ส่อง 5 บริษัทและเครื่องมือเทคโนโลยีทางการศึกษา พลิกโฉมการสอน จากห้องเรียนธรรมดาสู่ Hybrid
การเรียนการสอนในรูปแบบ Hybrid คงจะเป็นไปไม่ได้เลยหากขาดเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือบรรดา EdTech ต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาโดยเหล่าบริษัทและผู้เชี่ยวชาญ แม้การเรียนรู้แบบ Hyrbid อาจจะกล่าวได้ว่ายังคงอยู่ในช่วงของการเริ่มต้น แต่หลากหลายเครื่องมือที่เราได้เห็น และใช้งานกันมาตลอดนี้ก็เรียกได้ว่าได้ประสบผลสำเร็จ สร้างผลกระทบทางบวก และพลิกโฉมวงการการศึกษาทั้งในต่างประเทศและบ้านเราไปได้มากอย่างทีเดียว
ในบรรดาหลากหลายเทคโนโลยีทางการศึกษามากมายนี้ มีเทคโนโลยีใดกันบ้าง ที่น่าสนใจและได้สร้างผลกระทบที่ดีทางบวกมากมายให้กับบุคลากรทางการศึกษา คุณครู อาจารย์และนักเรียนในตลอดรอบหลายปีที่ผ่านมา วันนี้ Starfish Labz ได้คัดเลือกและรวบรวม 5 เทคโนโลยี
ดังกล่าวกันมาให้แล้ว จะมีเทคโนโลยีใด เครื่องมือใด และจากบริษัท องค์กรใดกันบ้างที่น่าสนใจ ตาม Starfish Labz มาดูกันเลยดีกว่าค่ะในบทความนี้
ในบรรดา EdTech มากมายที่ได้เข้ามาพลิกโฉมวงการการศึกษา หนึ่งใน EdTech ที่มีความสำคัญแน่นอนว่าคือกลุ่มเครื่องมือของ Google ไม่ว่าจะเป็นในหมวดของเครื่องมือการทำงานร่วมกัน อันประกอบด้วยเครื่องมือชื่อดังอย่าง Google Docs, Google Slides, Google Sheets และไปจนถึงเครื่องมือประเภทระบบการจัดการการเรียนรู้ (Learning Management System) อย่าง Google Classroom
จุดเด่นที่มีความสำคัญของเครื่องมือในกลุ่ม Google Workspace for Education ของ Google คือการพัฒนาทุกเครื่องมือภายใต้ความเรียบง่ายและเทคโนโลยี Cloud เมื่อทุกอย่างอยู่บนรากฐานและโครงข่ายของ Cloud การใช้งานร่วมกันระหว่างคุณครูและระหว่างคุณครู-นักเรียนก็เป็นไปได้ง่าย จะใช้งานข้ามเครื่องมือ ผสมผสานต่างๆ กันก็ทำได้อย่างสะดวกและลื่นไหล บุคลากรและเด็กๆ ยังเข้าใช้งานและเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลาและจากทุกหนแห่ง ถือเป็นกลุ่มเครื่องมือที่สามารถเข้ามาส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Onsite ทั้งในช่วงเวลาเรียนและหลังเด็กๆ เลิกเรียนได้อย่างครบถ้วน แทบในทุกกระบวนการ
เทคโนโลยีทางการศึกษา: Google Workspace for Education
ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Workspace for Education และทดลองใช้งาน
2.Explain Everything Whiteboard, Explain Everything
ผู้ใช้งานหลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างกระดานดิจิทัลอัจฉริยะเฉพาะกับ Jameboard ของ Google หรือของ Microsoft Teams ที่มีฟีเจอร์กระดานอัจฉริยะให้ใช้งานอยู่ภายใน แต่หากพูดถึง EdTech กระดานดิจิทัลอัจฉริยะยอดนิยมที่ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อสถาบันการศึกษาตั้งแต่ในระดับเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโตนั้น อีกหนึ่งผู้ผลิตและผู้พัฒนาที่ได้เข้ามามีบทบาทก็คือ Explain Everything และผลิตภัณฑ์กระดานไวท์บอร์ดอัจฉริยะของพวกเขาที่ทำงานได้มากกว่า Jameboard และของ Microsoft Teams อยู่หลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่า การรองรับการทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ตลอดจนความเสถียร สะดวก ลื่นไหล ตัวเครื่องมือยังมีการออกแบบให้เสริมและรองรับการบรรยายแบบ Onsite หรือในรูปแบบ Hyrbid โดยเฉพาะ
