ทำความรู้จัก Duolingo แอปพลิเคชันฝึกภาษาระดับโลก ตัวช่วยสำคัญของคุณครู-ผู้ปกครอง

Starfish Academy 22008 views • 1 ปีที่แล้ว

ทำความรู้จัก Duolingo แอปพลิเคชันฝึกภาษาระดับโลก ตัวช่วยสำคัญของคุณครู-ผู้ปกครอง

หากพูดถึงแอปพลิเคชันและแพล็ตฟอร์มฝึกภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบันทั้งในหมู่นักเรียน คุณครู ผู้ปกครอง จนถึงบุคคลทั่วไปหนึ่งในแพล็ตฟอร์มที่คงไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ Duolingo หรือแอปพลิเคชัน แพล็ตฟอร์มฝึกภาษาในรูปแบบการแข่งขันหรือเกม (Gamification) นั่นเองค่ะ

แม้ภายนอกอาจดูเหมือนเป็นเทคโนโลยีการศึกษาทั่ว ๆ ไป หน้าตาน่ารักสดใส แต่ด้วยการผนวกเอา Gamification และเทคนิคการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ร่วมกัน Duolingo จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีการศึกษาที่ตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเด็ก ๆ และใครก็ตาม ที่รู้สึกท้อหรือเบื่อกับการเรียนรู้ภาษาเชิงท่องจำแบบเดิม ๆแต่เจ้าเทคโนโลยีการศึกษาสุดมหัศจรรย์นี้มีหน้าตาอย่างไร มีฟังก์ชันการใช้งาน และมีประโยชน์อย่างไร วันนี้ Starfish Labz จะพาผู้อ่านทุกคนมาทำความรู้จักกับ Duolingo กันค่ะ

Duolingo คืออะไร

อย่างที่เกริ่นกันไปข้างต้น Duolingo คือแพล็ตฟอร์มการฝึกภาษาที่สาม ทั้งในรูปของแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่ผนวกเอาเทคนิคการเรียนรู้ในรูปแบบเกม (Gamification) และหลักสูตร เทคนิคการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ เข้ามาไว้ด้วยกันนั่นเองค่ะ ลักษณะการเรียนรู้หลัก ๆ ใน Duolingo จึงคล้ายกับการเล่นเกม เรียนรู้ผ่านการตอบคำถาม สะสมคะแนน เลื่อนขั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเกมการเรียนรู้ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนามาแล้วโดยเฉพาะ แม้ภายนอกอาจดูเหมือนเป็นเกมทั่ว ๆ ไป แต่ละคอร์สมีเทคนิคการเรียนรู้ มีกลไก และหลักสูตร และมาตรฐานต่าง ๆ เช่น Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) หรือมาตรฐานสากลในการอธิบายความสามารถทางภาษาในด้าน การอ่าน การเขียน การฟัง และการพูดอยู่เบื้องหลัง นอกเหนือจากหลักสูตร มาตรฐาน และเทคนิคต่าง ๆ ที่ถูกผสมผสานอยู่ภายในแพล็ตฟอร์มแล้ว ตัวเทคโนโลยียังมีการใช้ AI เข้ามาคอยดูแลผู้เรียน ประเมินผลการเรียน และนำเสนอคอร์ส รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่ตรงตาม Profile ความต้องการและระดับทักษะของผู้เรียนโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์เด่นใน Duolingo

1. UX / UI ที่สดใส สบายตา สนุก และง่ายต่อการใช้งาน

หน้าตาและประสบการณ์ใช้งาน (UX/UI) ของแพล็ตฟอร์ม ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ของ เทคโนโลยีการศึกษา และ Duolingo ก็ไม่เพียงแค่สอบผ่านในจุดนี้ แต่ยังกลายเป็นหนึ่งใน EdTech Platforms แรก ๆ เลยทีเดียวที่ออกแบบ UX/UI ของตัวเองได้อย่างตอบโจทย์ผู้ใช้งานสุด ๆ โดยเฉพาะผู้ใช้งาน วัยเด็ก หรือรวมถึงผู้ใหญ่เองก็รู้สึกเลยว่าเมื่อลองกดเข้าไปแล้ว การเรียนรู้ภาษา ใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หรือน่าเบื่อเสมอไป แถมเรียน ๆ ไปยังกลายเป็นเหมือนเล่นเกม แทบไม่รู้สึกเลยว่าแต่ละบทเรียนคือคอร์สเรียนอย่างจริงจัง

2. มีการสอบวัดระดับก่อนการใช้งาน

การฝึกษาภาษาอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นไปไม่ได้เลยหากผู้เรียน และผู้สอน ไม่รู้จักใบหน้า Profile หรือระดับของผู้เรียนก่อน อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญของ Duolingo ก่อนเริ่มเรียนจึงคือการสอบวัดระดับก่อนเริ่มใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ AI ของเทคโนโลยีนำเสนอคอร์สที่ตรงกับระดับของผู้เรียนได้ รวมถึงผู้เรียนเองก็ยังรู้ระดับของตัวเอง และเจ้าตัวระดับหรือเลเวลนี้ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะเมื่อพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ระบบก็จะแสดงให้เห็นเลยว่าระดับทักษะของเราเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ อย่าเพิ่งท้อไปเสียก่อน

3. ฟีเจอร์ Gamification สุดสนุกมากมาย

ใครว่าการเรียนภาษาต้องเป็นเรื่องน่าเบื่อ ภายใน Duolingo อีกหนึ่งกลุ่มฟีเจอร์ที่สำคัญแน่นอนว่าก็คือเหล่าองค์ประกอบ Gamifications เช่น Leaderboards และ Leagues ใครฝึกกันถึงไหน อยู่ที่ระดับใด ใครเริ่มชำนาญแล้ว ใครอยู่ที่จุดใดกันแล้วบ้าง Duolingo มีการจัดแสดง Experience Points (XP) คะแนนประสบการณ์หรือคะแนนการฝึก ยิ่งฝึกอย่างเป็นประจำ คะแนนก็ยิ่งสูง Progress Bars แถบแสดงความก้าวหน้า ฝึกถึงไหนแล้ว จะจบคอร์ส หรือยังนะ Streaks สถิติการฝึกอย่างติดต่อกัน ยิ่งฝึกติดต่อกันมากเท่าไหร่ ระบบก็จะแสดง Streaks ตามวัน และเมื่อรักษาสถิติ Streaks ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว โดยธรรมชาติของมนุษย์ แน่นอนว่าเราก็ไม่อยากจะทำลายสถิติของตัวเราเอง อยากฝึกทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม

4. การเรียนรู้แบบ Interactive Learning

การฝึกภาษาใน Duolingo ไม่ใช่แค่การถามและตอบ เพราะในแต่ละคอร์ส จะเป็นการเรียนครบทั้ง 4 ทักษะหลัก นั่นคือ อ่าน เขียน ฟัง และพูด ในรูปแบบ Interactive ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเริ่มฝึกภาษาหนึ่ง ๆ ได้อย่างรอบด้านและยังตามอัตราความเร็ว (Pace) ที่อยากเรียนรู้ของผู้เรียนเอง

5. ใครว่าต้องเรียนแค่ภาษาจริง ๆ แฟน ๆ แม่มังกรอยากลองเรียน High Valyriaian ก็ยังมี!

นอกเหนือหลักสูตรกว่า 30 ภาษา อีกหนึ่งกิมมิคแสนสนุกที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการลองเรียนภาษาชื่อดัง จากภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่าง ๆ เช่น High Valyrian จากซีรีส์ Game of Thrones หรือ Klingon จาก Star Trek แม้จะไม่ใช่ภาษาจริง ๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อได้ยินแม่มังกรพูดภาษาดังกล่าวในซีรีส์แล้ว หลาย ๆ คน ก็ต้องหลงใหลกับความสวยงามไปตาม ๆ กัน ซึ่งใครที่เป็นแฟนภาษาจากภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังเหล่านี้ละก็ ต้องลองเลยทีเดียวค่ะ

ประโยชน์ของ Duolingo สำหรับเด็ก ๆ

นอกเหนือจากเรื่องของความสนุกสนานจากเหล่าฟีเจอร์ Gamification ต่าง ๆ จุดเด่นสำคัญของ Duolingo ก็คือเรื่องของหลักสูตรการเรียน เทคนิคการฝึกพัฒนาที่ออกแบบมาให้อยู่ในรูปของ Bite-Sized Learning หรือการเรียนรู้แบบพอดีคำ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถจดจ่อได้อย่างดี ไม่ต้องกังวล ลดความรู้สึกเหนื่อยในการเรียนรู้ แม้อาจจะมีการกระตุ้นให้เรียนอย่างรวดเร็วอยู่บ้างหรืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังอยู่ในปริมาณที่เรียนได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึก Overwhelmed หรือ ท่วมท้นจนเกินไปนั่นเองค่ะ

สรุปสาระสำคัญ (Key Takeaway)

เทคโนโลยีการศึกษา อย่าง Duolingo อาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้เรียนทุกคน โดยเฉพาะผู้เรียนที่อาจต้องการ การเรียนขั้นสูง แต่สำหรับผู้เรียนในวัยเด็กและสำหรับผู้เริ่มต้น การค่อย ๆ เริ่มที่ Duolingo ถือเป็นก้าวหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วยได้มาก ๆ ทั้งเนื้อหาที่ย่อยมาให้แล้วการเรียนรู้แบบ Interactive และฟีเจอร์ Gamifications ที่สนุกสนาน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ แนวโน้ม การศึกษาไทยในยุคดิจิทัล สามารถนำมาเรียนรู้ ปรับใช้ และพัฒนา ต่อยอด การสอนภาษาในบ้านเราได้อีกด้วย คุณครูหรือผู้ปกครองท่านใดที่กำลังอยากลองเรียนภาษาที่สาม หรืออยากฝึกภาษาให้ลูกอยู่พอดี Starfish Labz แนะนำว่าต้องลองเลยค่ะ

อ้างอิง: