ระวังวัยรุ่นซึมเศร้าเพราะฝุ่นพิษ

Starfish Labz
Starfish Labz 4967 views • 10 เดือนที่แล้ว
ระวังวัยรุ่นซึมเศร้าเพราะฝุ่นพิษ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้กลายเป็นวิกฤติที่คุกคามสุขภาพคนไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พิษของ PM2.5 อย่างที่หลายคนทราบกันดีคือส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจ รวมถึงก่อให้เกิดอาการแพ้ในระบบต่างๆ ของร่างกาย ที่เห็นได้ชัดคือ เกิดผื่นคัน ระคายเคืองผิวหนัง เป็นต้น แต่สิ่งที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ มีการศึกษาที่พบว่า PM2.5 อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าและอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นของประชากรโลกด้วย การศึกษาจาก University College London (UCL) พบว่าผู้ที่ต้องสูดดมฝุ่นพิษ มลพิษทางอากาศ มีอัตราเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตายสูงขึ้น เพื่อให้รู้เท่าทันภาวะซึมเศร้า ขณะที่เรายังคงต้องใช้ชีวิตท่ามกลางฝุ่นพิษไปอีกยาวๆ บทความนี้ StarfishLabz มีคำแนะนำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง

อากาศพิษและปัญหาสุขภาพจิตที่มองไม่เห็น

เมื่อพูดถึงอากาศเป็นพิษ ช่วงนี้ก็ต้องนึกถึง PM2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน โดยองค์การอนามัยโลก WHO กำหนดไว้ว่าภายใน 24 ชั่วโมง ค่าฝุ่นต้องไม่เกิน 25 ไมโครกรัม : ลูกบาศก์เมตร สำหรับประเทศไทย ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภายใน 24 ชั่วโมงต้องไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม : ลูกบาศก์เมตร ข้อมูลจาก Rocket Media Lab โดยอ้างอิงข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ The World Air Quality Index Project ซึ่งค่าฝุ่นเป็นค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่า ในปี 2023 ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีวันที่อากาศดี คืออยู่เกณฑ์สีเขียวเพียง 31 วัน คิดเป็น 8.52% ของทั้งปี โดยมีวันที่สภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ มีการแจ้งเตือนเป็นสีส้มถึง 78 วัน หรือคิดเป็น 21.43% ของทั้งปี ซึ่งสถิตินี้มีแนวโน้มจะสูงขึ้นทุกปี ซึ่งผลกระทบต่อร่างกายจาก PM2.5 ที่เราทราบกันดี มีทั้งก่อให้เกิดอาการแพ้ ทางผิวหนัง เช่น ผื่นคัน ลมพิษ ทั้งยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เพิ่มความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ สิ่งที่ทำให้ PM2.5 น่ากังวลมากขึ้นคือ มีการศึกษาที่พบว่าฝุ่นพิษนี้อาจเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้าด้วย นักวิจัยจาก UCL ระบุว่า อนุภาคมลพิษทางอากาศที่เล็กที่สุด สามารถที่จะเข้าไปสู่สมองของคนได้จากกระแสเลือดและจากทางจมูก และมลพิษทางอากาศนั้นมีผลเกี่ยวข้องกับการอักเสบของสมอง ทำลายเยื่อประสาท และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน และมีผลต่อสุขภาพจิตที่ย่ำแย่

พิษฝุ่นกับวัยรุ่นและโรคซึมเศร้า

วัยรุ่นคือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเจริญเติบโต เปลี่ยนผ่านจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ นอกจากฮอร์โมนที่แปรปรวนตามวัยแล้ว วัยรุ่นยังต้องรับมือกับการแสวงหาตัวตนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคมและกลุ่มเพื่อน ประกอบกับปัจจัยภายนอก อื่นๆ ทั้งเรื่องครอบครัว การเรียน ชีวิตประจำวันต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเครียด หากวัยรุ่นไม่ได้รับการปลูกฝังความมั่นคงทางใจตั้งแต่วัยเด็ก ก็อาจเกิดความเครียดจนยากรับมือได้ ความเครียดจากการเจริญเติบโต ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้และเปลี่ยนผ่านของวัยรุ่น อาจส่งผลให้เซลล์สมองที่ชื่อว่า Microglia เกิดการอักเสบ แต่การอักเสบนี้จะแย่ขึ้นไปอีกหากเด็กที่กำลังเจริญเติบโต สูดฝุ่นพิษเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะ PM 2.5 ที่เล็กมากจนแทรกซึมเข้าไปได้ถึงสมองที่กำลังพัฒนาการศึกษาในปี 2019 ตีพิมพ์ใน Environmental Health Perspectives ศึกษาเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 6,800 รายที่ถูกส่งไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเด็กในซิซินเนติ สหรัฐฯ พบว่า แม้การสูดดมฝุ่นพิษในระยะสั้นๆ ก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการทางจิตเวชอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น โรคเครียด(Adjustment Disoder) ทำร้ายตัวเอง หรือกระทั่ง ฆ่าตัวตาย มีการศึกษาที่พบว่ายิ่งเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ฝุ่นพิษหนาแน่นมากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้าสูงขึ้นตามไปด้วย ในทางกลับกัน เมื่อปริมาณฝุ่นในอากาศลดลง แนวโน้มโรคซึมเศร้ากลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วยเพราะเมื่อสูดฝุ่นพิษเข้าไปแล้ว ฝุ่นนั้นจะแทรกซึมอยู่ในเซลล์ร่างกาย และพัฒนาไปพร้อมๆ กับร่างกายของเด็กที่กำลังเติบโต กว่าจะแสดงอาการก็อาจเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ไปแล้ว 

ป้องกันฝุ่นพิษในชีวิตประจำวัน

ปัญหาฝุ่นพิษในประเทศไทยกลายเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าที่ประชาชนจะเริ่มที่ตนเอง แต่อย่างน้อยๆ เราก็ควรเริ่มที่จะดูแลป้องกันสุขภาพของตัวเอง และคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ ที่กำลังเติบโต

  • เช็คค่าฝุ่นเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้เตรียมตัวสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ไปจนถึงเปิดเครื่องกรองอากาศ และหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นสูง
  • พัฒนาคุณภาพอากาศภายในที่พักอาศัย ด้วยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ใช้เครื่องดูดควันเมื่อต้องทำอาหารในบ้าน ทำความสะอาดบ้านกำจัดฝุ่น รวมถึงปลูกต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน
  • ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด เนื่องจากฝุ่นอยู่ในอากาศที่เราหายใจ การหลีกเลี่ยงฝุ่นพิษ 100% จึงเป็นเรื่องที่อาจเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไร ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด เช่น เมื่อกลับถึงบ้าน ควรถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าสำหรับเตรียมซักและ อาบน้ำ สระผม ทันที เพื่อชะล้างคราบฝุ่นที่มองไม่เห็นซึ่งอาจติดมาจากอากาศภายนอก ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น เพราะ PM2.5 ไม่เห็น ไม่ใช่ไม่มี 
  • สังเกตสภาพอารมณ์วัยรุ่น พ่อแม่ควรพูดคุย สอบถามความเป็นไปในชีวิตลูกวัยรุ่น และรับฟังโดยไม่ตัดสิน หากพบว่าลูกเปลี่ยนไป เช่น เก็บตัว ไม่พูดคุยเหมือนเคย กินอาหารมากหรือน้อยกว่าปกติ อารมณ์หุนหันหรืออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่างรุนแรง ควรพาลูกขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

สุดท้ายแล้ว เราอาจต้องอยู่กับฝุ่นพิษไปอีกหลายปี กว่าที่รัฐบาลจะมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากดูแลตัวเองแล้ว ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็คงต้องช่วยกันดูแลบุตรหลานและเยาวชนให้ปลอดภัยจากฝุ่นพิษให้ได้มากที่สุดเท่าที่กำลังจะทำได้ จนกว่าจะถึงวันนั้น หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น ก็ยังคงเป็นของต้องมีสำหรับเด็กเจนเนอเรชันนี้ต่อไป 

แหล่งอ้างอิง (Sources) :

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก และสังคม
ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
2:00 ชั่วโมง

สารพัดวิธีรับมือ และเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ

ความแปรปรวน ของสภาพอากาศโลกและภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งที่มีความรุนแรงขึ้น จึงมีความจำเ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
สารพัดวิธีรับมือ และเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ
Starfish Academy

สารพัดวิธีรับมือ และเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ

Starfish Academy
ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลก และสังคม
ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเอง การบริหารจัดการตนเอง
basic
2:30 ชั่วโมง

โลกเปลี่ยนไป ปรับตัวกับภัยธรรมชาติอย่างไรให้อยู่รอด

"โลกเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คิด” ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คอร์สนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกา ...

ผศ.ดร.ปริเวท วรรณโกวิท
ผศ.ดร.ปริเวท วรรณโกวิท
โลกเปลี่ยนไป ปรับตัวกับภัยธรรมชาติอย่างไรให้อยู่รอด
ผศ.ดร.ปริเวท วรรณโกวิท

โลกเปลี่ยนไป ปรับตัวกับภัยธรรมชาติอย่างไรให้อยู่รอด

ผศ.ดร.ปริเวท วรรณโกวิท

ต้องใช้ 100 เหรียญ

การดูแลสุขภาพกายและจิตใจ
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
1:30 ชั่วโมง

Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกาย ป.4-6

การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ควรทำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ

Starfish Academy
Starfish Academy
Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกาย ป.4-6
Starfish Academy

Micro Learning เทคนิคการดูแลสุขภาพกาย ป.4-6

Starfish Academy
EdTech
ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
0:30 ชั่วโมง

โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว

โรงเรียนปลาดาว เน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะสำคัญทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิต ผ่าน ...

โรงเรียนปลาดาว
โรงเรียนปลาดาว
โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว
โรงเรียนปลาดาว

โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาดูงานโรงเรียนปลาดาว

โรงเรียนปลาดาว

Related Videos

Starfish Labz - Online Learning Platform with Community
03:39
Starfish Labz

Starfish Labz - Online Learning Platform with Community

Starfish Labz
212 views • 10 เดือนที่แล้ว
Starfish Labz - Online Learning Platform with Community
10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO
02:33
Starfish Future Labz

10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO

Starfish Future Labz
68772 views • 3 ปีที่แล้ว
10 ขั้นตอน สร้าง PORTFOLIO
น้องยินดี: เด็กอัจฉริยะ คิดค้นการใช้มอส กำจัด PM2.5
05:30
Starfish Academy

น้องยินดี: เด็กอัจฉริยะ คิดค้นการใช้มอส กำจัด PM2.5

Starfish Academy
718 views • 5 ปีที่แล้ว
น้องยินดี: เด็กอัจฉริยะ คิดค้นการใช้มอส กำจัด PM2.5
นวัตกรรม ตัวเราและวิถีชีวิตในชุมชนบ่อแก้ว ผ่านรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PCDNS
05:55
FutureEd Fest

นวัตกรรม ตัวเราและวิถีชีวิตในชุมชนบ่อแก้ว ผ่านรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PCDNS

FutureEd Fest
69 views • 2 เดือนที่แล้ว
นวัตกรรม ตัวเราและวิถีชีวิตในชุมชนบ่อแก้ว ผ่านรูปแบบการจัดการเรียนรู้ PCDNS