เทคโนโลยีทางการศึกษา: Explain Everything Whiteboard
ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Explain Everything Whiteboard และทดลองใช้งาน
3.Starfish Class, Starfish Education
พัฒนาโดย Starfish Education Social Enterprise วิสาหกิจเพื่อสังคมในด้านการศึกษาและเทคโนโลยีการศึกษา Starfish Class คือเครื่องมือช่วยประเมินสมรรถนะสำหรับคุณครูที่พัฒนาโดยคนไทย และถือว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องมือเลยทีเดียวที่ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการเรียนการสอนแบบหลักสูตร CBE หรือฐานสมรรถนะโดยเฉพาะ ตลอดจนการเรียนการสอนที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมรรถนะของเด็กๆ
ภายในเครื่องมือซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ประกอบด้วยสุดยอดฟีเจอร์มากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณครูสามารถประเมินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ คุณครูสามารถสร้างห้องเรียนที่ตัวเองรับผิดชอบได้อย่างไม่จำกัด จะใช้รายการสมรรถนะที่มีอยู่ให้เลือกมากกว่า 100 รายการหรือจะสร้างรายการเฉพาะเจาะจงของตัวเองขึ้นมาก็ได้ การประเมินออกแบบมาอย่างส่งเสริมความโปร่งใสและความถูกต้อง นอกจากประเมินแล้ว ตัวเครื่องมือยังส่งเสริมให้คุณครูเพิ่มหลักฐานคะแนนการประเมินดังกล่าว ตลอดจนสามารถชวนคุณครูท่านอื่นๆ ที่รับผิดชอบร่วมกันมาร่วมกันประเมิน เมื่อประเมินเสร็จแล้ว ยังสามารถดูผลการประเมินในรูปของกราฟได้อย่างชัดเจน มองเห็นแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาของเด็กๆ และในท้ายสุด ยังสามารถกดบันทึกผลออกมาให้อยู่ในรูปของ PDF หรือ Excel สำหรับการนำไปต่อยอดหรือทบทวนต่อเพื่อการพัฒนาทักษะของเด็กๆ ต่อไป
เทคโนโลยีทางการศึกษา: Starfish Class
ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Starfish Class และทดลองใช้งาน
4.Popplet, Notion
นอกเหนือจากเครื่องมือช่วยในการจัดการการเรียนรู้ การทำงานร่วมกันระหว่างคุณครู และการประเมินสมรรถนะของเด็กๆ อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการเรียนการสอนแบบ Hyrbid ก็คือการเลือกใช้สื่อการสอนทางเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็ม สร้างความสนุกสนาน และส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้
หนึ่งในเครื่องมือที่เรียกได้ว่าโดดเด่นและมีประโยชน์อย่างยิ่งก็คือ Popplet เครื่องมือช่วยสร้าง Mind Map หรือผังความคิดที่คุณครูสามารถนำมาเป็นอีกเครื่องมือในการอธิบายเนื้อหาตลอดจนชวนให้เด็กๆ มาทำกิจกรรมร่วมกัน ระดมความคิด หาทางออก และนำเสนอเนื้อหาที่ยากให้กลายเป็นง่ายได้อย่างเห็นภาพ (visualized) และสนุกสนาน น่าสนใจ (engaging)
เทคโนโลยีทางการศึกษา: Popplet
ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: มีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Popplet และทดลองใช้งาน
5.Duolingo for Schools, Duolingo
จบท้ายกันด้วยอีกหนึ่งผู้ผลิตและผู้พัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษาอย่าง Duolingo ที่เชื่อว่าหลายๆ คนรู้จัก เคยใช้งานตัวแอปพลิเคชัน และหลงรักการเรียนรู้ภาษาอย่างสนุกสนานด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบเกม (Gamification) นี้ไปตามๆ กัน
Duolingo for Schools นั้นเป็นเทคโนโลยีทางการศึกษาในรูปแบบเครื่องมือช่วยการเรียนรู้และจดจำคำศัพท์เหมือนกับ Duolingo แอปพลิเคชันหลักของบริษัทผู้ผลิตและพัฒนา แต่มีการปรับและพัฒนาเพิ่มเติมให้เหมาะสมต่อสถาบันการศึกษา โรงเรียน หรือการเรียนรู้ในห้องเรียนเป็นหลักโดยเฉพาะ แต่ละหน่วยการเรียนรู้ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน ACTFL (American Council on the Teaching of Foreign Languages) หรือสภาอเมริกันเกี่ยวกับการสอนภาษาต่างประเทศ และ CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) หรือมาตรฐานสากลที่ใช้อธิบายระดับความเชี่ยวชาญทางภาษาโดยเฉพาะ ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Hyrbid ทั้งภายในห้องเรียนและหลังเลิกเรียน สามารถเป็นได้ทั้งเป็นเครื่องมือเสริมหลักระหว่างการสอนและการบ้านให้กับเด็กๆ ได้เรียนรู้และฝึกฝนเพิ่มเติม ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การเรียนรู้ เทรนด์เทคโนโลยีการศึกษา (EdTech Trend) ในรูปแบบของ Gemificaition ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงและช่วยเสริมกระบวนการการเรียนรู้ของเด็กๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมและสนุกสนาน
เทคโนโลยีทางการศึกษา: Duolingo for Schools
ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน: ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Duolingo for Schools และทดลองใช้งาน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว Starfish Labz เชื่อว่าผู้อ่าน คุณครู หรือบุคลากรทางการศึกษาหลายๆ คนคงอยากจะเริ่มลองใช้งานสักเครื่องมือกันบ้างแล้ว การเรียนรู้แบบ Hybrid โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาเสริมนั้น สำหรับคุณครูหลายๆ คนอาจฟังดูเหมือนช่างเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ในความจริงแล้ว ไม่ยากเลย ขอเพียงแค่เลือกเครื่องมือที่ตรงตามจุดประสงค์ มีฟีเจอร์และหน้าตาการใช้งานที่สะดวก เรียบง่าย เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานอย่างคุณครูและเด็กๆ นั่นเองค่ะ
อ้างอิง:
บทความใกล้เคียง
Active Teacher ตอน Portfolio ตัวช่วยครูค้นหาศักยภาพนักเรียน
Evidence ฟีเจอร์สำคัญในเครื่องมือครู Starfish Class สำคัญอย่างไรต่อการประเมินสมรรถนะของเด็กๆ
5 แอปพลิเคชันช่วยคุณครูประเมินสมรรถนะของผู้เรียนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
Related Courses
การสอนคณิตศาสตร์ (3R)
คณิตศาสตร์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่เรามีเทคนิคดีๆ มาเป็นตัวช่วยในการสอน คณิตศาสตร์ของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่น่าเบื่ ...
เปิดโลกการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย Google Lens
Google Lens เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน ผ่านการใช้กล้องสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ผู้ ...
เปิดโลกการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย Google Lens
ต้องใช้ 100 เหรียญ
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
หากคุณเป็นคนชอบวาดรูป ชอบการขีดเขียน หรือการจดบันทึก อยากลองทำ Visual Note แต่ไม่รู้จะสื่อสารออกมาอย่างไรดี คอร์สเ ...
เริ่มต้นทำ Visual Note อย่างง่ายใครๆ ก็ทำได้
ต้องใช้ 100 เหรียญ
การติดตาม ปรับปรุง และผลการสะท้อนกลับ
การติดตามเพื่อพัฒนา ประเมินความก้าวหน้า และสะท้อนผลที่เกิดขึ้นรวมกัน เป็นการกำหนดวิธีในการติดตามผลจากการจัดกิจกรรมการ ...