ระบบติดตามช่วยเหลือผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ
หลายคนอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องของ “เทคโนโลยีสารสนเทศ” มีความเกี่ยวข้องอย่างไรต่อระบบการศึกษา ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมเพื่อใช้ในการจัดเก็บ ค้นค้นหาข้อมูล การส่งผ่านรวมถึงจัดดำเนินการข้อมูลที่มีอยู่
ในระบบ ให้เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น และสะดวกต่อการนำข้อมูลมาใช้งาน
บทความนี้ Starfish Labz มีข้อมูลเกี่ยวกับ Info ระบบติดตามช่วยเหลือผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์จากนักพัฒนาการศึกษามูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ จากประสบการณ์จริงตรงตามสภาพจริงในเรื่อง การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับใช้ในระบบการศึกษามาฝากกันค่ะ
จุดเด่นของ Q-info เป็นอย่างไร
ในส่วนการทำงานของโค้ชมดที่มีส่วนในการนำระบบข้อมูลสารสนเทศของโครงการเข้าไปทำงานร่วมกับโรงเรียนนั้น โครงการมีระบบข้อมูลสารสนเทศที่ชื่อว่า Q-Info ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะเข้าไปช่วยในเรื่องการใช้ระบบข้อมูลสารสนเทศ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาโรงเรียน ที่มีจุดเด่นสามารถทำได้ดังนี้
เพื่อใช้ในการติดตามนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างต่อเนื่อง สามารถติดตามสถิติการมาเรียน-ขาดเรียนรวมถึงผลการเรียนของนักเรียนเป็นรายคนเพื่อใช้ในการแจ้งเตือนกรณีนักเรียนที่มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เพื่อเป็นตัวช่วยในเรื่องลดภาระงานของครูในด้านการประมวลผลข้อมูล และลดภาระทางธุรการ ทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในกระบวนการวางแผนพัฒนาโรงเรียนลดภาระด้านเอกสาร Q-Info สามารถลดภาระของงานธุรการ รวมถึง
ครูผู้สอน: ช่วยลดภาระด้านงานเอกสารของในการจัดทำของครูผู้สอน อาทิ ปพ.5, ปพ.5.1
ครูฝ่ายทะเบียนและวัดผล: ช่วยลดภาระในการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานสรุปผลการเรียนการสอนภายในโรงเรียน อาทิ ปพ.1 ปพ.2 ปพ.3 ปพ.6 และ ปพ.7
ผู้อำนวยการโรงเรียน: สามารถเรียกดูรายงานที่จำเป็นต่าง ๆ ในการวางแผนนโยบายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนได้ อาทิ สัดส่วนของนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ ต่ำกว่าเกณฑ์ ผลสัมฤทธิ์ในกลุ่มสาระต่าง ๆ เปรียบเทียบกับผลสอบภายนอก อัตราการขาดเรียนของนักเรียนในแต่ละระดับชั้น
เมื่อมีเทคโนโลยีในระบบของโรงเรียนจะส่งผลต่อการทำงานของโรงเรียนอย่างไร
เมื่อโครงการและโค้ชได้นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาในโรงเรียนซึ่งส่งผลต่อการทำงานในเรื่องของการวัดและการประเมินผลมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้เป็นระบบติดตามและช่วยเหลือนักเรียนได้ในกรณีที่นักเรียนมีความเสี่ยงที่จะออกนอกระบบ นอกจากนี้ยังเก็บข้อมูลในการวัดผลห้องเรียนในแต่ละระดับชั้น
เทคโนโลยียังสามารถนำมาใช้ในเรื่องของการวางแผนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ให้ต่อยอดไปได้และช่วยให้มีสื่อการเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้น่าสนใจมากขึ้น
จากบทสัมภาษณ์: นางสาวพรพรรณ สารมะโน (โค้ชมด) นักพัฒนาการศึกษา มูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม
ความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีในการจัดการบริหารระบบในโรงเรียน
โค้ชแจ็คเล็งถึงในปัจจุบันนี้ ที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าไปอยู่ในยุค 4.0 ในเรื่องของเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ซึ่งได้เกี่ยวข้องในเรื่องของระบบบริหารการศึกษา ในอดีตนั้นจะเห็นว่ามีการจัดเก็บข้อมูลโรงเรียนจะอยู่ในกระดาษ แต่เมื่อได้นำเทคโนโลยีเข้ามาจัดการกับข้อมูลต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในระบบไอซีที หรือคอมพิวเตอร์จะช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น มีความน่าเชื่อถือของการจัดเก็บข้อมูล มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำและเที่ยงตรงของข้อมูล ซึ่งโรงเรียนสามารถนำข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ไปวิเคราะห์ในเรื่องนักเรียนที่มีความเสี่ยง หรือต้องการความช่วยเหลือ และสามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันที หรือการทำข้อมูล SAR จากเมื่อก่อนต้องมีการหาข้อมูลหรือสร้างข้อมูลใหม่ขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน แต่เมื่อมีระบบสารสนเทศเข้ามา ถ้าครูทยอยเก็บข้อมูล ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเราจะใช้ข้อมูลจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ในโรงเรียนที่ใช้เทคโนโลยีในการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ โรงเรียนต้องมีการกำหนดนโยบายจากผู้บริหารโรงเรียน ที่ให้ครู ทุกคนมาเรียนรู้ในการใช้งานระบบ แต่อาจเกิดเหตุการณ์ เช่น ผู้อำนวยการมีความประสงค์ ในการใช้ระบบสารสนเทศจากโครงการ แต่ครูไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่สามารถดำเนินงานไปได้ ฉะนั้นทีมผู้บริหารโรงเรียนต้องสร้างความตระหนัก ให้มองเห็นว่าระบบเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทและสามารถช่วยเหลือในการจัดการระบบอย่างไรบ้าง
ในส่วนที่สอง คือต้องมีการสร้างความตระหนักในการเรียนรู้ของครู ว่าระบบที่เข้ามามีประโยชน์ ครูจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้อย่างไร โลกเปลี่ยนครูก็ต้องปรับตัวเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่ง คือ การมีพี่เลี้ยงหรือโค้ชผู้ช่วยที่เข้ามาคอยให้คำปรึกษา คำแนะนำในเรื่องของระบบ เมื่อมีเรื่องใหม่เข้ามาก็ต้องสร้างการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ เมื่อมีโค้ชหรือพี่เลี้ยง
คอยให้คำแนะนำก็จะช่วยให้เขามีกำลังใจ มีความพร้อมในการทำงาน เขาจะไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง เขาไม่มีพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ เหมือนกับเขาจะต้องมางมเข็มหาเอง ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมามีผล ที่ส่งเสริมให้การใช้เทคโนโลยีในการจัดระบบสารสนเทศมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากบทสัมภาษณ์: นายศรศักดิ์ หลาบนอก (โค้ชแจ๊ค) นักพัฒนาการศึกษา มูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม
Related Courses
Micro Learning - แหล่งเครื่องมือช่วยครูจัดการชั้นเรียน
Starfish แหล่งเครื่องมือช่วยครูในจัดการชั้นเรียนที่หลากหลาย เช่น Starfish Labz, Starfish Class แบบเว็บไซต์ และแ ...
Micro Learning - เครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
เครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนในคอร์สนี้ประกอบไปด้วย 3 แอปพลิเคชัน คือ Padlet ,Word wall และ Class Time
Micro Learning - เครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
Micro Learning เครื่องมือช่วยสอนการเรียนออนไลน์
เครื่องมือช่วยครูในการเรียนออนไลน์ในคอร์สนี้ แนะนำเครื่องมือที่น่าสนใจ 3 ตัวช่วย คือ Google Earth, Line Open Chat แ ...
การออกแบบและการสร้างสื่อเทคโนโลยีสำหรับห้องเรียนอัจฉริยะ
หลักสูตรสำหรับครูที่ต้องการออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัล และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ ...