ทำความรู้จักการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ตัวช่วยในทุกชั่วโมงการสอนของคุณครู
หากพูดถึงคำที่ฮิตสุดๆ ของวงการการศึกษาในปัจจุบันหนึ่งในคำที่ Starfish Labz เชื่อว่าคุณครูหลายๆ คนต้องคุ้นหูก็คือการเรียนรู้แบบผสมผสานหรือ Blended Learning ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนจากคุณครูท่านอื่นๆให้มาลองสอนแบบ Blended Learning เหมือนกันหรือการกำหนดจากทางสถาบันการศึกษาของเราให้เริ่มต้นการลองสอนแบบ Blended หรือ Hybrid ในบทความนี้ Starfish Labz ก็จะพาคุณครูทุกคนมาทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้กันค่ะ Blended Learning คืออะไร? สำคัญแค่ไหนกับคุณครูหรือมีประโยชน์อย่างไรได้บ้างมาติดตามกันเลย
Blended Learning คืออะไร?
Blended Learning หรือที่มักเรียกกันว่า Hybrid Learning คือการเรียนรู้แบบผสมผสานที่นำการเรียนรู้เชิงเทคโนโลยีการศึกษาและการเรียนรู้แบบดั้งเดิมในห้องเรียนเข้าด้วยกันการเรียนรู้แบบ Blended นี้จริงๆ ก็มีการประยุกต์กันใช้มานับสิบปีแล้วแต่ด้วยเพราะ COVID-19 ที่ผ่านมาความเป็นที่นิยมและการได้รับการพิจารณาว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งจึงบูมขึ้นมา จนกลายเป็นหนึ่งรูปแบบการศึกษาใหม่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีประโยชน์มากจริงๆซึ่งหลายๆ ครั้งเราอาจมักคิดว่า Hybrid Learning นี้ต้องเป็น Online + ห้องเรียน On-Site จริงๆ เท่านั้น หรือที่เรามักคุ้นเคยกันในประกาศของโรงเรียนว่าเรียน Online 80% + On-Site 20% หรือ Online 60% + On-Site 40% แต่ในความเป็นจริงแล้วนอกเหนือจากลักษณะการเรียนแบบนั้น ก็ยังมีอีกแบบที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันอย่างมากนั้นก็คือเป็นการเรียน On-Site 100% แต่มีการใช้เทคโนโลยีการศึกษาและการเรียนรู้แบบ Online เพิ่มเติมนอกเวลาเข้ามา เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกหรือสามารถเชื่อมต่อ เชื่อมโยงกับคุณครูและการเรียนรู้ได้แม้จะจบคลาสเรียนแล้วนั่นเองค่ะจะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วหัวใจของ Blended Learning ในบริบทของการศึกษาในปัจจุบันก็คือเรื่องของการใช้ EdTech เข้ามาแต่จะเป็นในรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความจำเป็นต่างๆ รวมถึงความถนัดและความต้องการของคุณครูและเด็กๆ นั่นเอง
Blended Learning รูปแบบการเรียนรู้ที่ดีต่อใจ
ประโยชน์ของ Blended Learning มีมากมายแต่หากให้ลองสรุปแบบชัดๆ เน้นๆ แล้วก็ต้องที่ 3 ข้อด้านล่างนี้เลยใครที่กำลังเลอยู่ว่าควรลองเริ่มสอนแบบนี้ดีไหมต้องลองพิจารณาจากข้อดีเหล่านี้เลยค่ะ
1. Blended Learning ช่วยสร้างความน่าสนใจ สร้างสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายให้กับเด็กๆ
การเรียนรู้ในแบบเดิมเพียงแค่อย่างเดียวไม่ตอบโจทย์การเรียนรู้ของเด็กๆ ขาดแรงจูงใจ ความน่าสนใจและคุณประโยชน์ต่างๆ มากมายที่เด็กๆ ควรได้รับBlended Learning ช่วยให้เกิดสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายการใช้ EdTech ช่วงดึงดูดความสนใจและยังเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กๆ
2. Blended Learning ช่วยให้การสอนของคุณครูง่ายกว่าเดิม ลดภาระงานของคุณครู
การใช้ EdTech ที่ใช่ไม่เพียงช่วยให้เด็กๆ รู้สึกสนใจและอยากเรียนรู้แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญของคุณครูในการทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอนในห้องเรียนภาระงานจนถึงการติดตามการบ้านหรือการพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กๆ EdTech เช่น Starfish Class สามารถช่วยคุณครูติดตามพัฒนาการเหล่านี้ได้อย่างแสนง่ายแถมยังช่วยให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างคุณครูและคุณพ่อคุณแม่ที่ดี มีการเปิดให้คุณพ่อคุณแม่เข้ามาร่วมประเมินบันทึกผลพัฒนาการของเด็กๆ ได้แม้จะอยู่ที่บ้านเรียกได้ว่าถ้าเจอ EdTech ที่ใช่แล้วสามารถช่วยปฏิวัติการเรียนการสอนของเราเลยก็ว่าได้นั่นเอง
3. Blended Learning ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง จะอยู่ที่ไหนเด็กๆ ก็สามารถเรียนรู้ คุณครูเชื่อมต่อกับพวกเขาได้
