามามีส่วนร่วม
6. ช่วยนักเรียนออกแบบอาชีพในอนาคต
เด็กที่มีความต้องการพิเศษหลายคนมักจะนึกภาพตนเองไม่ออกว่าจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต หรือมักจะมีความคิดเชิงลบต่อตัวเอง ดังนั้น ขอให้คุณครูให้กำลังใจนักเรียน โดยการพยายามเชื่อมโยงจุดแข็งของนักเรียนให้เข้ากับอาชีพที่เหมาะสม เช่น นักเรียนเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) ที่มักจะตอบสนองต่อการหลั่งสารอดรีนาลีน อาจจะเหมาะสมกับงานประเภทพนักงานดับเพลิง ส่วนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ อาจจะชื่นชอบในงานศิลปะเป็นพิเศษ สามารถประกอบอาชีพเป็นศิลปินได้ในอนาคต
7. สร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกให้เกิดการเรียนรู้
คุณครูสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่สนับสนุนจุดแข็งของนักเรียนได้ เช่น เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น สามารถเรียนรู้ได้ดีผ่านการเคลื่อนไหว เช่น เขาสามารถเล่นกับลูกบอลในขณะที่กำลังทำการบ้านได้ หรือ นักเรียนที่เป็นดาวน์ซินโดรม ผู้ที่ชื่นชอบการเลียนแบบและมักมีอารมณ์ขัน คุณครูสามารถสร้างโรงละครหุ่นกระบอก ที่เขาสามารถออกมาแสดงโจทย์ปัญหาทางการคณิตศาสตร์และรับฟังฟีดแบ็กได้
ทั้ง 7 วิธีการนี้จะช่วยให้คุณครูสามารถพัฒนาศักยภาพของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้ โดยที่ไม่มองว่าสิ่งนี้คือ ความพิการ หรือความผิดปกติ แต่มองว่า “เด็กทุกคนมีความต้องการที่หลากหลาย” ผสมกับการออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง จะช่วยทำให้เด็กทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
แปลและอ้างอิง
Related Courses
สร้างกิจกรรมโต้ตอบแบบ Real-time ด้วย Class Point
คุณครูสาย Edtech ที่กำลังมองหาตัวช่วยที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และมีครบทุกเครื่องมือ ทุกกิจกรรมการเรียนรู้ โดยไม่ต้องใช้แอป ...
สร้างกิจกรรมโต้ตอบแบบ Real-time ด้วย Class Point
ต้องใช้ 100 เหรียญ
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...
5 เทคนิคเลคเชอร์ ให้จำได้ ทบทวนบทเรียนแบบง่ายๆ
อยากเกรด A ต้องทำยังไง? คอร์สนี้มีคำตอบกับ 5 เคล็ดลับ! สุดเจ๋ง ที่จะช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ยาวนาน ทบทวนสนุก สมองปลอดโปร่ง ...
นวัตกรรม Booklet ทำอย่างไรให้ ว้าว!
วันนี้ Starfish Labz มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ครูผู้สอนได้เทคนิคการออกแบบกิจกรรมใน Booklet ให้มีความน่าสนใจ สร้างสรร ...
นวัตกรรม Booklet ทำอย่างไรให้ ว้าว!
ต้องใช้ 100 เหรียญ