พลิกโฉมการเรียนรู้ ครูทำได้ (เรียนรู้อย่างมีความสุขด้วย BBL)

Starfish Academy
Starfish Academy 2163 views • 7 เดือนที่แล้ว
พลิกโฉมการเรียนรู้ ครูทำได้ (เรียนรู้อย่างมีความสุขด้วย BBL)

Brain-based Learning : BBL คือ ทฤษฎีเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองของมนุษย์ และระบบประสาทวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการสอน และการปรับเปลี่ยนตัวแปรต่างๆ ในโรงเรียนเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาของสมองนักเรียน (Renate N. Caine & Geoffrey Caine เป็นผู้นำความรู้ ด้านการทำงานของสมองมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน) ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทำให้มนุษย์รู้จักสมองมากขึ้น การวัดคลื่นที่มีชื่อว่า EEG การศึกษาสมองของเด็ก เช่น ถ้าเด็กอ่านหนังสือที่ชอบ คลื่นสมองเด็กจะเป็นอย่างไร ผลปรากฎว่า ถ้าเด็กได้อ่านหนังสือที่ชอบ เซลล์ในสมองที่พร้อมจะเรียนรู้จะแตกตัว และจะเรียนรู้ได้เยอะขึ้น 

ในสมองของเด็กกำลังทำอะไรอยู่ ขณะที่เด็กกำลังเล่นเกม

1. เชิงบวก 

  • วิเคราะห์ วางแผน ตื่นเต้น วางแผน ตื่นตัว เรียนภาษา สมาธิจดจ่อ มีความสุข 
  • สมองจะประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้น
  • สมองสามารถเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมายมหาศาลจากคอมพิวเตอร์
  • เด็กจะรู้จักจังหวะ ระยะ และมิติมากขึ้น
  • มีความพร้อมในการเรียนรู้ 

2. เชิงลบ

  • เครียด หงุดหงิด รอคอยไม่ได้ ใช้คำหยาบ มุ่งแต่ชนะ สมาธิสั้น 
  • เด็กไม่ชอบสิ่งที่น่าเบื่อและช้ากว่า
  • เด็กจะคุ้นเคยกับความรุนแรงและมีแนวโน้ม ชอบความรุนแรง โดยไม่รู้ว่าผิด
  • เด็กมีแนวโน้มจะกลายเป็นคนก้าวร้าว และไม่ทนกับสิ่งที่ไม่ถูกใจ

สมองเรียนรู้ได้อย่างไร 

เซลล์สมองมี 100,000 ล้านเซลล์ มีหน้าที่ เรียน คิด จำ การเรียนรู้ของสมองดีที่สุดช่วงอายุ 0-10 ปี เซลล์สมองงอกงาม โดยมี เดนไดรต์ (รับข้อมูล) ตัวเซลล์ แอกซอน (ส่งข้อมูล) สมองเรียนรู้ โดย 1.เดนไดรต์ (รับข้อมูล) ส่งต่อ 2.แอกซอน (ส่งข้อมูล) 3.ซีนแนปส์ (การเรียนรู้) 

การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ดีเมื่อ Prior Learning : วงจรความรู้เดิมที่มีอยู่ในสมอง หรือ ประสบการณ์เดิมที่นักเรียนเรียนรู้มาเข้าใจมาก่อน 

  1. วงจรเซลล์สมองเดิม = ความรู้เดิม (Prior Learning) 
  2. ทบทวนความรู้เดิม ก่อนสอนความรู้ใหม่
  3. เชื่อมความรู้ใหม่กับความรู้เดิม = การเรียนรู้ง่ายขึ้น สนุก น่าสนใจมากขึ้น 

สมอง 4 ส่วน 

  1. สมองส่วนหน้า (คิด จำ ใช้เหตุผล ประมวลผลข้อมูล) 
  2. สมองส่วนรับสัมผัส 
  3. สมองส่วนรับเสียง
  4. สมองส่วนรับภาพ

และสมองน้อย ควบคุมท่วงท่าและการเคลื่อนไหว 

สมองส่วนหน้า คิด จำ ใช้เหตุผล ประมวลผลข้อมูล 

ทักษะการคิด : ใช้เหตุผล เปรียบเทียบ แยกหมวดหมู่ เรียงลำดับ วิเคราะห์ แก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ 

ยกตัวอย่าง หากเราใช้เด็กนั่งอ่านหนังสือ แล้วเท้าปั่นจักรยานไปด้วย จะทำให้การจดจำดีขึ้น เพราะมีไขสันหลัง มารับส่งข้อมูล 

สมองน้อย ถูกออกแบบมาตามธรรมชาติให้ควบคุมการเคลื่อนไหวทุกท่วงท่า ต้องพัฒนาสมองส่วนนี้ผ่าน การทำงาน การออกกำลังกาย และการเล่นกีฬา

  1. สมองน้อยและไขสันหลังแข็งแรง สมองใหญ่ทำงานได้ดี
  2. สมองน้อยมีส่วนช่วยสมองใหญ่คิดและจำ
  3. ไขสันหลังรับส่งข้อมูลได้ดี เด็กก็เรียนรู้ได้เร็ว ดังนั้น การเคลื่อนไหว-ออกกำลังกาย ช่วยสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นในสมอง แม้ว่าอายุมากแล้วก็ยังสร้างได้ เส้นเลือดใหม่ๆ มีส่วนสร้างเซลล์สมองใหม่ด้วย 

จัดการเรียนรู้ให้สารเคมีในสมองสมดุล 

ตัวที่ 1 เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) สารแห่งความสุข บรรเทาความเจ็บปวด : ถ้ามีเอ็นดอร์ฟินในสมองปกติ จะช่วยให้ 1. ระงับความเจ็บปวด 2.เพิ่มการหลั่งสารโดปามีน 3. ทำให้เกิดความรู้สึกพอใจ 4. ควบคุมความอยากอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกัน 5. คลายเครียด

กุญแจสำคัญ 

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ได้รับแสงแดด
  2. ทำกิจกรรมที่มีความตื่นเต้น
  3. ฟังเรื่องตลก ฟังเพลง
  4. ได้กลิ่นบางชนิด เช่น กลิ่นวานิลลา ลาเวนเดอร์ 
  5. รับประทานช็อกโกแลต ประมาณ 6.7 กรัมต่อวัน และอาหารที่มีรสเผ็ด

ตัวที่ 2 เซเรโทนิน (Serotonin) สารแห่งความกระฉับกระเฉง : ความ Active มีพลังงาน ถ้ามีเซเรโทนินในสมองปกติ จะช่วยให้ 1.กระฉับกระเฉง 2. ความรู้สึกอยากกินเรื่อยๆ ลดลง แต่ถ้ามีน้อยจะทำให้เกิด 1. ความซึมเศร้า หมดอาลัยตายอยาก 2. ชอบนอน 3. พฤติกรรมกินอาหารเพิ่ม 4. ก้าวร้าว 

กุญแจสำคัญ

  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  2. ขณะเรียนควรกระตุ้นให้ร่างกายเคลื่อนไหว เพื่อให้ระดับเซโรโทนินปกติ นักเรียนกระฉับกระเฉง เรียนรู้ได้ดีขึ้น

ตัวที่ 3 คอร์ทิซอล (Cortisol) สารแห่งความเครียด : ความเครียด ภาวะท้าทาย ถ้ามีคอร์ทิซอลในสมองมาก จะช่วยให้ 1. เรียนรู้ความรู้ใหม่ได้ยาก สมองตื้อ 2. กระวนกระวาย 3. จำอะไรไม่ได้ 

กุญแจสำคัญ

  1. สมองจะสั่งให้ร่างกายผลิตคอร์ทิซอลขึ้น เมื่อสมองเครียด
  2. ในสภาวะกดดัน มีปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ จิตใจเศร้า เครียด ระดับคอร์ทิซอลจะเพิ่มขึ้น 

ตัวที่ 4 โดปามีน (Dopamine) สารแห่งความสุข : สร้างแรงจูงใจ มุ่งมั่น พึงพอใจ ถ้ามีโดปามีนในสมองปกติ จะช่วยให้ 1. มีสมาธิ ควบคุมตัวเองได้ดี 2.กระตือรือร้น สนใจมุ่งมั่น 3. อยากรู้ อยากลองสิ่งใหม่

กุญแจสำคัญ

  1. ต้องมีกิจกรรมที่สมองมีความสุขและพึงพอใจ
  2. จัดประสบการณ์ที่เหมาสมกับเด็ก ให้สมองได้ทำในสิ่งที่ยากกว่าระดับเล็กน้อย ท้าทายจนเด็กสามารถทำได้ 

สรุป 

  • โดปามีน

กระตุ้นโดย ความพึงพอใจ ความสำเร็จ รางวัล 

ผลต่อการเรียนรู้ แรงจูงใจที่จะเรียนรู้ 

  • คอร์ติซอล 

กระตุ้นโดย ถูกดุด่า ต้องทำเรื่องยากเกินไป เครียดยาวนาน

ผลต่อการเรียนรู้ สมองตื้อตัน คิดไม่ออก จำไม่ได้

  • เอ็นดอร์ฟิน 

กระตุ้นโดย ออกกำลังกาย กลิ่น เรื่องตื่นเต้น 

ผลต่อการเรียนรู้ คลายเครียด บรรเทา เจ็บปวด มีความสุข 

  • เซโรโทนิน 

กระตุ้นโดย ออกกำลังกาย กิจกรรม 

ผลต่อการเรียนรู้ กระฉับกระเฉง ไม่ง่วงนอน 

วงจรอารมณ์ (The limbic system) 

  1. ทาลามัส จุดควบคุมการผ่านของสัญญาณข้อมูล
  2. ไฮโปทาลามัส ปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย 
  3. อะมิกดาลา ความชอบ ความอยาก ภาวะคับขัน อันตราย
  4. ฮิปโปแคมปัส เก็บความจำ 

ความจำของสมอง

  1. ความจำขณะคิด Working memory 
  2. ความจำระยะสั้น Short-term memory
  3. ความจำถาวร Long-term memory 

สมองเรียนรู้ได้ดีขึ้น เมื่อกระตุ้นสมองทั้งสองซีก ส่วนเชื่อสมองสองซีก คือ คอร์ปัส แคลโลซัม

สมองซีกซ้าย 

  • จำรายละเอียด 
  • ใช้เหตุผล
  • รู้ภาษา
  • คิดคำนวณ 

สมองซีกขวา

  • จังหวะ ทำนอง บทเพลง
  • จินตนาการ
  • ความรู้สึกโดยรวม
  • มิติสัมพันธ์

สมองเรียนรู้ได้ดี เมื่อไม่มีข้อมูลอื่นเข้ามารบกวนสมอง 

  1. Working memory มีความจุจำกัด ไม่สามารถรับข้อมูลมากๆ ได้
  2. อย่า Distract สมองในขณะคิด สมองจะจำไม่ได้
  3. สิ่งที่ Distract สมอง ได้แก่ สื่อที่ตกแต่งมากเกินไป บอร์ดที่ใช้สีฉูดฉาด ผนังห้องไม่มีที่ว่าง กลิ่น เสียง ฯลฯ

สมองเรียนรู้ได้ดี เมื่อมีเครื่องมือช่วยคิดช่วยจำ

ตัวอย่างทฤษฎี BBL 

ทฤษฎี BBL 1 : สอนโดยใช้บทกลอน บทเพลง และจังหวัด อย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองซีกขวา 

ทฤษฎี BBL 2 : นำเนื้อหาที่จะสอนมาดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นเกม หรือกิจกรรมที่สนุก เพื่อกระตุ้นการหลั่งของสารโดปามีน 

ทฤษฎี BBL 3 : สร้างนั่งร้าน (Scaffolding) ให้สมองเริ่มเรียนจากสิ่งที่ง่ายที่สุดที่รู้แล้ว แล้วค่อยๆ ต่อยอดทีละขั้น 

ทฤษฎี BBL 4: นำ Graphic Organizer (GO) มาใช้ในกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้สมองเรียนรู้ง่ายขึ้น 

ทฤษฎี BBL 5: การเลือกสรรสื่อกระตุ้นความคิด (Thinking Tools) เข้ามาใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนและการฝึกเพื่อกระตุ้นสมองให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ 

กระบวนการเรียนรู้ BBL 5 ขั้นตอน

1. อุ่นเครื่อง (Warm-up)

  • Brain Exercise การเคลื่อนไหวข้ามแกนกลางลำตัว เพื่อกระตุ้นสมอง 2 ซีก 
  • Rhythm การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ ใช้เสียงเพลง จังหวะ อุปกรณ์ประกอบการเรียนเคลื่อนไหว ส่งเสริมจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ 
  • Stretching การยืดเส้น ยืดสาย หรือโยคะ ทำให้สมองน้อยพัฒนา

2. นำเสนอความรู้ (Present)

  • เริ่มสอนจากของจริง สิ่งใกล้ตัว
  • ใช้สื่อที่แปลกใหม่ น่าสนใจ
  • ใช้ชาร์ตบทคล้องจอง หรือบทเพลง
  • ใช้กระดานเคลื่อนที่นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ
  • ใช้สื่อเทคโนโลยี ให้เป็นประโยชน์

3. ลงมือเรียนรู้ (Learn-Practice)

  • นักเรียนได้เคลื่อนไหวในกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น ตบการ์ดคำศัพท์ ถือบัตรตัวอักษร
  • นักเรียนลงมือใช้สื่อและเครื่องมือต่างๆ เรียนรู้จากสื่อ/เครื่องมือที่ครูเตรียมมาให้
  • นักเรียนได้ลงมือทำทุกคน เรียนรู้จากการลงมือทำด้วยตนเอง ไม่ใช่ดูตัวอย่างจากครู หรือเพื่อนทำ
  • ฝึกทำซ้ำๆ จนเข้าใจและมองเห็น Pattern ขององค์ความรู้นั้น สิ่งสำคัญคือใบงานและกิจกรรม

4. สรุปความรู้ (Summary)

  • การนำประสบการณ์ทั้งหมดที่เกิดจากการเรียนรู้ มาสรุปรวบยอดอีกครั้ง ครูอาจใช้เทคนิคการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิด และสรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง 
  • ลองใช้เทคนิค “คำถามไต่ระดับ” ผ่าน Bloom’s Taxonomy 6 ขั้น

ขั้น Create ถามเพื่อกระตุ้นไอเดียใหม่ๆ 

ขั้น Evaluate ถามเพื่อให้ตัดสินใจ

ขั้น Analyse ถามเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์

ขั้น Apply ถามเพื่อให้ทดลองใช้ความรู้

ขั้น Understand ถามเพื่อให้อธิบาย

ขั้น Remember ถามเพื่อรื้อฟื้นความจำ

5. ประยุกต์ใช้ความรู้ (Apply) 

นำความรู้ที่มีอยู้ในประยุกต์ใช้สร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ และแก้ปัญหาได้ 

PERMA องค์ประกอบที่ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้

P = Positive Emotions บรรยากาศก่อให้เกิดอารมณ์เชิงบวก เช่น เพลิดเพลิน ตื่นเต้น ภูมิใจ

E = Engagement มีกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้

R = Relationship มีความสัมพันธ์ที่ดีภายในห้องเรียน คอยสนับสนุนและให้กำลังใจกันและกัน

M = Meaning นักเรียนรับรู้ว่าสิ่งที่เรียนรู้มีความหมาย และมีคุณค่าต่อตนเอง เกิดแรงจูงใจในการเรียน

A = Accomplishment มองเห็นเป้าหมายในการเรียนรู้และเห็นว่าตนเองมีการพัฒนาที่ดีขึ้น

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

Related Courses

การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม
basic
2:00 ชั่วโมง

การสอนภาษาไทย (3R)

การสอนภาษาไทยของมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างเป็นระบบเข้าใจง่ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
การสอนภาษาไทย (3R)
Starfish Academy

การสอนภาษาไทย (3R)

Starfish Academy
2736 ผู้เรียน
การเรียนแบบบูรณาการ
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
2:00 ชั่วโมง

การสอนคณิตศาสตร์ (3R)

คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...

Starfish Academy
Starfish Academy
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
Starfish Academy

การสอนคณิตศาสตร์ (3R)

Starfish Academy
2713 ผู้เรียน
การศึกษาในอนาคต
ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม การรู้จักตนเอง การบริหารจัดการตนเอง
basic
6:00 ชั่วโมง

Professional Development

การพัฒนาวิชาชีพ (Professional Development) เป็นกระบวนการพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถที่จำเป็นในการทำงานแล ...

Starfish Labz
Starfish Labz
Professional Development
Starfish Labz

Professional Development

Starfish Labz
เครืองมือครู
ด้านความร่วมมือการ ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ ด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
basic
1:30 ชั่วโมง

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...

Starfish Academy
Starfish Academy
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
Starfish Academy

Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1

Starfish Academy
1030 ผู้เรียน

Related Videos

Starfish Country Home School Foundation [ENG]
03:43
Starfish Academy

Starfish Country Home School Foundation [ENG]

Starfish Academy
84 views • 3 ปีที่แล้ว
Starfish Country Home School Foundation [ENG]
เทคนิคการสอน สอนอย่างไรให้ได้ “สมรรถนะ”
03:45
Starfish Academy

เทคนิคการสอน สอนอย่างไรให้ได้ “สมรรถนะ”

Starfish Academy
7686 views • 1 ปีที่แล้ว
เทคนิคการสอน สอนอย่างไรให้ได้ “สมรรถนะ”
Makerspace Day #1
07:41
Starfish Academy

Makerspace Day #1

Starfish Academy
569 views • 2 ปีที่แล้ว
Makerspace Day #1
TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข
05:24
Starfish Academy

TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข

Starfish Academy
428 views • 2 ปีที่แล้ว
TSQP Kick Off แนวคิดห้องเรียนแห่งความสุข