แต่เดิมเมื่อคลาสจบโรงเรียนเลิกการเรียนรู้ก็สิ้นสุดแต่ในปัจจุบันเมื่อคลาสจบแล้วคุณครูสามารถใช้เครื่องมือดีๆ มากมายในการคอยส่งเสริมเด็กๆ การเรียนรู้จนถึงการทำการบ้านของเด็กๆ เช่น การใช้ EdTech รวบรวมลิงก์ข้อมูลดีๆ แบบ Online ที่พอเด็กๆ กดเข้าปุ๊ปก็เจอทุกอย่าง
ที่เขาต้องการปั๊ปเพื่อทำการบ้านเตรียมสอบหรือเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองเพิ่มเติม
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อสร้างการเรียนการสอนแบบ Hybrid/Blended
สำหรับตัวอย่างการสร้างห้องเรียน Hybrid/Blended อย่างที่ง่ายและชัดเจนที่สุดก็คือในกรณีของการใช้ Starfish Class แอปพลิเคชัน/แพลตฟอร์มตัวช่วยของคุณครูในการประเมินทักษะเด็กๆ นั่นเองค่ะด้วย Starfish Class คุณครูสามารถบันทึกและดูผลพัฒนาการของเด็กๆ ในทักษะหนึ่งๆ ได้อย่างต่อเนื่องแถมยังสามารถเชิญคุณครูคนอื่นๆ และคุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆ มาร่วมประเมินได้อีกด้วยเมื่อประเมินแล้วยังเชิญเด็กๆ มาดูผลลัพธ์พัฒนาการของเขาได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนหรือในอีกแบบหนึ่งที่เป็นที่ฮิตกันมากๆ ในปัจจุบันก็คือการใช้ EdTech เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมและการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning เช่น แอปการเรียนรู้เชิงเกมหรือการใช้เครื่องมือครูต่างๆ อย่างกระดานอัจฉริยะ เป็นต้น
3 เคล็ดลับแสนง่าย เริ่มต้นการสอนแบบ Blended Learning
1. พิจารณารูปแบบการสอน Blended Learning ที่ใช่สำหรับตัวเอง
เรากำลังต้องสอนแบบ Online เยอะกว่าหรือ On-Site เยอะกว่ารูปแบบการสอนที่เราต้องสอนในปัจจุบันเป็นแบบไหนมีข้อกำหนดอะไรบ้างต้องเป็นแบบ Active Learning ไหมซึ่งถ้าเป็น Active Learning โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นกิจกรรมเราอาจใช้ EdTech เข้ามาช่วยเสริมตัวกิจกรรมเหล่านี้ เป็นต้น
2. ออกแบบห้องเรียน Blended Learning
เราอยากให้การเรียนการสอนของเราออกมาเป็นแบบไหนใน 1 หรือ 2 ชั่วโมงนี้ความผสมผสานที่ว่าของเราหน้าตาเป็นอย่างไร เช่น เราอาจใช้เครื่องมือที่น่าสนใจตอนบรรยายใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความน่าสนใจหรือเราอาจจะเน้นไปที่การใช้ EdTech สนุกๆ เวลาให้เด็กๆ ทำกิจกรรม
3. ทดลอง วัดผลและเปลี่ยนแปลง
หลายๆ คนคิดว่ารูปแบบการเรียนการสอนแบบ Blended Learning ต้องเหมือนกันหมดแต่ความจริงนั้นคุณครูแต่ละคนสามารถออกแบบ Model ที่ใช่ของตัวเองได้และเมื่อออกแบบเสร็จแล้วเราก็ต้องลองทำลองวัดผลและอาจปรับเปลี่ยนด้วยตัวเองนั่นเองค่ะ ยิ่งเราลองใช้ ลองทำ เราก็ยิ่งเห็นโอกาสในการพัฒนาและทำให้ห้องเรียนแบบผสมผสานของเราดียิ่งขึ้นกลายเป็น Template ที่เราหยิบจับสับเปลี่ยนมาใช้ได้กับเด็กๆ ในทุกห้องเรียนรวมถึงในทุกๆ ภาคการศึกษา
อ้างอิง:
บทความใกล้เคียง
5 สุดยอดเทคโนโลยีการศึกษาสำหรับคุณครู ลดภาระงาน ช่วยการสอนให้ลื่นไหล
ยกระดับการเรียนรู้โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ด้วย 3 นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการศึกษา จาก Starfish Education
ทำความรู้จัก Duolingo แอปพลิเคชันฝึกภาษาระดับโลก ตัวช่วยสำคัญของคุณครู-ผู้ปกครอง
Related Courses
การจัดการเรียนรู้ทางไกล
บทบาทของครูในการออกแบบและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทางไกลในกับผู้เรียนด้วยบทเรียนแบบไมโครเลิร์นนิ่งและกิจกรรมแบบออนไลน์
ตื่นตา ตื่นใจ กับการเรียนรู้โลกทั้งใบด้วย Google Earth
อยากสร้างสื่อการสอนสุดว้าว! อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้เด็กๆในห้องเรียนมาลองใช้ Google Earth เครื่องมือการสอนแบบบู ...
ตื่นตา ตื่นใจ กับการเรียนรู้โลกทั้งใบด้วย Google Earth
ต้องใช้ 100 เหรียญ
พื้นฐานการใช้เทคโนโลยี สำหรับครูยุคใหม่
หลักสูตรเพื่อก้าวสู่การครูยุคใหม่ซึ่งมีทักษะพื้นฐานทางดิจิทัลและความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในนำมาใช้ในการผลิตสื่อ ...
Google Sites กับการนำมาใช้เพื่อการศึกษาและการประเมินวิทยะฐานะ
Google Sites ช่วยทำเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องรู้วิธีเขียนโค้ด และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความรู้มากในด้าน ...
Google Sites กับการนำมาใช้เพื่อการศึกษาและการประเมินวิทยะฐานะ
ต้องใช้ 100 เหรียญ