ข้อดีข้อเสียของโฮมสคูล

Starfish Academy 15008 views • 4 ปีที่แล้ว

การศึกษาในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีหลากหลายทางเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกหา ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีการศึกษาทางเลือก ที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลา สอดคล้องกับธรรมชาิตของผู้เรียน ทั้งการศึกษาแบบอิงระบบโรงเรียน การศึกษาตามสายศาสนา การศึกษานอกระบบ การศึกษาผ่านกิจกรรม หรืออย่างการศึกษาแบบโฮมสคูลก็เป็นอีกแนวทางการศึกษาทางเลือกหนึ่งที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมาก

ซึ่งการศึกษาแบบโฮมสคูล เป็นการสอนที่ให้เด็กๆ ที่เรียนหนังสือกันที่บ้าน โดยที่คุณพ่อคุณแม่จะเป็นคุณครูผู้สอนเอง ซึ่งการศึกษาแบบนี้หลายคนก็อยากจะรู้ว่ามันมีข้อดีข้อเสียกันยังไงบ้าง เพื่อจะได้เป็นตัวเลือกหนึ่งในการเลือกการศึกษาให้กับลูก วันนี้เราจะได้รู้ข้อดีข้อเสียนี้กันค่ะ

ข้อดีของการสอนแบบโฮมสคูล

เป็นการสอนที่ครอบครัวสามารถเลือกหลักสูตรการศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยเลือกตามความต้องการและตามความถนัดของลูกได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องใช้เวลาไปกับการเรียนในหลักสูตรกลาง
เป็นทางเลือกหนึ่งที่พ่อแม่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกให้ได้มากที่สุด และได้ดูพัฒนาการของลูกอย่างเต็มความสามารถ
เป็นทางออกหากครอบครัวไหนที่ไม่สะดวกเดินทาง หรือสำหรับเด็กที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในโรงเรียน เช่น ถูกเพื่อนแกล้ง หรือสิ่งที่กดดันจากโรงเรียนมากมาย
ลดการติดโรคติดต่อหรือโรคระบาดจากที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี
พ่อแม่สามารถจัดสรรงบประมาณการศึกษาได้ตามโครงสร้างของครอบครัวที่มี ไม่ต้องเครียดค่เทอมอีกต่อไป
พ่อแม่สามารถอบรมและเลี้ยงดูคู่กับการให้การศึกษาได้อย่างเต็มที่ เพราะพ่อแม่จะได้อยู่กับลูกแบบใกล้ชิด ได้สอนลูก ได้บอกลูก เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลานั้นเอง
เด็กๆ ได้ค้นพบตัวเองโดยไม่มีข้อแม้ และไม่ต้องกังวลกับเรื่องเวลาอีกเลย แต่เราก็ต้องคอยสังเกตลูกด้วยนะคะว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร และถนัดสิ่งไหน
ไม่เสี่ยงต่อการถูกพี่เลี้ยงใจร้ายคอยทุบตี ตามข่าวน่ากลัวที่เคยได้ยิน เพราะเราไม่รู้ว่าสถานเลี้ยงเด็กๆ แต่ละทีมีพี่เลี้ยงแย่ๆ แบบนี้อยู่หรือเปล่า

ข้อเสียของการสอนแบบโฮมสคูล (ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัว เรียกว่าเป็นข้อควรระวังมากกว่าค่ะ)

พ่อแม่จะเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากเดิม และมีเวลาส่วนตัวน้อยลง เพราะนอกจากจะมีบทบาทพ่อแม่แล้วก็ต้องมีบทบาทคุณครูเข้าไปอีก หากอยากจะผ่านข้อนี้ไปให้ได้ก็ต้องจัดสรรเวลาให้ดีค่ะ
กดดันจนเกิดความเครียด ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเกิดจากพ่อแม่มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำห้ขัดแย้งกันเองและทำโฮมสคูลด้วยกันต่อไปไม่รอดเพราะความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันล้วนๆ
ลูกไม่ค่อยเชื่อฟังเท่ากับคุณครู เพราะยังไงซะแม่หรือพ่อลูกก็จะชินมากกว่าการอยู่กับคนอื่นอยู่แล้วเป็นปกติ สิ่งที่เราควบคุมได้นั้นคืออารมณ์เสียมากกว่า เราต้องดูก่อนว่าเราเป็นคนขี้โมโหไหม ไม่ใช่สอนไปด่าไป ก็ไม่เป็นผลดีกับลูกเลย การที่เขาไม่ยอมเชื่อฟังก็อาจจะมาจากตรงนี้ด้วย และวิธีการสอนของเราด้วย อาจจะต้องปรับเทคนิคกันไปให้เข้ากับธรรมชาติของเด็กแต่ละคนค่ะ
ลูกไม่เป็นดั่งที่ต้องใจหวังไว้ เพราะพ่อแม่บางคนก็อาจจะหวังมากเกินไปว่าจะออกมาดี และชอบเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา ว่าอายุเท่านี้ควรทำได้เท่านี้ ซึ่งบางครั้งเด็กๆ แต่ละคนก็มีพัฒนาการที่ช้าและเร็วแตกต่างกันไป
ไม่ใช่ทางออกสำหรับพ่อแม่ที่อยากจะประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะยังไงโฮมสคูลก็มีค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อย ซึ่งมันลดค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้าได้ แต่ก็ต้องไปลงทุนลงแรงกับค่าไฟที่บ้าน ค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เช่นกัน
ลูกมีอิสระจนควบคุมไม่ได้ เพราะพ่อแม่เข้าใจว่าการเรียนแบบโฮมสคูลคือการปล่อยให้ลูกมีอิสระ ซึ่งบางครั้งอาจจะมากเกินไป จนเราทำอะไรไม่ถูก
พ่อแม่ต้องวางหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นอย่างดี ไม่อย่างงั้นจะกลายเป็นว่าลูกตามเพื่อนๆ ไม่ทัน และไม่อยากไปเรียนได้นั้นเอง
ไม่เหมาะกับพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาอย่างมาก เพราะจะไม่มีค่าอะไรเลยหากทำโฮมสคูลไปนั้นเอง

ทั้งหมดก็เป็นข้อดีและข้อเสียที่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องลองเอามาชั่งน้ำหนักดูนะคะว่า พ่อแม่แบบเรานั้นเหมาะสมที่จะสอนแบบโฮมสคูลแล้วหรือยัง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีหลายครอบครัวที่ทำโฮมสคูลกัน ใครที่อยากจะเริ่มต้นทำก็อยากจะแนะนำว่าให้ลองไปดูครอบครัวอื่นๆ ก่อนว่าเขาสอนกันแบบไหน ลองเข้าไปถามหรือพูดคุย หรือหาความรู้ให้แน่ๆ เสียก่อน คิดดีๆ เสียก่อน และคุยกันในครอบครัวเพื่อให้เป็นในทิศทางเดียวกันนั้นเองค่ะ ยังไงซะการเรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ หากเราพร้อมจะอยู่ข้างลูกก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว