ศธ. เข้ม! ผิดวินัยร้ายแรง โดนโทษจริงจัง! พอใจ TRS ทะลุ 1.5 หมื่น เดินหน้าพัฒนา PISA พร้อมสั่งโรงเรียนพิจารณาปิด-เปิด ช่วง PM 2.5

12 ชั่วโมงที่แล้ว
16 views
โดย Starfish Labz
ศธ. เข้ม! ผิดวินัยร้ายแรง โดนโทษจริงจัง! พอใจ TRS ทะลุ 1.5 หมื่น เดินหน้าพัฒนา PISA  พร้อมสั่งโรงเรียนพิจารณาปิด-เปิด ช่วง PM 2.5

รมว.ศธ. “เพิ่มพูน” เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 3/2568 ยืนยันหนักแน่น ครูและข้าราชการยุคนี้หากผิดวินัยร้ายแรงคาดโทษจริงจังให้เห็นเป็นตัวอย่าง พอใจกระแสลงทะเบียนระบบย้ายครู TRS กว่า15,000 ราย คาดปลายปีนี้ผลการขับเคลื่อน PISA ออกมาดีทุกมิติตามที่ตั้งไว้ พร้อมเดินหน้า Zero Dropout ต่อเนื่อง และให้อำนาจสถานศึกษาพิจารณา ปิด – เปิด การเรียนการสอนช่วงฝุ่น PM 2.5

22 มกราคม 2568 – พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ กระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 3/2568 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และออนไลน์ผ่านระบบ Zoom meeting

รมว.ศธ. เปิดเผยภายหลังการประชุม ดังนี้

บทลงโทษเด็ดขาดครู/ข้าราชการผิดวินัยร้ายแรง 

จากกระแสข่าวปัจจุบันที่พบว่ามีครูหรือบุคลากรทางการศึกษาบางคนที่กระทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมถึงขั้นผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง กระทรวงศึกษาธิการจึงดำเนินการด้วยความเร่งด่วนคือให้พักราชการไว้ก่อน และหากตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูหรือข้าราชการแล้วพบว่ามีหลักฐานเพียงพอจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างจริงจัง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคุรุสภาในการพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูระหว่างการสอบสวนความผิดร้ายแรง ขอย้ำชัดเจนว่าในยุคปัจจุบันหากพบว่าครูหรือข้าราชการคนไหนกระทำผิดในหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการให้เห็นว่าบุคคลที่ทำผิดได้รับการลงโทษรวดเร็วและฉับไวอย่างจริงจัง

การยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA

การติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA เป็นไปในทิศทางค่อนข้างดี ณวันนี้มีครูเข้าร่วมอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ในระดับเขตพื้นที่เรียบร้อยแล้ว 78,788 คน จากจำนวนครู 445,624 คน ซึ่งได้หารือเรื่องความสำเร็จในด้านนโยบายและแนวทาง การติดตามอย่างเป็นระบบ การสื่อสารของผู้บริหารเพื่อสร้างความเข้าใจ และแกนนำและศึกษานิเทศก์ระดับพื้นที่ อีกทั้งยังหารือปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้หน่วยงานจัดการศึกษาที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด สพฐ. หาทางดำเนินงานในการแก้ไขร่วมกัน

โดยเมื่อต้นสัปดาห์ได้มีการประชุม PISA ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสังกัดต่าง ๆ เป็นอย่างดีในการดำเนินงาน นับเป็นมิติที่มีความสุขที่ในการขับเคลื่อนร่วมกัน และในส่วนของสภาการศึกษาได้มีรายงานติดตามเพิ่มเติมเพื่อยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ (learning outcome) ของผู้เรียนจากผลการทดสอบ PISA รวมถึงการพัฒนาผลการจัดอันดับ IMD ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ได้ดำเนินการร่วมกันอีกทางหนึ่งในเรื่องฐานข้อมูล เชื่อว่าในเรื่องของการยกระดับคุณภาพการศึกษาจะตอบโจทย์การประเมิน PISA และช่วงปลายปีผลน่าจะออกมาดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

ระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System: TRS)

สำหรับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี พ.ศ. 2568 ผ่านระบบ TRS ครั้งที่ 1 เป็นไปด้วยดีในการดำเนินงาน กระแสตอบรับในโลกโซเชียลเป็นที่น่าพอใจมาก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 3/10 มีครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการขอย้ายในระบบ ณ วันที่ 21 มกราคม 2568 จำนวน 15,997 ราย ซึ่งผู้ยื่นคำร้องสามารถเปิดดูได้ทุกขั้นตอนการดำเนินงานแบบเรียลไทม์

“ขอเน้นย้ำไปยังครูและบุคลากรทางการศึกษา อย่าเชื่อหากมีผู้แอบอ้างว่าจะดำเนินการให้โดยมีค่าจ่าย ยุคนี้ต้องไม่มีใครเสียเงินในการโยกย้าย ทุกอย่างในระบบย้ายครู TRS โปร่งใสตรวจสอบได้ และมีเหตุผลชี้แจงได้หมดในทุกขั้นตอน ครูจะทราบว่าได้เลยว่าได้ย้ายหรือไม่ได้ย้ายเพราะอะไร“ 

การติดตามเด็กนอกระบบการศึกษา (Thailand Zero Dropout)

ในด้านการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาเชิงระบบ (THAILAND Zero Dropout) เป็นเรื่องน่ายินดีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จากที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้รายงานผลการติดตามข้อมูลเด็กตกหล่น พบว่าขณะนี้สามารถตามเด็กกลับเข้ามาสู่ในระบบได้ 56,656 คน ซึ่งในส่วนของ สพฐ. ดำเนินการได้ 44,171 คนนอกนั้นเป็นการดำเนินงานของ สกร. และ ศธจ. 12,485 คน

ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างจริงจังในการค้นหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา ทั้งครูและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันขับเคลื่อนทุกภาคส่วนในการ “พาน้องกลับมาเรียน” ส่วนเรื่อง “บุรีรัมย์โมเดล” ผลออกมาค่อนข้างดีเช่นกัน และที่ดีเยี่ยมอีกแห่งคือจังหวัดแม่ฮ่องสอนสามารถนำเด็กกลับมาได้จำนวนค่อนข้างสูง เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานในสังกัดได้นำตามนโยบาย “ทำดี ทำได้ ทำทันที” ไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

มาตรการป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 

ช่วงนี้ทั่วประเทศเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ศธ.ได้วางมาตรการการจัดการโดยให้สถานศึกษาพิจารณาจัดการเรียนการสอนตามบริบทพื้นที่เพราะปัญหาฝุ่นพิษที่พบนั้นมากน้อยไม่เท่ากัน และบางโรงเรียนมีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งในห้องเรียน เช่น โรงเรียนราชวินิตที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมล่าสุดพบว่าทุกห้องเรียนมีเครื่องฟอกอากาศครบ ทั้งนี้ หากพื้นที่ใดมีค่าฝุ่นระดับวิกฤตสีแดงให้เป็นอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนใช้ดุลยพินิจ เปิด – ปิด การเรียนการสอนได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้าโรงเรียนใดมีระบบจัดการป้องกันฝุ่นได้ดีการมาเรียนของเด็กอาจปลอดภัยกว่าอยู่ที่บ้าน

ที่มาของข่าว: https://moe360.blog/2025/01/23/moe-coordinate3_68/ 

Share:
|

มาร่วมเรียนรู้กับ Starfish Labz

แหล่งเรียนรู้และชุมชนออนไลน์เพื่อนักการศึกษาและผู้ปกครอง

ลงทะเบียน

ข่าวที่เปิดอ่านมากที่สุด