5 เคล็ดลับใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์การเรียนรู้ให้เกิดผลที่สุด

สำหรับการใช้เทคโนโลยีการศึกษาหรือซอฟต์แวร์การเรียนรู้ต่างๆ ที่ดีหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญก็คือการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ที่สุดผ่านการเข้าใจถึงความหลากหลายความสามารถของแต่ละซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาที่แตกต่างกัน รวมถึงเคล็ดลับการดูคุณประโยชน์ต่างๆ ที่เรียกได้ว่าถ้ารู้แล้วจะสามารถช่วยให้เราเลือกใช้ EdTech ได้อย่างดีเลยทีเดียว

ในบทความนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับคุณครูรวมถึงผู้ปกครองทุกคน Starfish Labz จึงได้ทำการคัดเลือก 5 เคล็ดลับใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์การเรียนรู้มาให้ทุกคนกันแล้วค่ะจะมีเคล็ดลับไหนที่น่าสนใจน่านำมาลองใช้ในการเรียนการสอนหรือดูแลลูกๆ ของเรากันบ้างมาดูกันเลย

5 เคล็ดลับใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์การเรียนรู้ให้เกิดผลที่สุด

1.ใช้ EdTech ร่วมกับเทคนิคการสอน

โดยปกติ เราเข้าใจกันอยู่ดีแล้วว่า EdTech ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อมาใช้ในการสอนเราเลือก EdTech หนึ่งๆ เพื่อนำมาใช้ในห้องเรียนแต่อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการนำ EdTech มาใช้ร่วมกับเทคนิคการสอน การมีเทคนิคการสอนที่ดี มีการออกแบบรูปแบบการสอนที่ดีแล้วจึงมองหา EdTech เข้ามาเสริมเพิ่มเติมตัวอย่างการใช้ EdTech ในลักษณะนี้ เช่น การออกแบบห้องเรียนในรูป Active Learning คุณครูอยากลองสอนเด็กๆ ตามโมเดลการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ออกแบบ วางแผนการเรียนในลักษณะดังกล่าวแล้วมองหา EdTech ดีๆ เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อช่วยเสริมการเรียนรู้ในลักษณะนั้น เช่น EdTech ในลักษณะเกมการเรียนรู้เสริมเป็นจุดเด่นของกิจกรรมเชิง Active Learning เป็นต้น

2.ใช้ EdTech เสริมงานนอกการสอน

เพราะการสอนไม่ได้มีแค่งานภายในห้องเรียนแต่ยังรวมถึงนอกห้องเรียนอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญในการใช้ EdTech ให้เกิดประโยชน์ คือการนำมาใช้เสริมงานนอกห้องเรียนของเราด้วย ซึ่งหลายๆครั้งเรามักคิดว่า EdTech ต้องเป็นอะไรที่ใช้กับเด็กๆ หรือในห้องเรียนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วถือเป็นเครื่องมือใดๆ ก็ได้เลยค่ะที่ช่วยในการสอนอันหมายรวมถึงภาระงานต่างๆ ทางเอกสารของคุณครู ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การประเมิน และการออกแบบวางแผนต่างๆ หากใครยังไม่เคยลองเลือกใช้เครื่องมือดีๆ มาช่วยถึงเวลาแล้วที่ต้องลองมองหา EdTech ดีๆ มาใช้กัน

เครื่องมือแนะนำสำหรับงานนอกห้องเรียนอาทิ Google Slides, Google Sheet, Google Docs, Canva, EdPuzzle เป็นตัวอย่างเริ่มต้นที่คุณครูสามารถลองสำรวจ เรียนรู้และเลือกใช้ตรงใจเราได้เลยค่ะ

3.ใช้ EdTech ที่เหมาะต่อกลุ่มผู้เรียน

เด็กๆ ในแต่ละช่วงวัยย่อมมีความสนใจและความชอบ EdTech หนึ่งๆ ไม่เหมือนกัน แอปฯ เกมการเรียนรู้อย่าง Kahoot! อาจเหมาะกับเด็กช่วงวัยประถมจนถึงมัธยมต้น แต่หากเราอยากมองหาแอปการเรียนรู้ที่โตกว่านั้น หรือเหมาะกับเด็กวัยมัธยมปลาย ตัวเลือกแอปอื่นๆ อาจเหมาะกว่า

อย่างไรก็ดีปฏิเสธไม่ได้ว่าจะเป็นแอปไหนเครื่องมือไหนยังคงขึ้นอยู่กับการสำรวจและการตัดสินใจของคุณครู ถ้าไม่แน่ใจจะเหมาะกับเด็กๆ ช่วงวัยนี้ไหมกลุ่มนี้ไหม Starfish Labz ขอแนะนำว่าให้ทดลองใช้กับเด็กๆ ดูสักครั้งสองครั้งแล้วดูผลลัพธ์เพื่อการมาพัฒนาต่อหากดูแล้วว่าเหมาะกับพวกเขาพวกเขาชอบใช้แล้วได้ผลจริงก็ลุยต่อเลยส่วนหากดูแล้วไม่น่าจะเหมาะเด็กๆ ไม่เกิดความรู้สึกสนใจหรือไม่ใช่สำหรับพวกเขาคุณครูจะลองสำรวจถามความคิดเห็นของเขาเพิ่มเติมหรือจะตัดสินใจเลือกเครื่องมือใหม่ด้วยดุลพินิจของตัวเองก็ได้เช่นกัน

4.ใช้ EdTech ที่มีราคาที่เหมาะสมหรือฟรี

ใครว่า EdTech ที่มีคุณภาพต้องราคาสูงหรือแพงๆ เท่านั้น ในยุคปัจจุบันนี้บอกเลยว่าอีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือการเลือกใช้ EdTech ฟรีที่มีคุณภาพและความสามารถมากมายตัวอย่าง EdTech ฟรีระดับคุณภาพที่หลายๆ คนเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือเหล่าแอปเพื่อการศึกษาและการทำงานจาก Google ต่างๆ เช่น Google Classroom, Google Sheets, Google Slides เป็นต้น

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างชัดๆ ก็คือ Starfish Class สุดยอดแอปช่วยคุณครูประเมินทักษะของเด็กๆ ที่เปิดให้คุณครูใช้งานได้แบบฟรีๆ ช่วยให้คุณครูสามารถประเมินทักษะต่างๆ ของเด็กๆ ได้อย่างง่ายมีลูกเล่นการใช้งานหลากหลายออกแบบและพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

5.ใช้ EdTech ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อกลุ่มบุคลากรในสายงานของเราเป็นหลักหรือเพื่อระบบการทำงานในประเทศของเราเป็นหลัก

EdTech หนึ่งๆ ก็อาจไม่ได้เหมาะกับการทำงานในทุกสายงานหรือในทุกประเทศเสมอไปสำหรับเคล็ดลับสุดท้ายนี้ ก็คือการเลือกใช้ EdTech ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อสายงานของเราเป็นหลักรวมถึงในลักษณะเพื่อระบบการทำงานของประเทศเราเท่านั้น เช่น ในบริบทของการศึกษา แน่นอนว่าระบบการศึกษาของสองประเทศไม่เหมือนกัน เครื่องมือวัดสมรรถนะในการเรียนการสอนที่ดีที่สามารถใช้ได้ในการเรียนการสอนจริงๆ ก็ย่อมควรเป็นเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบและพัฒนามาเพื่อระบบของเราเท่านั้นหรืออย่างน้อยที่สุดสามารถใช้ในรูปแบบการศึกษาของเราได้

ตัวอย่างแอปในลักษณะนี้ เช่น การใช้งาน Starfish Class ซึ่งได้รับการพัฒนามาเพื่อระบบการศึกษาไทยโดยเฉพาะเหมาะสำหรับการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะมีการรองรับภาษาไทยและมีหน้าตาการใช้งานต่างๆ ที่เหมาะกับการเรียนรู้ในประเทศไทย

ซอฟต์แวร์การเรียนรู้ชื่อดังอย่าง Khan Academy แม้จะมีเนื้อหาที่ครอบคลุมชวนน่าเรียนแต่ด้วยความที่ถูกออกแบบมาตามมาตรฐานการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลักหลายๆ วิชาก็อาจจะไม่ได้เหมาะต่อการเรียนรู้ของประเทศเราในขณะที่ซอฟต์แวร์การเรียนรู้อย่าง Starfish Labz หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ต่างๆ ในประเทศเราอาจเหมาะกว่าสำหรับการเป็นตัวช่วยการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ

และนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับการใช้ซอฟต์แวร์การเรียนรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุดที่วันนี้ Starfish Labz ได้นำมาฝากทุกคนกันถือว่าเป็นเคล็ดลับที่มีความสำคัญมีประโยชน์จริงๆและสามารถนำไปต่อยอดปรับใช้กันได้เลยทีเดียวในบทความหน้าจะมีเคล็ดลับหรือสิ่งดีๆอะไรมาฝากคุณครู ผู้ปกครองรวมถึงผู้อ่านกันอย่าลืมติดตามกันนะคะ