การพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน โดยใช้รูปแบบ PAPADA Model

นางสาวปภาดา

Top Post

22 วันที่แล้ว

A-Attitude การสร้างเจตคติที่ดีในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนการทำงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1) สร้างทัศนคติการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ดีให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา
2) สร้างความตระหนักและประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในกระบวนการทำงานอย่างรอบด้าน
P-Participation การมีส่วนร่วมในการพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษา
1) พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีส่วนร่วมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกันในดำเนินงานต่างๆ ในโรงเรียน
2) พัฒนาชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC)
A-Action การลงมือปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงานต่างๆ ในโรงเรียน
1) สร้างช่องทางออนไลน์ในการปฏิบัติงานร่วมกันในโรงเรียน เช่น การใช้ google drive, google from, google sheet เป็นต้น
2) สร้างช่องทางออนไลน์ในการใช้ Q-info นวัตกรรมการศึกษาในการนำมาใช้ในการบริจัดการข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ในชั้นเรียน
D-develop พัฒนาและขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากทางการศึกษาในโรงเรียนมีการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอในด้านสมรรถนะทางเทคโนโลยี
1) ขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยี
อย่างต่อเนื่องเช่น การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาเรื่อง การพัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัลสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา
2) ขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมพัฒนาสมรรถนะทางด้าน
ดิจิทัลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3) ขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรม cap craft โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
4) ขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมขับเคลื่อน AI สู่ชั้นเรียน “การประยุกต์ใช้ Gen AI เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นสมรรถนะของผู้เรียน
5) ขับเคลื่อนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมหลักสูตร Webinar AI 12 หลักสูตร ของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 18 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568
A – Assessment ประเมินผลการพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพัฒนากระบวนการสอนแบบ active learning
1) มีการประเมินผลการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนของครูด้วยรูปแบบการ
นิเทศการสอน
2) ส่งเสริมให้ครูสร้างนวัตกรรม และเทคโนโลยีในการนำมาใช้ในการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนและมีการประเมินสื่อและนวัตกรรมหลังการใช้เพื่อนำผลที่ได้ไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
3.2 การพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ มี 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 วางแผน
1) สร้างความตระหนัก หรือการรับรู้ โดยการประชุมชี้แจงนโยบายการจัดการเรียนรู้ให้คณะครูและบุคลากร
2) ร่วมวางแผนจัดทำโครงการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อนำสู่การพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา
1) ขับเคลื่อนและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้และมีสมรรถนะด้าน
เทคโนโลยี
2) ให้ความรู้ในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา
ขั้นตอนที่ 3 พาปฏิบัติ
1) ครูออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
2) ครูมีการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้และนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
3) จัดกิจกรรม PLC เพื่อสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
4) จัดการประกวดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่นำมาใช้ในกระบวนการสอน
5) ส่งเสริมให้ครูผู้สอนร่วมประกวดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 4 วัดและประเมิน
1) นิเทศ ติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
2) ทบทวนหลังปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) โดยใช้ 5 คำถาม
คำถามที่ 1 เป้าหมายหรือความคาดหวังของครู
คำถามที่ 2 เป็นไปตามเป้าหมายหรือความคาดหวังหรือไม่ เพราะอะไร
คำถามที่ 3 สิ่งที่เกินเป้าหมายหรือความคาดหวัง เพราะอะไร
คำถามที่ 4 สิ่งที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายหรือความคาดหวัง หรือปัญหาที่พบ เพราะ
อะไร
คำถามที่ 5 ครูจะกลับไปทำอะไรต่อ หรือปรับปรุงการสอนหรือการทำงานอย่างไร
3.3 การดำเนินงานตามกิจกรรม
สร้างความรู้ความเข้าใจกับคณะครู บุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อนำนวัตกรรมการพัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน โดยใช้รูปแบบ PAPADA Model ไปใช้ดำเนินงานในทุกภาคส่วน มีการกำหนดแนววิธีดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคต เน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคคล มีการทำงานเป็นทีม เพื่อสร้างคุณค่าให้กับโรงเรียนผ่านกระบวนการการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ โดยกำหนดวิธีการดำเนินการตามแผนผังนี้

โค้ชชล

Top Fan

21 วันที่แล้ว

น่าสนใจมากค่ะ