ภาษาอังกฤษห้องเรียนไร้ผนัง (Wall-Free English Class)
“การที่นักเรียนออกมาข้างนอก เด็กจะได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษา ผ่านสิ่งที่รายล้อมเขา มันไม่สามารถเกิดขึ้นในห้องเรียนได้” – ประโยคที่อธิบายถึงวิธีการสอนของ ครูปฏิภาณ จินาวงค์ หรือที่เด็ก ๆ เรียก ‘ครูกอล์ฟ’ ครูผู้สอนดีเด่นระดับประเทศ ปี 2566 จากคุรุสภา ณ ปัจจุบันครูกอล์ฟบรรจุอยู่ที่โรงเรียนคำเที่ยงอนุสสรณ์ สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ซึ่งนอกจากภาระหน้าที่การสอน ครูกอล์ฟยังเป็นนักสร้างสรรค์ที่ออกแบบเทคนิคการสอน “ห้องเรียนภาษาไร้ผนัง” (Wall-Free English Class) ได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับนักเรียนทุกระดับชั้น ในทุกพื้นที่
‘Wall-Free English Class’ ห้องเรียนภาษาไร้ผนัง คืออะไร ?
ครูกอล์ฟอธิบายว่า “ห้องเรียนไร้ขนาด กำแพง นึกถึงอะไร ? ความว่างเปล่า ความโล่ง ความอิสระ ความอึดอัด คอนเซปต์ Wall เป็นนามธรรม ส่วนกำแพงทางภาษา ความคิด ความสามารถ การจัดกิจกรรม เป็นรูปธรรม แล้วกำแพงที่มีผนังคอนกรีต มิติของผนังคอนกรีตก็เป็น Physical Walls”
“ห้องเรียนไร้กำแพง ก็เลยหมายถึง การเรียนรู้จะเกิดขึ้นนอกห้องเรียน ไม่เรียนในห้อง”
เป็นการอธิบายง่าย ๆ แต่ความจริงแล้วการเรียนรู้นอกห้องเรียนนั้นต้องอาศัยความพร้อมหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือตัวคุณครูเองจะต้องมี Passion ในการสอน มีความกล้าเพื่อที่จะส่งต่อความกล้าให้กับเด็ก ๆ ต้องมีกฎ ต้องนึกถึงความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลัก เช่น มีครู 1 คน หรือ 3 คน ต่อนักเรียน 15 คน เพื่อดูแลความปลอดภัย และต้องมีหลักการในการออกแบบกิจกรรมการสอน ซึ่งครูกอล์ฟเน้นที่ 3 ข้อ โดยเรียกว่า ‘หลักการ 3 What’
ประเมินความพร้อมการเรียนการสอนด้วย ‘หลักการ 3 What’
1. What I have คือ มีทรัพยากรอะไรที่นำมาใช้ได้บ้าง หรือมีจุดดีที่ส่งเสริมห้องเรียนและกิจกรรมได้ยังไงบ้าง ต้องประเมินสิ่งรอบตัว
2. What I can do คือ ผู้สอนคุมเด็กได้ไหม สามารถจัดการได้หรือเปล่า หรือมีความกล้าไหม ต้องประเมินตนเองว่าผู้สอนมีความสามารถอะไรบ้าง
3. What they can do คือ นักเรียนทำอะไรได้ ถ้าผู้สอนโยนอะไรที่มันมากเกินไปนักเรียนอาจจะทำไม่ได้ ควรให้ทำสิ่งที่เหมาะสม และตัวผู้สอนเองต้องถ่ายทอดความกล้าไปให้นักเรียนด้วย เพื่อให้เด็กมีความกล้ามากขึ้น
หลักการ 3 What สามารถใช้เพื่อประเมินปัจจัยในการเรียนการสอนด้วยเทคนิคห้องเรียนภาษาไร้ผนังได้ โดยช่วยประเมินได้ทั้งสิ่งแวดล้อม ตัวผู้สอน และตัวนักเรียน ซึ่งการพาเด็ก ๆ ออกไปเรียนตามสถานที่ต่าง ๆ ต้องใช้พลังงานสูงมาก เป็นความเหนื่อยที่ครูกอล์ฟบอกว่า เหมือนหมูโดนทุบทั้งตัว กันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าประเมินแล้วว่ามีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะจิตใจของคุณครูผู้สอน ก็จะทำให้กิจกรรมการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น เด็ก ๆ จะไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้างแม้ออกนอกห้องเรียน
วิธีมองหา Resource หรือทรัพยากรการสอนแบบฉบับของครูกอล์ฟ
ครูกอล์ฟอธิบายวิธีการหา Resource ซึ่งทำได้ทั้งห้องเรียนบนดอยและห้องเรียนในเมือง โดยบอกว่า “เราเป็น Resource เด็กเข้าถึงภาษาได้ เราใช้ภาษาในห้องเรียนเยอะที่สุด ตอนอยู่บนดอย เขาไม่เจออะไร เขาเจอเราที่เป็นครูภาษาอังกฤษเท่านั้น เราสอนเรื่องธรรมชาติ พาเข้าไปสัมผัสสิ่งของจริง ๆ รอบตัวให้เห็นตัวอย่าง เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Wall-Free Class’ เรามี Passion ในด้านนี้”
“กิจกรรมต่อมา ย้ายโรงเรียนเข้ามาในเมือง ห้องเรียนสี่เหลี่ยมมันจะพร้อม เราก็ปรับบรรยากาศให้พร้อม ติด Wall ทาสี ปรับปรุงพื้น ให้ดูเป็นห้องน่าสนใจ ไม่ชอบมีโต๊ะนั่งเก้าอี้ ภาษาอังกฤษมันต้องมีการ Interaction ปฏิสัมพันธ์กัน เพราะฉะนั้นเลยใช้เป็นโต๊ะญี่ปุ่น นักเรียนต้อง Movement ห้องโล่งหน่อย มีไมค์ มีโปรเจกเตอร์ มีเครื่องเสียง ข้างโรงเรียนก็มีต่างชาติ”
กิจกรรมอื่น ๆ ที่ครูกอล์ฟใช้กับการสอน
“สมุดสะสมแต้ม Token Book ทุกครั้งที่เขาส่งงาน เราก็จะแจกดาวเป็นแรงจูงใจให้เขา ยิ่งทำกับเด็กประถม 3-4 เวิร์กมาก แต่ป.5-6 เริ่มไม่ค่อยได้”
“กิจกรรมสอน Adjective ให้เขา Express ถ่ายทอดผ่านเสื้อ โดยเขียนลงเสื้อ อธิบาย Personality ของตัวเขา ‘I am cute’ เด็กได้ชิ้นงาน ได้ภาษาอังกฤษ ได้พูด อันนี้อยู่ใน Traditional Wall”
“กิจกรรม Word Hunt ให้เด็ก ๆ ไปหาคำศัพท์ตามกระจก ตามรถยนต์ ให้เขาได้เดินรอบโรงเรียน สุดท้ายหาเสร็จ คำศัพท์ที่ได้เราจะเอาไปออกแบบให้สอดคล้องกัน”
“กิจกรรมคุยกับต่างชาติ นั่งรถแดงทัวร์รอบรั้วโรงเรียน เราจะให้ลิสต์คำถามเขาไป และก่อนจะไปสถานการณ์จริง เราจะฝึกกันก่อนภายในห้อง เราบรีฟถึงขั้นครูจะจำลองเป็นต่างชาติ ไหนนักเรียนลองทดสอบเดินเข้ามาคุยกับคุณครูดูก่อน เราฝึกแบบนี้ และเราจะมีประโยคแปลก ๆ สิ่งที่เราไม่เคยสอนเขา เพื่อดูปฏิกิริยาว่าเขาจะรับมืออย่างไร เราก็จะบอกเขา การจะเข้าไปหาคนทักทายต้องมีศาสตร์และศิลป์ เพราะชาวต่างชาติบางคนเขาก็ไม่มั่นใจในการคุยกับคนแปลกหน้า ไม่สามารถเป็นใครก็ได้ ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเขา อย่าลืมพูด Excuse me ต้องรู้จักการเข้าหาคนอย่างมีมารยาท เวลาไปเจอสถานการณ์จริง เด็กเขาจะเจอทั้งนักท่องเที่ยวที่ให้ความร่วมมือและไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งเด็กเขาจะได้เรียนรู้ ตรงนี้ดีมาก”
“กิจกรรมเปลี่ยนแผนที่โรงเรียนให้สอดคล้องกับเนื้อหาเรื่อง Direction เพราะในข้อสอบโอเน็ต เด็ก ๆ ต้องใช้อยู่แล้ว เช่น park, market, church, shop, temple ทำให้เด็ก ๆ ได้เห็นภาพสถานที่แถวโรงเรียน คุณครูสามารถใช้ Map จริงได้เลยครับ”
ประสบการณ์จริงคือสิ่งที่ห้องเรียนให้ไม่ได้
“เพราะประสบการณ์เรา การพูดภาษาอังกฤษคล่องเกิดจากการพบเจอผู้คน เราเลยอยากให้นักเรียนได้สัมผัสและได้เรียนรู้บ้าง ให้เขามีปฏิสัมพันธ์” ด้วยแนวคิดนี้ ครูกอล์ฟจึงมีไอเดียในการจัดการเรียนการสอนแบบ ‘Wall-Free English Class’ ซึ่งเหมาะกับนักเรียนทุกระดับชั้น โดยต้องดูข้อจำกัดต่าง ๆ ตามหลักการ 3 What เพื่อประเมินความพร้อมในการเรียนการสอน และควรได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง รวมทั้งการสนับสนุนจากหลายฝ่าย เช่น คุณครูทีมงาน โรงเรียน นักเรียน นักท่องเที่ยว และชุมชน
การพานักเรียนออกไปเรียนนอกห้องเรียนจะทำให้เด็ก ๆ ได้รับทั้งความรู้ ความสนุก ได้รับประสบการณ์จากสถานที่จริง รู้จักวิธีแก้ปัญหา มีทักษะการเอาตัวรอด และเข้าใจความแตกต่างทางภาษาที่เกิดจากการใช้งานจริงโดยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญที่การเรียนแค่ในห้องเรียนให้ไม่ได้
บทความใกล้เคียง
Related Courses
การสอนภาษาไทย (3R)
การสอนภาษาไทยของมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างเป็นระบบเข้าใจง่ ...
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...
Professional Development
การพัฒนาวิชาชีพ (Professional Development) เป็นกระบวนการพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถที่จำเป็นในการทำงานแล ...
Micro Learning เทคนิคการจัดการเรียนการสอน 1
คุณภาพของผู้เรียนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบในตัวผู้เรียนเอง แล้วกระบวนการเรียนการสอนที่ครู จัดให้เป็นสิ่งสำคัญต่อผลสัม ...