สพฐ. จัดระบบตัวชี้วัดลดภาระครูง่ายต่อการจัดกิจกรรมพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน
วันที่ 4 กรกฏาคม 2566 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมสื่อสารสร้างความเข้าใจการนำตัวชี้วัดองค์รวม และตัวชี้วัดองค์ประกอบย่อยสู่การปฏิบัติในระดับเขตพื้นที่ และระดับสถานศึกษา จัดโดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักทดสอบทางการศึกษา และหน่วยศึกษานิเทศก์ สพฐ.
การประชุมในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจแนวทางในการนำตัวชี้วัดที่ผ่านการแยกประเภทแบบรวมกับย่อย ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ โดยได้นำเสนอให้เห็นสภาพปัจจุบันของการขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ซึ่งมีตัวชี้วัดจำนวนมาก 2,056 ตัวชี้วัด และยังมีความซ้ำซ้อนในการนำไปใช้ลงสู่การปฏิบัติ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในการนำไปออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผลประเมินผล จึงได้มีการดำเนินการโดยการพิจารณาจัดประเภทตัวชี้วัดจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ แล้วนำไปสู่การพิจารณาจากคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน เห็นชอบการคัดสรรและการจัดกลุ่มตัวชี้วัด ซึ่งกลุ่มตัวชี้วัดที่สำคัญใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และวัดประเมินผลแบบองค์รวม จำนวน 771 ตัวชี้วัด และตัวชี้วัดองค์ประกอบย่อย จำนวน 1,285 ตัวชี้วัด ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และดูผลการพัฒนาของผู้เรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสำคัญ
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า การจัดกลุ่มแบ่งประเภทตัวชี้วัดจะทำให้การนำไปใช้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นโดยแบ่งออกเป็น ตัวชี้วัดองค์รวม 771 ตัวชี้วัด ซึ่งในการวัดและประเมินผลจะมีการจัดกิจกรรมหรือทักษะของพฤติกรรมที่มีตัวชี้วัดองค์ประกอบย่อย จำนวน 1,285 ตัวชี้วัด อยู่แล้ว จึงทำให้ง่ายและไม่เป็นภาระสำหรับการนำไปใช้ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในเรื่องของชิ้นงาน ใบงาน จะใช้เพียงตัวชี้วัดองค์รวม ส่วนตัวชี้วัดย่อยใช้ในการจัดกิจกรรมหรือทักษะต่างๆ ซึ่งไม่ยึดโยงกับห้วงของเวลา หรือลำดับในการบรรลุก่อนหลังของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งการวัดและประเมินผล 771 ตัวชี้วัดนั้น ไม่จำเป็นต้องเน้นการวัดแบบเป็นทางการ เช่น แบบทดสอบ หรือแบบวัดต่างๆ แต่จะต้องมีการวัดที่หลากหลาย สามารถแสดงหลักฐาน หรือปรากฏหลักฐานการวัดได้ และที่สำคัญ ทำให้ง่ายต่อการนำไปบูรณาการทั้งในกลุ่มสาระฯ หรือข้ามกลุ่มสาระฯ ในแหล่งเรียนรู้ใกล้โรงเรียน เพื่อใช้ภาระงานหรือชิ้นงานที่ไม่มีจำนวนมากแต่สามารถวัดผลฯ นักเรียนได้ครอบคลุม ทั้งตัวชี้วัดแบบองค์รวม และองค์ประกอบย่อย ซึ่งไปปรากฏในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
“ทั้งนี้ ตัวชี้วัดยังคงเดิม เพียงแต่เน้น 771 องค์รวม เพื่อใช้วัดผลประเมินผล ส่วน 1,285 ย่อยใช้จัดกิจกรรมเสริมทักษะ เพื่อให้เกิดรวมแล้ววัดผล เพื่อลดภาระของทุกตัวชี้วัดต้องมีร่องรอยหลักฐานการเก็บคะแนน เพียงแต่เป็นการส่งเสริมจัดกิจกรรมแล้วเกิดตัวชี้วัดองค์รวมซึ่งง่ายต่อการทำใบงาน ซึ่งจะลดภาระครูที่ไม่ต้องวัดผลทุกตัวชี้วัด แต่ใช้การจัดกิจกรรมหรือทักษะ และเน้นย้ำองค์รวมเพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่บรรลุตามมาตรฐานตัวชี้วัด และส่งผลให้ง่ายต่อการบูรณาการหลายวิชา โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นห้องเรียนรวมรายวิชา และเกิดคุณลักษณะและมีสมรรถนะของผู้เรียนตามหลักสูตร ฯ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงนักเรียนจะมีเวลาในการ Create จึงขอให้ผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ ได้สร้างความเข้าใจ และร่วมคิดพาครูทำให้เห็นจริงถึงการปฏิบัติ เป็นพี่เลี้ยงครูอย่างกัลยาณมิตร เพื่อให้ครูมีความสุขในการออกแบบการเรียนรู้ และมีเวลาเติมเต็มนักเรียนให้ถึงพร้อมศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีเวลาเหลือในการพัฒนาตนเองตามความชอบ ความถนัด และความสนใจของตนเอง บรรลุผลตาม KPI ของนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ทั้งด้านวิชาการ ดนตรี กีฬา ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : www.obec.go.th/archives/863574
ข่าวที่เปิดอ่านมากที่สุด
โรงเรียนปลาดาวได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลโรงเรียนยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรมระดับโลก World’s Best School Prizes for Innovation โดยเป็นผู้นำในการบุกเบิกการศึกษาเพื่อความเท่าเทียมสำหรับทุกคน
28.10.24
จัดอย่างยิ่งใหญ่! FutureEd Fest 2024 งานเทศกาลการศึกษา มุ่งสร้างอนาคตการเรียนรู้
07.10.24
Starfish Education ร่วมงาน didacta asia 2024 และ didacta asia congress เสนอนวัตกรรมการศึกษาสำหรับอนาคต
21.10.24
CEO Starfish Education ร่วมเวทีการประชุมนานาชาติ didacta asia 2024: Ministerial Panel on "Southeast Asia Education Policies"
17.10.24
Starfish Education เสนอแนวคิดนวัตกรรมการศึกษาต่อกระทรวงศึกษาธิการ
16.10.24
คุรุสภา ไฟเขียว ร่างประกาศยกเว้นใบอนุญาตครูชั่วคราว ขับเคลื่อนมาตรฐานการผลิตครู
02.11.24