สร้างพลังการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ เทคนิคการสอน กระตุ้นการคิดของผู้เรียนด้วยเทคนิคการโค้ช (สร้างนักคิด)

การสอนอย่างไรให้นักเรียนเป็นนักคิด เป็นนักนวัตกรรมและเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดของตนเอง ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในการพัฒนานักเรียนด้วยการคิด และการจัดการเรียนการสอนหรือวิธีสอนที่มีประสิทธิภาพเพื่อทำให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จทางการเรียนรู้ โดยการกระตุ้นการคิดของผู้เรียนด้วยเทคนิคการโค้ชโดยที่หลังจากการเรียนแล้วสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงเป็นอย่างดี โดยที่คุณครูสามารถนำเทคนิควิธีการต่างๆนำไปโยงกับการจัดแผนการสอน การออกแบบแผนการเรียนรู้ที่สามารถตอบโจทย์ 8 ตัวชี้วัดใน PA ได้อย่างเป็นอย่างดี

วิธีการการสร้างนักเรียนให้เป็นนักคิด

1.ครูจะต้องกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนได้คิดและค้นหาคำตอบได้ด้วยต้นเองโดยการใช้ทักษะ 3R8C คือทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษที่21ในการเพิ่มพูนทักษะให้นักเรียน นั่นคือ 3R คือ ทักษะด้านความรู้  เป็นทักษะสำคัญในชีวิต และต่อการดำรงชีวิต และ 8C คือ ทักษะทางอารมณ์  ยิ่งฝึกฝนและพัฒนา จะทำให้ผู้เรียนเกิด Mindset ที่ดีและทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

2.ครูจะต้องส่งเสริมและดึงศักยภาพของนักเรียนออกมาโดยครูจะต้องจัดการการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนได้รับทักษะที่จำเป็นทั้งทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การสร้างนวัตกรรม ซึ่งจะทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และได้แสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มตามศักยภาพ

3. ครูต้องมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านวิชาการสามารถสร้างความรู้ใหม่ด้วยตนเอง ในรูปแบบของการจัดการเรียนรู้ในเรื่องการคิดอย่างมีเหตุผลแต่ต้องควบคู่ไปกับคุณธรรมจริยธรรมในการดำรงชีวิตในโลกยุคปัจจุบันที่มีสื่อเทคโนโลยีต่างๆเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตเป็นอย่างมาก

ดังนั้นคุณครูจะต้องเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากการที่เป็นผู้บอกความรู้มาเป็นบทบาทในการเป็นโค้ช ให้กับผู้เรียนเพื่อกระตุ้นการรู้คิด เพื่อดึงศักยภาพ ของผู้เรียน เป็นบทบาทของการเรียนรู้ยุคใหม่ ที่พัฒนามาจากบทบาทการสอนและการเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ดังนั้น การโค้ชจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ ผู้สอนทุกคนที่จะต้อง เรียนรู้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวครูเองในการพัฒนาผู้เรียนเป็นไปตามหลักการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเป้าหมายการพัฒนาไปที่ทักษะการทำได้สามารถลงมือปฏิบัติได้จริงไม่ใช่เพียงการมีความรู้เท่านั้น

ทักษะเพื่อเพิ่มสมรรถนะมีองค์ประกอบดังนี้

1 ทักษะในเรื่องของความรู้ แก่นของความรู้ เป็นความรู้เฉพาะในเรื่องที่จะต้องรู้ที่เป็นสาระสำคัญครูจะต้องอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์มีความรู้ พยายามทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.การมีทักษะ คือสิ่งที่ต้องการให้ทำหรือปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ทักษะทางคอมพิวเตอร์ ทักษะงานฝีมือ ทักษะทางด้านกีฬา เป็นต้น เพราะทักษะที่เกิดได้นั้นมาจากพื้นฐานทางความรู้ และสามารถปฏิบัติได้อย่าง แคล่วคล่องว่องไวตามขีดความสามารถที่ทำได้

3. ลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคล คุณลักษณะต่างๆอาจรวมถึงบุคลิกภาพ เป็นสิ่งที่อธิบายถึงบุคคลนั้น เช่น คนที่น่าเชื่อถือและ ไว้วางใจได้ หรือมีลักษณะเป็นผู้นำผู้ตามเป็นต้น

เทคนิคการโค้ชสามารถสนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายทางชีวิตหรือทางการงานได้ ทำให้ผู้เรียนสามารถเห็นปัญหาและโอกาสที่ตัวเองไม่เคยคิดมาก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น การโค้ชจึงเป็นการการสอนที่ทำให้นักเรียนสามารถค้นหาคำตอบด้วยตัวเองได้ เป็นการสอนที่เชื่อว่าทุกคนมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน และไม่มีวิธีไหนดีที่สุด ผู้เรียนสามารถเห็นโอกาสหรือปัญหาที่ตัวเองอาจไม่เคยคิดมาก่อนจนสามารถตั้งเป้าหมายในมุมมองต่างๆของชีวิต เช่น การทำงาน การใช้ชีวิต จนในที่สุดก็จะทำให้ผู้เรียนได้มองเห็นทิศทางในการเดินตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

เห็นได้ว่า เทคนิคการโค้ช เป็นทักษะหนึ่งของผู้สอน ที่นำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน โดยใช้คำถามกระตุ้นการคิด เพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดทักษะและกระบวนการคิดที่จะช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ให้สามารถมีความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับนวัตกรรมและความสามารถในการสร้างสรรค์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังจะช่วยสร้างผู้เรียน ให้เป็นนักคิดได้ และที่สำคัญเทคนิคการโค้ช สอดคล้องกับรูปแบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning และยังตอบโจทย์ประเด็นการวัดและประเมินผลตัวชี้วัดระหว่างทางอีกด้วย